หน้ายางรถยนต์ซึ่งเป็นส่วนที่สัมผัสพื้นถนนตลอดเวลาของยางในขณะที่รถแล่นไปบนถนนมี 2 ส่วนประกอบที่สำคัญ ซึ่งจริงๆ แล้วมีทั้งส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนนและไม่สัมผัสพื้นถนน คือดอกยางและร่องยาง ซึ่งทั้งสองส่วนบนหน้ายางนี้คือสิ่งสำคัญเพื่อทำให้ยางรถยนต์มีคุณสมบัติด้านการยึดเกาะถนนทั้งบนถนนแห้งและเปียกหรือมีน้ำท่วมขัง

ดอกยาง–ร่องยางคืออะไร ทำหน้าที่อะไร

ดอกยางคือส่วนบริเวณหน้ายาง ซึ่งมีหน้าสัมผัสพื้นถนนตลอดเวลาที่รถวิ่ง โดยสิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับดอกยางบนหน้ายางก็คือร่องยาง ซึ่งเป็นร่องที่ลึกลงไปจากหน้ายางหรือร่องที่แทรกอยู่ระหว่างดอกยางไม่ได้มีส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนน

เหตุผลที่ยางรถยนต์ต้องมีทั้งดอกยางและร่องยางก็เพราะ ดอกยางซึ่งเป็นส่วนของหน้ายางที่สัมผัสพื้นกับถนนมีหน้าที่หลักในการทำให้ยึดเกาะถนน ส่วนร่องยางซึ่งไม่ได้สัมผัสพื้นถนนขณะรถวิ่งนั้นทำหน้าที่ในการรีดน้ำออกจากหน้ายางเพื่อช่วยให้ดอกยางสัมผัสพื้นถนนเมื่อขับรถบนถนนที่เปียก

ดอกยาง-ร่องยาง สิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ

ในเมื่อร่องยางเป็นสิ่งทำหน้าที่รีดน้ำบนถนนที่เปียก ดังนั้นเมื่อร่องยางที่ตื้น หรือที่เรียกว่าดอกยางหมดหรือดอกยางโล้น ซึ่งหมายถึงระดับความลึกของร่องยางเหลือน้อยจึงส่งผลให้ยางรีดน้ำได้น้อยลงและลื่นเมื่อขับรถบนถนนที่มีลักษณะเปียกหรือเมื่อฝนตก เพราะร่องยางที่ตื้นไม่สามารถรีดน้ำได้ดี จะทำให้มีน้ำแทรกระหว่างหน้ายางกับพื้นถนน ส่งผลให้ผิวสัมผัสของหน้ายางกับพื้นถนนลดลง จึงทำให้เกิดการลื่นไถลได้

คำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับความลึกของร่องยางคือไม่ควรมีความลึกน้อยกว่า 3 มม. แต่อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้อาจขึ้นอยู่กับระดับความลึกของน้ำบนถนนรวมทั้งความเร็วของรถที่ใช้ด้วย

ยางรถยนต์สำหรับการใช้งานในลักษณะต่างๆ

นอกจากการใช้งานรถบนถนนแห้งและถนนเปียกแล้ว ผู้ขับรถยังอาจขับรถในถนนที่มีลักษณะพื้นผิวอื่นๆ บรรดาผู้ผลิตยางรถยนต์จึงมีการออกแบบยางมาเพื่อรองรับการขับรถบนถนนและเส้นทางในลักษณะต่างๆ ดังนั้นผู้ขับรถจึงควรคิดถึงลักษณะของถนนที่ขับรถเป็นประจำด้วย เมื่อจะซื้อยาง เพื่อจะสามารถเลือกซื้อยางที่มีลักษณะของดอกยางเหมาะกับการใช้งาน

– ยางรถยนต์สำหรับใช้บนถนนเรียบทั่วๆ ไป ควรมีดอกยางในลักษณะดอกละเอียด ร่องยางไม่ห่าง เพื่อลดการเสียผิวสัมผัสของหน้ายางกับพื้นถนน สามารถรีดน้ำได้เร็ว รวมทั้งมีเสียงรบกวนน้อย

-ยางรถยนต์สำหรับเส้นทางออฟโรด ยางรถยนต์สำหรับใช้ในการเดินทางที่มีลักษณะออฟโรด ลุยโคลน หิน หรือใช้งานในเส้นทางวิบากทุรกันดาร ควรมีลักษณะดอกยางที่ใหญ่ มีร่องยางที่ห่าง เพื่อเน้นคุณสมบัติในการสลัดโคลน หิน หรือน้ำ เพราะหากใช้ยางที่มีดอกยางละเอียดเศษหิน กรวด โคลนอาจเข้าไปติดในร่องยางจนหน้ายางลื่น อย่างไรก็ตามหากคิดจะนำยางที่เหมาะสำหรับการใช้บนเส้นทางออฟโรดไปใช้บนถนนเรียบทั่วไปจะมีการยึดเกาะถนนน้อย จากลักษณะของร่องยางที่ห่างซึ่งทำให้มีผิวสัมผัสถนนน้อย รวมทั้งเมื่อใช้ความเร็วสูงจะมีเสียงดัง

-ยางรถยนต์สำหรับใช้งานกึ่งลุยกึ่งเรียบ หรือที่เรียกว่ายาง All Terrain เป็นยางรถยนต์ที่ผสานคุณสมบัติการใช้งานบนถนนเรียบและการลุยไว้ด้วยกัน จึงทำให้เมื่อใช้งานบนถนนเรียบจะมีการยึดเกาะถนนที่ดีในระดับหนึ่ง แต่จะมีเสียงรบกวนบ้าง ในขณะที่เมื่อนำไปลุยบนเส้นทางทุรกันดารจะสามารถใช้งานได้ดีกับพื้นผิวที่เป็นทางลูกรัง ทราย กรวด หิน

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th