ถ้าพูดถึงรถยนต์อีโคคาร์ที่ได้รับความนิยมในเมืองไทยคงมีอยู่ไม่กี่ยี่ห้อ แน่นอนหนึ่งในนั้นก็ต้องเป็น ซูซูกิ สวิฟท์ หลังจากติดท็อปชาร์ตอีโคคาร์ที่ได้รับความนิยมในเมืองไทยมานานตั้งแต่ ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นแรก ในปี 2555 ต่อมาในปี2556ได้ทำการออกสีพิเศษ สวิฟท์สีเขียวสดใส Energy Green Limited  ในปี 2558 ซูซูกิได้เสริมความแกร่งในสไตล์สปอร์ตกับสวิฟท์RX ในปี 2559

ซูซูกิยังคงทำตลาดอย่างต่อเนื่องปล่อยสวิฟท์ Sai ที่มาพร้อมสีใหม่ และดีไซน์ด้านหน้าที่หรูขึ้น พร้อมฟังก์ชั่นที่ครบครันยิ่งขึ้น ส่าสุดได้ทำการเปิดตัวซูซูกิ สวิฟท์ RX-II ที่ผสมผสานความหรูหรากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว และรุ่นนี้น่าจะเป็นรุ่นสุดท้ายของโมเดลแน่นอนรุ่นสุดท้ายทางซูซูกิเค้าจัดเต็มจัดหนักเติมออฟชั่นกันเต็มที่

วันนี้เรามีโอกาศได้รับเชิญจากทางซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย ให้เข้าร่วมทดสอบเจ้า ซูซูกิ สวิฟท์ RX-II คันนี้กันโดยใช้เส้นทางกรุงเทพ – ระยอง ก่อนอื่นเรามาดูกันดีกว่าว่าเจ้ารุ่นนี้เค้าใส่อะไรมาให้บ้าง ภายนอกมองผ่านๆเหมือนเอาสวิฟท์ Sai มาผสมรวมกับตัว RX เออมันดูลงตัวดีเหมือนกันนะมีความสปอร์ตแต่แฝงความหรูหราไว้ได้อย่างลงตัว ด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์HID ปรับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ ที่มาจาก ตัว RX ผสมผสานกับไฟตัดหมอกที่มี LED illumination Lamps เป็นไฟหรี่นะครับไม่ใช่ไฟDaylight อันนี้มาจาก Sai ล้อดีไซน์ใหม่สวยเท่ห์อย่าบอกใครขนาด 16 นิ้วสี Gun Metallic ด้านหลังมีสปอยเลอร์หลังบนหลังคาเปลี่ยนเสาอากาศแบบเดิมๆเติมความหรูหราลงไปโดยให้แบบShark Fin antenna ไฟท้ายยังคงใช้ของตัว RX และเพิ่ม Emblem RX-II เข้ามา

ภายในยังคงสปอร์ตดูดีเหมือนเดิม เพราะยกมาจากตัว RX ทั้งหมด ตกแต่งด้วยโทนสีเทา-ดำ ใช้เบาะนั่งแบบผ้า มี พวงมาลัยมัลติฟังชั่น พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) และระบบควบคุมเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) ช่วยให้ขับสนุกมากขึ้น ฐานเกียร์หุ้มหนังดีไซน์สปอร์ต พร้อมตกแต่งด้วยแถบด้ายสีเงิน

ด้านเครื่องยนต์ยังคงใช้ตัวเดิม รหัส K12B ความจุ 1.25 ลิตร 4 สูบ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที รองรับเชื้อเพลิง E20 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT  7 สปีด อย่างที่รู้ๆกันเพราะหลายท่านคงได้อ่าน หรือได้สัมผัสกับเจ้า สวิฟท์ RX มาแล้ว อัตราเร่งของ Swift RX-II ในช่วงต้นออกตัวมาแบบเรื่อยๆ ไม่ได้หวือหวาสักเท่าไหร่ แต่พอในช่วงกลางถึงปลาย แหมม มันขับสนุกจริงๆผมพูดเลย (ขับสนุกในที่นี้หมายถึงเทียบระหว่างเครื่องยนต์ 1200 ซีซีด้วยกันนะ)ยิ่งตอนผมทดลองขับใช้ Paddle Shift ในการเปลี่ยนเกียร์ช่วยเพิ่มฟีลลิ่งสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ต้องบอกเลยว่าได้ดังใจครับ เร่งแซงสบายโดยไม่ต้องคิดดาวน์ช่วย ขึ้นเนินลาดชันไม่มีปัญหา ชอบครับขับสนุกดีจัง ส่วนช่วงล่างเหมือนเดิมครับยังคงใช้ แม็กเฟอร์สัน สตรัท พร้อมคอยล์สปริง ในด้านหน้า และด้านหลังเป็นทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง ที่ให้ความนุ่มนวลดูดซับแรงสั่นทะเทือนได้ดี เค้าโค้งด้วยความเร็วก็ให้ความมั่นใจดีครับตัวรถไม่ค่อยมีอาการโคลงเท่าไหร่นัก

อย่างที่ทุกท่านคงทราบกันดีรถล็อดสุดท้ายปลายโมเดลมักจะได้ของเพิ่มออฟชั่นเพียบ และปรับปรุงข้อเสียทั้งหมดไปแล้ว ทำให้มั่นใจได้เลยว่า เมื่อคุณตัดสินใจซื้อเจ้า สวิฟท์ RX-II คันนี้ไม่มีผิดหวังแน่นอน รูปลักษณ์รูปทรงภายนอกก็ดูดี เอาแบบพูดกันตรงๆเลยนะเอาจุดเด่นของ สวิฟท์ Sai มาผสมกับจุดเด่นของสวิฟท์ RX นั้นเอง กับราคาที่เปิดมาเท่าเดิม 599,000 บาท มองเรื่องความคุ้มค้าคุ้มมากครับคันนี้

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th