จบลงแล้วสำหรับการแข่งขัน Mediacrop Subaru Car Challenge 2018 โดยคนไทยที่ยืนหยัดเหลืออยู่เป็นคนสุดท้ายคือคุณต้าร์-ไพฑูรย์ สงวนนาม ได้รับรางวัล Country Team Winner หลังจากทำเวลารวมนานที่สุด 475 ชั่วโมง 15 นาที พร้อมคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศของการแข่งขันครั้งนี้

สู้กับแดดฝนยืนอย่างยาวนานตลอด 75 ชั่วโมง 15 นาที กับการประทับฝ่ามือของเขาลงบนสัญลักษณ์ที่อยู่บนรถยนต์ Subaru ท่ามกลางแสงแดด และสายฝน บวกกับความกดดันจากคณะกรรมการ และพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือคนสุดท้ายที่ยืนหยัดอยู่จนจบการแข่งขัน พลาดรางวัลใหญ่รถยนต์ Subaru XV 2.0 i-S มูลค่า 70,800 ดอลล่าร์สิงคโปร์ (ราว 1.77 ล้านบาท) ไปอย่างน่าเสียดาย

https://www.facebook.com/ILOVESUBARU/videos/439967599864124/

ต้าร์-ไพฑูรย์ สงวนนาม ตัวแทนคนสุดท้ายของประเทศไทย พร้อมคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศของปี 2018

ผู้ที่คว้าชัยชนะได้รับรางวัลใหญ่ในครั้งนี้คืออนาลิซ่า โมกห์ตาร์ สุภาพสตรีชาวสิงคโปร์เจ้าถิ่นที่เคยคว้าตำแหน่งอันดับ 2 ในการแข่งขันรายการนี้มาแล้วถึง 2 ปีติดต่อกันจนมาเป็นผู้ชนะในครั้งนี้ได้สำเร็จ

นอกเหนือจากการมีสิทธิ์ได้รับรางวัลใหญ่ และใบรับรอง COE สำหรับรถยนต์ของผู้ชนะแล้ว ยังมีรางวัลอื่นๆ กระตุ้นให้ผู้เข้าแข่งขันก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองอีกด้วย โดยผู้เข้าแข่งขันที่ทำเวลารวมเกิน 48 ชั่วโมงจะได้รับเงินสด 100 ดอลล่าร์สิงคโปร์ (ราว 2,500 บาท) และถ้าฝ่ามือยังประทับอยู่บนตัวรถเมื่อผ่าน 60 ชั่วโมงจะได้รับรางวัลอีก 100 ดอลล่าร์สิงคโปร์ และรับอีก 100 ดอลล่าร์สิงคโปร์หลังจากผ่าน 72 ชั่วโมง

โฉมหน้าของผู้ชนะ อนาลิซ่า โมกห์ตาร์ สาวเจ้าถิ่นที่คว้าอันดับ 2 มาตลอด 2 ปีก่อนหน้านี้

การแข่งขันปีนี้ยังมีความพิเศษเป็นรางวัลเงินสด 1,000 ดอลล่าร์สิงคโปร์ (ราว 25,000 บาท) แก่ทีมผู้เข้าแข่งขันทั้ง 5 คนที่ทำเวลารวมกันได้นานที่สุด ส่วนตำแหน่งผู้ชนะระดับประเทศ (Country Winner) และรางวัลเงินสดมูลค่า 1,000 ดอลล่าร์สิงคโปร์จะถูกมอบให้ผู้เข้าแข่งที่ยืนหยัดอยู่เป็นคนสุดท้ายของแต่ละภูมิภาคที่เข้าร่วมการแข่งขัน และ Asian Winner จะกลับบ้านไปพร้อมกับเงินสด 5,000 ดอลล่าร์สิงคโปร์ (ราว 125,000 บาท) และประเทศหรือภูมิภาคซึ่งผู้เข้าแข่งขันมีเวลายืนรวมกันยาวนานที่สุดจะได้รับตำแหน่งผู้ชนะระดับประเทศประเภททีม (Country Team Winner) พร้อมกับรางวัลเงินสดมูลค่า 10,000 ดอลล่าร์สิงคโปร์ (ราว 250,000 บาท) เพื่อนำไปแบ่งให้กับแต่ละทีมอย่างเท่าเทียมกัน

ซึ่งการแข่งขันในปี 2018 ออกมาแบบมาเพื่อช่วยให้มั่นได้ว่าจะไม่มีผู้เข้าแข่งคนใดกลับบ้านมือเปล่า เพราะทุกคนยังจะได้รับชุดของที่ระลึก Challenger Pack ที่ประกอบด้วยเสื้อยืดที่ออกแบบตามความต้องการของผู้แข่งขัน และบัตรของขวัญ

นอกจากเงินรางวัลที่ผู้เข้าแข่งขันได้รับยังมีการมอบเงินส่วนหนึ่งเพื่อการกุศล Mediacorp Charity Challenge ภาคพิเศษจัดขึ้นควบคู่กับการแข่งขันภาคปกติเพื่อเป็นช่องทางในการรับเงินบริจาค ซึ่งจะนำไปช่วยเหลือองค์กร President’s Star Challenge ซึ่งเป็นโครงการภายใต้สภาการบริการสังคมแห่งชาติของสิงคโปร์

เรื่อง: สัญชวัล จินดารัศมี

ขอบคุณข้อมูล: มอเตอร์ อิมเมจ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th