TEST DRIVE NISSAN SERENA S-HYBRID ขับดี นั่งสบาย ช่วงล่างนุ่มไปนิด

TEST DRIVE NISSAN SERENA S-HYBRID ครั้งนี้เราได้นำรถ NISSAN SERENA S-HYBRID (C27) MPV เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ประตูสไลด์ ที่หลายท่านอยากได้ มาทดลองขับแบบใช้งานจริง ทั้งในเมือง และนอกเมือง มาดูกันซิว่ามันดีแค่ไหน
ก่อนอื่นต้องบอกตามตรงครับว่า NISSAN SERENA รุ่น C27 นี้ออกมาจำหน่ายในต่างประเทศมานานแล้ว ในไทยก็มีให้เห็นบ้างโดยการนำเข้าเองของทางผู้นำเข้าอิสระตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดราคาที่ผู้นำเข้าอิสระขายอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท ปัจจุบัน NISSAN SERENA S-HYBRID รุ่นที่เข้ามาจำหน่ายในไทย เจนเนอร์เรชั่นที่ 5 เป็นการนำเข้าโดย นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เป็นการนำรถมาจากมาเลเซีย ซึ่งเปิดราคาจำหน่ายได้อย่างน่าสนใจอยู่ที่ 1,469,000 บาท พร้อมรับรถได้เลยพร้อมส่ง
ถามว่าแปลกมั้ยก็บอกเลยว่าแปลกครับเพราะตอนเป็นตัว NISSAN SERENA S-HYBRID (C27) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ดันนำรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง NISSAN SERENA e-POWER (C28) มาจอดคู่กันซะอย่างนั้น
ต่อมาไม่นานเมื่อเดือนมีนาคม 2025 นิสสัน ก็เปิดตัว SERENA e-POWER (CBU ญี่ปุ่น ) ที่ใหม่และสดกว่าด้วยราคา 1,690,000 บาท ราคาต่างจากรุ่น C27 อยู่ 221,000 บาท แต่รถยังไม่ส่งมอบไม่ได้ทันที หลายท่านคงคิดเหมือนผมว่าใครมันซะซื้อ C27 ละทีนี้ วันนี้เราเลยมาลองขับกันอยู่ว่า C27 มันยังน่าซื้ออยู่หรือไม่
รูปลักษณ์ภายนอก
Nissan Serena ภายนอกออกแบบเส้นสายเรียบง่าย รถทรงกล่อง Boxy กระจังหน้ารูปตัววีแบบ V-Motion grille เอกลักษณ์ของทางนิสสัน รับกับกันชนหน้าพร้อมไฟหน้า Adaptive LED Headlight ด้านข้างตัวรถมากับเส้นสายที่ให้ความพริ้วไหว ประตูคู่บานหลังเปิดแบบสไลด์ไฟฟ้าทั้ง 2 ฝั่ง
ไฟท้าย LED แนวลากยาว สามารถเปิดฝาท้ายได้ 2 แบบ ทั้งแบบ Dual Back Door สามารถแบ่งการเปิดกระจกด้านบน และเปิดฝาท้ายด้านล่างทั้งบาน
เพิ่มความง่ายในการใช้งานเก็บสัมภาระ กันชนหลัง และหลังคารถ สีแบบทูโทน กระจกมองข้าง และสปอยเลอร์หลัง เป็นสีดำแบบ Diamond Black มาพร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 15 นิ้ว
ภายในห้องโดยสาร
จะเป็นแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง ทั้งในส่วนของผู้โดยสารตอนหน้า และผู้โดยสารตอนหลัง เบาะที่นั่งหุ้มดวัสดุผ้า อีกทั้งตัวเบาะยังมาในแบบ Zero-Gravity ที่ช่วยเพิ่มความสบาย เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Captain Seat พร้อมพนักวางแขนและฟังก์ชันปรับเลื่อน สามารถเลื่อนได้ถึง 900 มม. ด้านแผงคอนโซหน้าจะมากับหน้าจอมาตรวัดขนาด 7 นิ้ว
โดยมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงกลมหุ้มด้วยหนังวางอยุ่ด้านหน้า ตรงกลางแผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.1 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
มีช่องวางของ/ ขวดน้ำ และมีช่องเก็บสัมภาระกระจายตามจุดต่างรอบห้องโดยสาร พอร์ทชาร์จไฟแบบ USB ติดตั้งไว้ทั้งด้านหน้า และสำหรับผู้โดยสาารตอนหลัง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติด้านหน้า และระบบปรับอากาศด้านหลังแบบดิจิทัล (ควบคุมแถวที่ 2 และ 3), เครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง กุญแจรีโมท Intelligent Key
ลองขับ TEST DRIVE NISSAN SERENA S-HYBRID
เราเริ่มลองขับจากในเมืองกันก่อนเลยการจราจรค่อนข้างหนาแน่นทีเดียว ถามว่ารถดูคันใหญ่ขับยากหรือไม่ บอกเลยว่าขับง่ายครับ ไม่ต้องปรับตัวอะไรเยอะ ความคล่องตัวในยามขับขี่ในเมือง ถนนแคบ เล็ก มีให้พอสมควร ลัดเลาะได้ แต่ก็ไม่ได้คล่องตัวเหมือนรถซีดานนะครับ
อัตราเร่งดีสบายหายห่วง แต่มันไม่ได้จื๊ดจ๊าด กดแล้งพุ่งพรวดอะไรแบบนั้นนะครับ เอาเป็นว่ามันเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่อืด อาจจะหน่วงๆนิดหน่อย เพราะผมใช้โหมด ECO ในการขับขี่ช่วงนี้ กดโหมด ECO ออก อัตราเร่งก็กระฉับกระเฉงขึ้นแบบสัมผัสได้
ออกมานอกเมืองถนนโล่งกดคันเร่งยาว อัตราเร่งเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่องและนุ่มนวล ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร Mild Hybrid 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า SM 24 ให้กำลัง 2.6 แรงม้า แรงบิด 48 นิวตันเมตร
ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT ได้อย่างลงตัว การเร่งแซงในบางจังหวะอาจจะต้องใช้การคลิกดาวน์ช่วย อัตราสิ้นเปลืองผมทำได้ประมาณ 13 กิโลเมตรต่อลิตร
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังทอร์ชันบีม ดูดซับแรงสั้นสะเทือนได้ดี จากถนนที่เป็นหลุมบ่อ ขับด้วยความเร็วทางตรงยาวๆตัวรถมีอาการโคลงให้ได้สัมผัส รวมไปถึงการเข้าโค้งด้วยความเร็วก็มีอาการโคลงเช่นกัน นั้นเป็นเพราะรถคันนี้ไม่ได้ออกแบบมาให้ขับเร็วตัวรถทรงกล่องสูง และระบบช่วงล่างปรับเซ็ทมาเพื่อความนุ่มนวล นั่งสบาย นั้นเอง แต่ถ้าช่วงล่างตึงๆแน่นๆกว่านี้นิดนึงจะเยี่ยมมากเลยครับ อันนี้ผมว่ามันแอบโคลง ย้วย มากไปนิด ระบบเบรกแบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ ไว้ใจได้
ในด้านระบบความปลอดภัยจะมากับระบบ 360° Safety Shield ของ Nissan อาทิ ระบบเตือนการออกนอกเลน,ระบบเตือนการจราจรขณะถอยหลัง, ระบบการแจ้งเตือนผู้ขับขี่อัจฉริยะเมื่อเกิดความเหนื่อยล้าหรือขาดสมาธิของผู้ขับขี่, ระบบเตือนการชนด้านหน้าอัจฉริยะและระบบเบรกฉุกเฉินด้านหน้าอัจฉริยะ, จอภาพอัจฉริยะรอบทิศทางพร้อมระบบตรวจจับวัตถุเคลื่อนไหว, ระบบเตือนจุดบอด, ระบบเตือนการออกนอกเลน และระบบเตือนการจราจรขณะถอยหลัง ก็ให้มาครบอยู่นะ
สรุป NISSAN SERENA S-HYBRID (C27)
ผมว่าเป็นรถทีโดดใจกลุ่มคนที่มีครอบครัวมากทีเดียวครับ ภายนอกทรงสวย ภายในกว้างขวาง หลังคาสูงทำให้ไม่อึดอัด ออฟชั่น ฟรังชั่น ต่างๆก็ให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน อัตราเร่งดี ระบบช่วงล่างนุ่มนวล โคลงย้วยเล็กๆแต่ก็ไม่มีปัญหาถ้าไม่ขับเร็วจนเกินไป ขับง่ายด้วยกล้องรอบคัน
กับราคาค่าตัว 1,469,000 บาท ผมว่ามันก็น่าสนใจอยู่นะครับ ถ้ารับได้ และไม่สนใจว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นเก่า เทคโนโลยี การขับขี่ อัตราเร่ง สู้รุ่น C28 ไม่ได้ แต่ก็แลกด้วยราคาที่จ่ายถูกลง 221,000 บาท
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th