Test Drive Nissan Serena e-POWER ขับดี คล่องตัว นั่งสบาย

Test Drive Nissan Serena e-POWER ขับดี คล่องตัว นั่งสบาย หลังจากก่อนหน้านี้เราได้นำ nissan serena ตัว C27 ที่เป็นเครื่องยนต์ S hybrid มารีวิวเรียบร้อย ครั้งนี้ก็มาถึงรุ่นใหม่อย่าง C28 ที่มาพร้อมเทคโนโลยี และออฟชั่น ที่เพิ่มขึ้น แถมยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อนใหม่อย่าง e Power อีกด้วย
Nissan Serena e Power (C28) คันนี้มีดีตรงไหน แน่นอนมันเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ (MPV) ขนาด 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมเทคโนโลยี e-POWER ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% โดยไม่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จ ระบบ e-POWER จะเปลี่ยนน้ำมันเป็นไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับขี่แบบรถยนต์ไฟฟ้าโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ
ในเวอร์ชันไทยทำตลาดเพียง 1 รุ่นย่อย คือ Serena e-POWER Highway Star นำเข้าสำเร็จรูปจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน ราคา 1,690,000 บาท แต่คันที่เราได้มาในครั้งนี้มันมาพร้อมชุดแต่งรอบคัน Stylish Package ที่มี ชุดสเกิร์ตกันชนหน้า,ชุดคิวชายบันไดข้าง,สปอยเลอร์หลังคา,ชุดไฟเลี้ยวแบบต่อเนื่อง,ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว, คิ้วกันชนท้าย ,กันสาดประตู ,กระจังหน้าแบบสปอร์ต ,ชุดพรมปูพื้น ราคารวม 65,290 บาท
ภายนอก
เรามาเริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกกันก่อนเลย หน้าตาดูทันสมัยขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด ดีไซน์ด้านหน้าตกแต่งกระจังหน้าดีไซน์ Next Generation V-Motion พร้อมกันชนหน้าและหลังดีไซน์สปอร์ตแบบมีสเกิร์ตในตัว, ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Full LED, สปอยเลอร์หลังคาและด้านข้าง, กระจกบานหน้าและหน้าต่างคู่หน้าแบบ Acoustic Glass, ประตูท้าย Dual Back Door, ประตูสไลด์ไฟฟ้าพร้อมเซ็นเซอร์เท้า และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว สีทูโทน
ภายใน
ส่วนการออกแบบภายใน Serena จะมากับห้องโดยสารที่มีเบาะนั่ง 3 แถว ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 7-8 ที่นั่ง เบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ โครงสร้างแบบ Zero Gravity เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Captain Seat พร้อมโต๊ะอเนกประสงค์พับเก็บได้ และเบาะแถวที่ 3 สามารถปรับเอนและพับเก็บได้ พร้อมพนักพิงศีรษะ 3 ตำแหน่ง มาตรวัด Full Digital แบบสีแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมกราฟิกเคลื่อนไหว 3 มิติ และหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว Nissan Connect รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย และปุ่ม Camera สำหรับระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitoring – IAVM) พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่พร้อมช่องเก็บของใต้พื้นที่ด้านหลัง, ที่วางแก้ว 17 ตำแหน่ง, ช่องจ่ายไฟ USB-C ทุกแถวที่นั่ง, ช่องจ่ายไฟ USB-A ที่เบาะแถวหน้า, ที่ชาร์จไฟไร้สาย, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 3 โซน และระบบฟอกอากาศ Plasmacluster ช่วยลดฝุ่น PM2.5 ได้
ระบบขับเคลื่อน
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.4 ลิตร พละกำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ที่ 5,600 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวไม่ได้มีหน้าที่ขับเคลื่อน ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ พร้อมระบบ e-POWER เจเนอเรชันที่ 2 ตัวมอเตอร์มีการปรับปรุงสมรรถนะเพิ่มขึ้นจากเดิม เป็นพละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,700 – 8,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,600 รอบ/นาที แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 1.77 kWh ขับเคลื่อนล้อหน้า เคลมอัตราสิ้นเปลือง 18.2 กม./ลิตร พร้อมเทคโนโลยีการจัดการพลังงานที่ควบคุมเวลาสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ตามความเร็วของรถ, สภาพการจราจร ฯลฯ ส่งผลให้ห้องโดยสารเงียบขึ้น และยังมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Standard, ECO และ Sport และสำคัญเทคโนโลยี e-Pedal ก็มีมาให้ด้วย
ทดลองขับ TestDrive Nissan Serena e Power
แน่นอนครับการทดลองขับในครั้งนี้เป็นการใช้งานจริง เน้นวิ่งในเมือง และออกไปนอกเมืองระยะไม่ได้ไกลมาก เริ่มกันใจกลางเมืองอย่างย่านสาธร และสีลม ต้องยอมรับครับว่ามันขับดีขับสนุกกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างสัมผัสได้เลยทีเดียว อย่างว่าครับรถมันคนละเจนเนอร์เรชั่นห่างกันเยอะมาก ย่อมต่างกันเป็นธรรมดา เรามาพูดถึง Serena e Power คันนี้กัน การใช้งานในเมืองในย่านที่มีการจราจรที่หนาแน่น เห็นคันใหญ่แบบนี้ แต่มันให้ความคล่องตัวที่สูงมากจริงๆครับ พวงมาลัยน้ำหนักดี วงเลี้ยวแคบ และการเร่งออกตัวที่ดีมันทำให้เจ้า Serena e Power คันนี้มีความคล่องตัวที่ดีมากเมื่อขับในตัวเมืองเช่นนี้ ลัดเลาะได้สบาย ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีมากๆเช่นกัน เพราะด้วยรูปทรงของตัวรถ และกระจกบานหน้าที่ใหญ่ ทำให้เรามองได้ไกล และชัดเจน แถมเจ้าคันนี้มีระบบ e-Pedal ทำให้ขับในการจราจรที่ติดขัดแบบนี้สบายขึ้นเยอะ ลดความเมื่อยล้าจากการขับขี่ได้ดี มีโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้รวมไปถึงโหมด EV ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อขับขี่ในเมือง
ขับขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าออกมาด้านนอกเมืองรถเริ่มน้อยลง มีช่วงให้พอได้ลองอัตราเร่งกันซะหน่อย ระบบขับเคลื่อนใหม่อย่าง e POWER ตอบสนองได้ดีให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม ฟิลลิ่งสเมือนขับรถยนต์ไฟฟ้า ช่วงความเร็วปานกลางไปปลายยังคงทำได้ดีนุ่มนวล และลื่นไหลต่อเนื่อง การเร่งแซงไม่มีปัญหาสบายหายห่วง ขึ้น-ลงเขา พละกำลังเหลือเฟือ ขับสนุกขับดีครับ ระบบช่วงล่างด้านหน้า แบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อม เหล็กกันโคลง ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็น ทอร์ชันบีม พร้อม คอยล์สปริง ที่ปรับเซ็ทมาได้ดี ขับทางตรงด้วยความเร็วตัวรถนิ่งควบคุมง่าย เข้าโค้งตัวรถมีอาการโยนเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร เป็นธรรมดาของรถทรงนี้ ยังสามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ ระบบเบรก ด้านหน้า/ด้านหลัง ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน เอาอยู่แน่นอน อัตราสิ้นเปลืองรวมทั้งนอกเมือง และในเมือง เฉลี่ยอยู่ที่ 16.8 กม./ลิตร (ผมกดคันเร่งหนัก และเร่งแซงบ่อยนะครับ อดใจไม่ไหวรถขับสนุก )
เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน 360° Safety Shield
ระบบ e-Pedal Step ,ระบบเลือกโหมดขับขี่ ,ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking (IEB) ,ระบบการเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน Intelligent Forward Collision Warning (IFCW) ,สัญญาณหยุดฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ,ระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) ,ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ,ระบบเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW)
ระบบป้องกันการชนรถในจุดอับสายตา Intelligent Blind Spot Intervention (IBSI) ,ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning (LDW) ,ระบบควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทาง Intelligent Lane Intervention (ILI) ,ระบบเตือนขณะถอยรถ Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ,ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Intelligent Cruise Control (ICC) ,กระจกมองหลังอัจฉริยะ Intelligent Rear View Mirror (IRVM)
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HBA) ,ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (IDA) ,ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control (VDC) ,ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) ,สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน ,ระบบเสียงเตือนคนเดินถนน VSP (Vehicle Sound for Pedestrian) ,สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง
จุดเด่นของ Nissan Serena e-POWER
- เทคโนโลยี e-POWER: ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% โดยเครื่องยนต์จะทำหน้าที่ปั่นไฟเพื่อเก็บไว้ในแบตเตอรี่ และมอเตอร์จะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่มาขับเคลื่อนล้อ
- ไม่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จ
- ความเงียบและนุ่มนวล
- ความประหยัด: ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- พื้นที่ใช้สอย: เป็นรถ MPV 7 ที่นั่ง ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เหมาะสำหรับครอบครัว
จุดด้อย Nissan Serena e-POWER
- การออกแบบภายใน อาจขาดความหรูสไตล์พรีเมียม เมื่อตัดกับราคา
- อัตราสิ้นเปลืองจริงในการขับทางไกลและเร่งแซงอาจสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่คาด
- ไม่มีตัวเลือกแบบ PHEV หรือ EV แท้ แม้ว่าจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 100% แต่ยังต้องใช้น้ำมันเพื่อปั่นไฟ
- ไม่มีรุ่นให้เลือก ภายในธรรมดาไม่ธรรมดาไม่นิด
สรุป
ถ้าคุณกำลังมองหา MPV สำหรับครอบครัว ที่ ขับนุ่ม เงียบ มีเทคโนโลยีครบ ครอบคลุมความปลอดภัยสูง และรู้สึกเหมือนได้ขับ EV โดยไม่ต้องกังวลในการชาร์จ Serena e-POWER 2025 คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจมาก รุ่นนี้เหมาะสำหรับครอบครัวที่เน้นความสะดวกสบาย ใช้งานในเมืองและเดินทางยาว
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th