Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
Car/Test Drive
Home›Test Drive›Car/Test Drive›Test Drive Honda CR-V 2023  รุ่น ES 1.5 Turbo กับ e:HEV คันไหนเจ๋งกว่ากัน

Test Drive Honda CR-V 2023  รุ่น ES 1.5 Turbo กับ e:HEV คันไหนเจ๋งกว่ากัน

By ณัฐพล เดชสิงห์
March 30, 2023
6452
0
Share:

Test Drive Honda CR-V 2023  รุ่น ES 1.5 Turbo กับ e:HEV คันไหนเจ๋งกว่ากัน หลังจากเปิดตัวไปไม่นาน เราได้มีโอกาศไปทดลองขับ All New Honda CR-V 2023 โดยเราจะบินฝ่า PM2.5 ไปลองขับ CR-V 2023 ไปขับขึ้นเขากันที่เชียงใหม่ โดยการทดลองขับในครั้งนี้ เราจะทดสอบกันในรุ่นรองท็อปของทั้งสองเครื่องยนต์ นั้นก็คือ 1.5 เทอร์โบ และ e:HEV โดยเส้นทางที่ใช้จะเป็นทางไฮเวย์ และเน้นไปในทางโค้งขึ้น-ลงเขา เราไปดูกันว่าคันไหนเจ๋ง น่าใช้ และคุ้มค่ากว่ากัน

ราคาของทั้งสองรุ่น

  • CR-V 5 Turbo ES 4WD 5 ที่นั่ง : 1,599,000 บาท
  • CR-V e:HEV ES 2WD 5 ที่นั่ง : 1,589,000 บาท

เมื่อเทียบกันแล้วราคาของทั้งสองรุ่นแตกต่างกันที่ 10,000 บาท เอาละครับเรามาดูกันดีกว่าว่าทั้งสองรุ่นนี้รุ่นไหนน่าใช้กว่ากัน

การดีไซน์ภายนอกของ Honda CR-V 2023 ใหม่

Test Drive Honda CR-V 2023 

ถูกออกแบบเน้นความสปอร์ตพรีเมียม ติดตั้งกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำ Piano Black, ไฟหน้าแบบ LED และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential, ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED, ไฟท้าย LED, หลังคา Panoramic Sunroof, ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close, เสาอากาศแบบครีบฉลาม,​ ปลอกท่อไอเสียสเตนเลสคู่ และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารของ Honda CR-V 2023 ใหม่

มีทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานประกอบด้วย ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ, ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat), ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Light), ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster, และไฟอ่านหนังสือด้านหลัง LED แบบสัมผัส

เบาะนั่งด้านหลัง Rear Seat Sliding เลื่อนและแยกพับแบบ 60:40 โดยรุ่น 5 ที่นั่ง สามารถพับเบาะหลังทั้ง 2 ด้านได้แบบเรียบ (Untility Mode) ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย

และสามารถปรับพับเบาะนั่งด้านหน้าและด้านหลัง (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto (ผ่าน USB)

รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Siri และ Android Auto พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) และช่อง USB 4 ตำแหน่ง (USB-C 3 ตำแหน่ง)

ทุกรุ่นย่อยถูกติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING

Test Drive Honda CR-V 2023 

ทำงานผ่านกล้องด้านหน้าและเรดาร์ เพื่อใช้ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงาน ได้แก่

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam:ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

ขณะที่อุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS), เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC), ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)

, ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch), ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) และระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (เฉพาะรุ่น e:HEV)

ระบบเค้ามาเต็มมากครับรอบนี้มีกล้องรอบคันมาให้ด้วย แต่ๆ ก็ยังคงเก็บ honda lane watch ไว้ซึ่งมันทั้งไม่ชัด แถมเวลาเปิดแผนที่ขึ้นหน้าจอ กำลังดูอยู่ดีๆแต่พอเปิดไฟเลี้ยวซ้ายภาพหน้าจอตัดไปโชว์ honda lane watch ซะงั้น เล่นเอาเกือบเลี้ยวผิดหลายรอบ ไม่รู้จะรักอะไรนักหนากับระบบนี้ ตัดทิ้งและใส่ blind spot มาให้ซะยังดีกว่า

ลองขับ

Test Drive Honda CR-V 2023 

เมื่อเราเดินทางมาถึงเชียงใหม่ คันแรกที่เราจะได้ลองกันนั้นก็คือ CR-V 1.5 Turbo ES 4WD 5 ที่นั่ง ที่มีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร VTEC TURBO DOHC Direct Injection ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.3 กม./ลิตร

และรองรับน้ำมันทางเลือก E85 ได้ อัตราเร่งช่วงออกตัวทำได้ดี การขับขี่ในตัวเมืองมีความคล่องตัวสูง ทัศนวิสัยดี ขับง่าย แถมยังประหยัดน้ำมันเพราะมีโหมด Econ ให้ใช้ ออกมานอกเมืองพอจะมีทางตรงยาวๆ ปิดโหมด Econ ซะก่อน

แล้วไปลองอัตราเร่งกัน ตรงยาวๆอัตราเร่งของ 1.5 Turbo ใช้ได้เลยครับช่วงกลางไปปลายอัตราเร่งต่อเนื่องลื่นไหลดี ความเร็วไปแตะ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้แบบไม่ยากเย็นนัก การเร่งแซงไม่มีปัญหาสบายๆ ขึ้น-ลง เขา ไม่ต้องกังวลครับขึ้นได้ไม่มีปัญหา

แถมมีแพดเดิ้ลชิพไว้ค่อยช่วยเปลี่ยนเกียร์ในตอนขึ้น-ลงเขาอีกต่างหาก ส่วนระบบช่วงล่างของ 1.5 Turbo ES 4WD นั้น อืมมมม ด้านหน้าเป็นแม็คเฟอร์สันสตรัท ส่วนหลังเป็นมัลติลิงค์ ที่ถูกปรับเซ็ทมาให้เหมาะกับรุ่นนี้โดยเฉพาะวิศวะกรฮอนด้ากล่าวไว้ แต่เมื่อผมได้ลองขับ โอ้ววมันนุ่มมากครับ มันสามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีจริงครับ แต่เมื่อใช้ความเร็วมันมีอาการโคลงให้ได้สัมผัส

Test Drive Honda CR-V 2023 

และตอนเข้าโค้งบนเขามันมีอาการโคลง และโยน เยอะพอสมควร (ซึ่งผมไม่ถูกใจสิ่งนี้ ) ถ้าปรับให้เฟริ์ม แน่น ตึง กว่านี้อีกหน่อยจะดีไม่น้อยครับ ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันทางฮอนด้าเค้าเครม 1.5 เทอร์โบ เอาไว้ที่ 13.5 กม. /ลิตร สำหรับรุ่น 1.5 Turbo ES 4WD แต่ระหว่างการทดสอบผมกดคันเร่งตึงตลอดทางค่าเฉลี่ยอัตราสิ้นเปลืองลดลงไปเหลือประมาณ 8-9 กม./ลิตร

เอาละครับเรากระโดดเปลี่ยนคันมาเป็น CR-V e:HEV ES 2WD เหมาะมากครับสำหรับคนเน้นใช้งานในเมือง และเน้นความประหยัด รุ่นนี้จะแตกต่างจาก 1.5 Turbo ES 4WD ที่แน่นอน เครื่องยนต์ไฮบริด e:HEV เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร (Atkinson-Cycle) ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังรวมกันสูงสุด 207 แรงม้า และแรงบิด 335 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ที่ฮอนด้าเครมว่าประหยัดถึง 20.8 กิโลเมตร/ลิตร แถมได้เซ็นเซอร์ 4 จุด ทั้งด้านหน้าและหลัง ได้โหมด Sport และได้ล้อพ่นสีดำมาให้ ที่สำคัญราคาถูกกว่ารุ่น 1.5 Turbo ES 4WD  1 หมื่นบาท ผมว่าคุ้มค่านะ เรามาทดลองขับกันดีกว่า แน่นอนเส้นทางจะคล้ายๆกันเป็นในเมือง นอกเมือง และขึ้น-ลงเขา อัตราเร่งออกตัว e:HEV ES 2WD คันนี้กระฉับกระเฉงกว่า 1.5 Turbo ทัศนวิสัยดีขับง่าย ออกมานอกเมืองกดคันเร่งลงไปความเร็วเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่องลื่นไหลดี ผมว่าพอๆกันกับ 1.5 Turbo นะ ขับสนุกใช้ได้เลยครับ แป้นแพดเดิ้ลชิพหลังพวงมาลัยในรุ่น 1.5 Turbo กลายเป็นแป้น บวก ลบ เอาไว้ Regenerative ไฟเวลายกคันเร่งสามารถปรับได้ 4 ระดับ

Test Drive Honda CR-V 2023 

ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ใน 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

ระบบช่วงล่างใช้เหมือนกันครับ ด้านหน้าเป็นแม็คเฟอร์สันสตรัท ส่วนหลังเป็นมัลติลิงค์ แต่ปรับเซ็ทมาใหม่ให้เหมาะกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของตัวรถ ต้องบอกว่าดีกว่า 1.5 Turbo เยอะมากครับ เค้าโค้งคล้ายกันด้วยความเร็วเท่าๆกัน e:HEV ES 2WD คันนี้เฟริ์มกว่าเยอะครับ เค้าโค้งเนียนกริปไม่ย้วย ไม่โยน ไม่โคลง เหมือน 1.5 Turbo ปรับเซ็ทมาได้ดีทีเดียวครับ อัตราสิ้นเปลืองที่ผมทำได้ประมาณ 13.5 กม./ลิตร นี่ขนาดผมกดไม่ยั้งเลยนะครับ

สรุป…

Test Drive Honda CR-V 2023 

ผมได้ทดลองขับทั้ง 2 รุ่น 2 เครื่องยนต์ และ 2 ระบบขับเคลื่อน ในรุ่นรองท็อปอย่าง ES ผมมองว่ามันเป็นรุ่นที่คุ้มค่าเงินที่สุดครับอย่าง 1.5 Turbo คุณก็ได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ RealTime มาที่พัฒนามาใหม่ที่สามารถกระจายแรงขับเคลื่อนแบ่งได้ถึง 50 :50 จากเดิมได้แค่ 60 :40 เท่านั้น

แต่ถ้าตามความคิดผมนะรุ่น e:HEV ES 2WD คุ้มสุดแล้วครับ นอกจากจะได้เครื่องไฮบริดแล้ว ยังได้โหมดการขับขี่แบบ Sport ได้เซ็นเซอร์หน้า-หลัง แถมราคาถูกกว่าอีก 1 หมื่นบาท ส่วนเรื่องระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ

นั้นผมว่า รถ C-RV นั้นเป็น SUV ที่เน้นขับในเมือง ลุยได้นิดหน่อยเท่านั้น แล้วคงไม่มีใครซื้อเอาไปลุยแน่ๆ เพราะฉะนั้นขับ 2 ล้อ ก็เพียงพอต่อการใช้งาน และประหยัดน้ำมันกว่าอีกต่างหาก แถมระบบช่วงล่างก็แน่น เฟริ์ม และดีกว่า 1.5 เทอร์โบ ในขณะที่อุปกรณ์ Test Drive Honda CR-V 2023 

การตกแต่งภายนอกภายใน ระบบเพื่อความปลอดภัย ก็เหมือนๆกันหมด สุดท้ายเพื่อนๆต้องลองไปขับดูก่อนตัดสินใจ ว่ารุ่นไหนตอบโจยท์คุณมากทีสุด www.honda.co.th

สำหรับเพื่อนที่อยากรู้ราคาแบตเตอรี่ของรถยนต์ฮอนด้าแต่ละรุ่นมีดังนี้

City                                 ราคา 76,000 บาท

HR-V                              ราคา 80,000 บาท

Civic , Accord , CR-V  ราคา 109,000 บาท

 

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

 

 

TagsAll NEw Honda CR-V 2023HONDA CR-V 2023Test Drive All New Honda CR-V 2023Test Drive Honda CR-V 2023ลองขับ Honda CR-V 2023ลองขับ Honda CR-V ใหม่ลองรถใหม่ลองรถใหม่ 2023
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • Toyota GazooRacing Thailand 2025 ผลการแข่งขันสนามแรก
  • Nissan เสริมทัพรถกระบะ New Navara รุ่นปี 2025 King Cab Calibre
  • เอ็มจี ส่งรุ่นย่อยใหม่ NEW MG MAXUS 9 PLUS รถตู้พลังไฟฟ้าในราคาคุ้มค่า 1.79 ล้านบาท
  • Mercedes-AMG CLA 45 S Final Edition รุ่นพิเศษปิดท้ายก่อนขายเจเนเรชันใหม่
  • Range Rover Sport SV Black รถเอสยูวีหรูแต่งดำสนิททั้งภายนอกและภายใน

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram