NEW HONDA HR-V RS เร้าใจกว่าเดิม สีแดงออกซ์บลัด

พัฒนาการอีกขึ้นของ Honda HR-V RS เมื่อถึงคิวปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้ดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น ด้วยความกล้าที่จะแตกต่าง การนำเสนอของฮอนด้ารอบนี้ปรับเปลี่ยนหลายจุดโดยเฉพาะดีไซน์ด้านหน้า ภายในโทนสีแดงออกซ์บลัด ใหม่ “แปลกตา” หรือนี่จะเป็นกลยุทธ์ไม้เด็ด เช่นเดียวกับรถรุ่นอื่นในค่ายที่ปีนี้หันมาแต่งภายในด้วย แต่ทั้งนี้คงต้องยอมรับว่าถ้าจะเล่นรถรุ่นนี้ ซื้อเลยอย่าคิดมาก เพราะมันเต็มอิ่มแล้ว แทบจะไม่เหลืออะไรให้ใส่เพิ่มเติมได้ คงจะมีแค่ระบบความปลอดภัยรุ่นใหม่ เหมือนใน All New Honda Accord ที่น่าจะเอามาเพิ่มในอนาคต

ปรับอะไรบ้างมาดูกัน เริ่มต้นด้วยด้วยกันชนหน้า-หลัง และกระจังหน้าแบบสปอร์ต ไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED

จุดเด่นของ Honda HR-V RS กับความเป็นรถยนต์แบบ SUV ให้ประโยชน์ได้มากกว่ารถเก๋งซีดานทั่วไป จากพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สะดวกสบาย โดยเฉพาะเบาะแถวสองพับได้เรียบเพิ่มพื้นที่เก็บของชนิดที่ว่าปูเป็นเตียงนอนเวลาไปเกลมปิ้งได้เลย[expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]Read more hidden text

แถมมีประตูหลังเปิดได้โล่ง ยกของ ใส่ของก็ง่าย เหมาะกับเป็นรถครอบครัว หรือพวกชอบเก็บของในรถ แต่สิ่งที่หลายคนเลือกเอสยูวีเพราะรถมันสูงกว่ารถซีดาน ใช้งานได้ดี ทั้งถนนปรกติ และถนนลูกรัง เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่ค่อยมีปัญหาในการขึ้นลงพื้นที่ต่างระดับ ขับผ่านเนินหรือหลุม ยิ่งในกรุงเทพฯ ต้องเผชิญน้ำท่วม ความสูงของตัวรถยังพอรับมือได้ แต่น่าเสียดายด้วยภาพลักษณ์ที่ฮอนด้าวางรุ่น RS ให้เป็นพรีเมี่ยมเอสยูวี เน้นเรื่องความสปอร์ต คุณจึงได้ล้อและยางแบบสปอร์ตมาแทน เชื่อว่าน่าจะถูกใจคนส่วนใหญ่ แต่กลับกันเมื่อลองคิดดู บางครั้งคนสูงอายุหน่อยอยากได้ยางเส้นอ้วนๆ พอตะกุยได้บ้าง

ห้องโดยสารใหม่กับ สีแดงออกซ์บลัด ในรุ่น RS และในรุ่นย่อยอื่นยังมีสีภายในที่แตกต่างด้วย
เครื่องเสียงสมัยนี้ต่อบูลธูทฟังเพลงผ่าน App Spotify เลือกเพลลิส์ที่ชอบฟังยาวๆ ตลอดทาง เน็ตไม่อั้นอันลิมิท หมดปัญหาลืม USB ไปเลย

หลายคนเลือกเล่น Honda HR-V RS เพราะเมื่อดูคู่แข่งแล้วแทบจะสายหัว ด้วยพื้นที่การใช้งานค่อนข้างจำกัด แต่ Honda HR-V RS โดดเด่นในเรื่องพื้นที่การใช้งานอย่างที่เห็นด้วยมิติตัวรถที่กว้างและสูง โดยเฉพาะเมื่อนั่งเบาะแถวที่สองคุณจะได้รับความผ่อนคลาย ยิ่งเมื่อปรับเอนเบาะอีกสเต็ป กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ก็นั่งเพลินๆ ไม่เมื่อยล้า อีกจุดที่คนส่วนใหญ่อยากมีแต่ไม่อยากใช้คือหลังคากระจก เมื่อก่อนมีซันรูฟก็รู้สึกว่าเท่ห์เกินบรรยาย แต่มาดูเจ้าคันนี้กระจกแผ่นใหญ่ตั้งแต่ด้านหน้าจรดคนนั่งหลัง เปิดดูท้องฟ้า หรือนอนดูดาวได้เลย แถมมีแผ่นบังแดดมาด้วยซึ่งสีภายในแดงตัดกับดำได้อย่างลงตัว หลายคนอยากได้วัสดุหุ้มหลังคาสีดำอันนี้คือดีเลยดูไม่เปื้อนง่าย ส่วนใหญ่จะได้สีเบจหรือครีมมาเพราะมันช่วยให้รถดูโปร่งโล่ง สำหรับกลุ่มรถครอบครัวมีจุดยึดคาร์ซีทแบบ ISO FIX ให้เรียบร้อย ด้านหลังเอารถเข็นเด็กใส่ยังมีพื้นที่เหลือเก็บกระเป๋าสัมภาระได้จุเวอร์ ส่วนจุดที่ยังร้องขอคือแอร์หลัง กับ USB บริเวณคอนโซนกลางด้านหลังไม่มี (จำเป็นมาก) ส่วนที่วางแก้วน้ำ และที่ใส่ของจุกจิกทำได้ดีอยู่แล้ว

Honda HR-V RS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที มาพร้อมกับระบบเกียร์ CVT ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (ประหยัดน้ำมัน) รองรับพลังงานทางเลือก E85 ให้กำลังที่เพียงพอต่อการใช้งาน โดยเฉพาะในรอบเครื่องต้นๆ รวดเร็วทันใจ แต่หนนี้อยากลองใช้โหมดการขับขี่แบบประหยัดกดปุ่ม ECON สีเขียวตลอดการเดินทาง ไปกลับเพชบูรณ์ ถือว่าเข้ามาช่วยได้ไม่มากเพราะต้องกดคันเร่งแช่ยาวๆ ถ้าเป็นในเมืองจะประหยัดกว่าเมื่อมีโหมด ECON เข้ามาช่วย การขับขี่เป็นรถที่มีทัศนวิสัยน์ดีเยี่ยม ตำแหน่งการนั่งค่อนข้างสบาย คล่องตัว มีความอเนกประสงค์สูงมาก อัตราเร่งเมื่ออยู่ในโหมดประหยัดจะไม่ทันในนักในช่วงความเร็ว 90-120 ที่ต้องการกำลังเร่งแซงเป็นบางจังหวะ แต่ถ้าปิดการทำงานของโหมดนี้ สมรรถนะเครื่องยนต์จะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม แต่เรายอมแรกความสะใจเลือกความประหยัดมากกว่า ไปกลับรอบนี้ใช้น้ำมันไปหมดถัง มีแวะเติมขาตอนครึ่งทางขากลับ ระยะทางกว่า 700 กม. (รวมขับเที่ยวสามวัน) ถือว่าโอเคเพราะมีทั้งสัมภาระและผู้โดยสารนั่งเต็ม อีกหนึ่งจุดที่ชอบคือช่วงล่าง Honda HR-V RS เหมาะกับเป็นรถครอบครัวนุ่มนิ่มสบาย ไม่มีความกระด้างแม้แต่นิดเดียว รถเก็บเสียงดี ทั้งเสียงลม และเสียงจากพื้น

เทคโนโลยีเด่น ประกอบด้วย เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold และกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบเตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (City Brake Active System – CTBA)