บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เสริมทางเลือกรถยนต์รุ่นประกอบในประเทศในตระกูลซีรี่ส์ 7 เปิดตัว 730Ld M Sport ใหม่ ต่อยอดจากรุ่น 740Li ที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเวอร์ชั่นนี้เป็น The All-New BMW 7 Series นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 1977 กับรุ่นรหัสตัวถัง E23สำหรับ 730Ld M Sport ใหม่ ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 6 กับรหัสตัวถังใหม่ G12 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลทวินเทอร์โบ แบบ วี 6 ขนาด 3.0 ลิตร 265 แรงม้า ผสานความสะดวกสบายและสมรรถนะเต็มพิกัด พร้อมตั้งราคาจำหน่ายที่ 6,399,000 บาท (ถูกกว่ารุ่น740Li)

อย่างที่ทราบกันดีว่าซีรี่ส์ 7 คือไอคอนระดับ “เรือธง” ที่แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมขั้นสุดยอดของรถยนต์ BMW ที่เทคโนโลยีต่างๆ มักจะถูกถ่ายถอดสู่รถในรุ่นอื่นๆ ย่อยลงมา ดังนั้นมันคือแม่แบบ DNA ที่แสดงให้เห็นถึงทิศทางการพัฒนารถยนต์ของแบรนด์นี้ต่อจากนี้ไป ก่อนที่เราจะได้สัมผัสทีมงานBMW ได้แสดงให้เห็นถึงจุดเด่นต่างๆ ใน 730Ld M Sport ไม่ว่าจะเป็นด้านดีไซน์ สมรรถนะ เทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ มันมีรายละเอียดมากมายที่ใส่เอาไว้ในงานชิ้นนี้ จนทำให้ซีรี่ส์ 7 กลายเป็นชิ้นงานที่แสดงถึง “ความสำเร็จ” ของผู้นำอย่างแท้จริง พร้อมประกาศกร้าวบ่งบอกตัวตนด้วยบุคลิกที่สร้างขึ้นเพื่อนักบริหารยุคใหม่ที่ต้องการสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ ความก้าวหน้า อนาคต และความล้ำสมัยระดับผู้นำ

BMW 730Ld M Sport มาพร้อมกับระบบ Air Flap Control กระจังหน้าที่สามารถเปิด–ปิด ระบายลม ซึ่งจะทำงานเมื่อรถต้องการระบายความร้อน โดยนอกจากจะพัฒนาสมรรถนะด้านแอโรไดนามิกส์ให้กับตัวรถแล้ว ยังเพิ่มความสะดุดตาให้กับส่วนหน้าของรถด้วย  ส่วนไฟหน้าได้รับการออกแบบใหม่ ในขณะที่ไฟทรงกลมคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของ BMW ถูกจัดวางอย่างพอดี ช่วยทั้งการใช้งานและดึงดูดสายตา

โครงสร้างรถแบบใหม่ Carbon Core ช่วยลดน้ำหนักรวมของรถได้มากถึง 130 กิโลกรัม ซึ่งเป็นเทคโนโลยี BMW EfficientLightweight เหมือนกับที่ใช้ผลิตโครงสร้างของรถยนต์ BMW ตระกูล “i” ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (พลาสติกเสริมเส้นใยคาร์บอน CFRP) ที่ผลิตจากโรงงานในสหรัฐอเมริกา และส่งต่อให้โรงงานในเยอรมันขึ้นรูปเป็นชิ้นส่วนตัวถัง และส่งไปประกอบตามโรงงานในประเทศต่างๆ ทำให้ BMW 730Ld M Sport ใหม่ เป็นรถยนต์รุ่นแรกในเซ็กเม้นต์นี้ ผสานกับวัสดุอื่นๆ อย่าง เหล็ก และอลูมิเนียม ที่เสริมความแข็งแกร่งและความมั่นคงของห้องโดยสาร ในขณะเดียวกันช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมาก

ส่วนรูปลักษณ์ของ BMW 730Ld M Sport โดดเด่นไม่แพ้สมรรถนะและความนุ่มนวล ด้วยดีไซน์แบบสปอร์ตตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้าย พร้อมไฟหน้าแบบใหม่โฉบเฉี่ยวยิ้งขึ้น ภาพลักษณ์ใหม่ที่เน้นความหรูหราเสริมแต่งด้วยวัสดุโครเมียม สง่างามในทุกมิติทุกมุมมอง ตัวรถดูพร้อมพุ่งทะยายไปข้างหน้าด้วยเส้นสาย High-Gloss Shadow Line ในแบบของ BMW และแตกต่างอย่างมีระดับชุดแต่ง M Aerodynamics รอบคัน ใส่ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว ขนาดยางคู่หน้า 245/40 R20 คู่หลัง 275/35 R20 นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama ที่ใช้ไฟ LED บริเวณด้านข้างส่องให้แผ่นกระจกเปล่งประกายระยิบระยับทั่วแผ่น ราวกับเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยผืนดาว ซึ่งในรถรุ่นนี้สรุปคร่าวๆ ได้ว่ายาวกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 19 มม. ส่วนความกว้างและความสูงเท่าเดิม และได้ตัวเลขความจุด้านท้ายเพิ่มขึ้นจากเดิม 500 ลิตร เป็น 515ลิตร กว้างกว่าคู่แข่งที่จุเพียง 395 ลิตร เท่านั้น

BMW 730Ld M Sport ใช้หน้าจอควบคุม iDrive แบบระบบสัมผัส ซึ่งนอกจากจะสามารถควบคุมระบบต่างๆ ได้แบบเดิมแล้ว ยังมีอีกหนึ่งฟังก์ชั่นใหม่ของการใช้งาน คือ การสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ หรือ BMW Gesture Control ทำงานโดยเซ็นเซอร์ 3 มิติจะจับการเคลื่อนไหวของนิ้วมือ เช่น ทำท่าเหมือนหมุนปุ่มคอนโทรลเสียง จะเป็นการปรับระดับเสียงทั้งเพิ่มและลดโดยที่นิ้วมือไม่ต้องแตะหน้าจอ เป็นต้น ซึ่งในส่วนนี้ยังแสดงหน้าจอระบบนำทางแบบใหม่ 3 มิติ อีกด้วย

“รวมอุปกรณ์สุดไฮเทค” นอกจากกุญแจรีโมทสุดล้ำที่สามารถสั่งงานรถได้แล้ว(ต้องมั่นชาร์จไฟ ตัวกุญแจเก็บไฟสำรองได้หนึ่งอาทิตย์) บริเวณที่นั่งผู้โดยสารตอน BMW Head-Up Display หลังยังมีจอขนาด 10.25” Touch Control Display ทั้งสองตำแหน่งเพื่อสามารถเรียกดูข้อมูลการขับขี่ และระบบอินโฟนเทเม้นในรถควบคุมผ่านรีโมทคอนโทรล และอีกหนึ่งอุปกรณ์ใหม่ BMW Touch Command ควบคุมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในรถผ่านหน้าจอแท๊บเล็ตซุมซุงพกพาขนาด 7 นิ้ว ที่ติดตั้งบริเวณพนักวางแขนระหว่างที่นั่งตอนหลัง (ถอดเข้าออกได้ เชื่อมต่อกับรถอัตโนมัติ)

สามารถใช้งานได้ทั้งจากภายในรถและนอกรถ กับฟังก์ชั่นการตั้งค่า การปรับเบาะนั่ง ถุงลมนวดหลัง แสงไฟ Ambient light ในตัวรถได้ถึง 7 รูปแบบ การตั้งปรับอุณหภูมิ รวมถึงระบบความบันเทิง และระบบสื่อสาร และยังสามารถเล่นไฟล์เพลงและวีดีไอ รวมถึงใช้เป็นเกมส์คอนโซลได้อีกด้วย ด้านระบบเครื่องเสียงเลือกใช้ลำโพงของ Harman Kardon Surround Sound system ส่วนการเชื่อมต่ออุปกรณ์มีช่อง USB ถึง 3 ตำแหน่ง และฮาร์ดไดรเก็บเพลงและข้อมูล GPS อีก 20 GB นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องหน้าที่สามารถเรียกดูภาพได้ เพิ่มเติมจากกล้องด้านหลัง

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 6 สูบ แถวเรียงขนาด 2,993 ซีซี. เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที  และแรงบิดสูงสุดที่ 620 นิวตันเมตร ที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic Sport  มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 แบบ คือแบบ Sport Mode-Eco Pro Mode-Adaptive Mode (New! วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ขับขี่ และปรับช่วงล่างให้สอดคล้องกับทิศทางล่วงหน้า) ซึ่งสามารถเรียกใช้งานได้ผ่านสวิตซ์ควบคุมแบบใหม่ เครื่องยนต์บล๊อคนี้ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.2 วินาที แต่ยังคงมอบความนุ่มสบายให้กับผู้โดยสารอย่างเต็มที่ สามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17.6 กม./ลิตร (ค่าโรงงาน)  ปล่อยไอเสีย CO₂ 150 กรัม/กม.

หลังจากลองขับทดสอบบนเส้นทางภูเก็ต–พังงา ทางส่วนใหญ่เป็นโค้งเยอะ ทำความเร็วได้ประมาณ 100-140 พบว่าพละกำลังเครื่องดีเซลทวินเทอร์โบบล็อกนี้ขับสนุกแรงต่อเนื่องแม้ต้องแบกตัวถังน้ำหนักมาก ยังให้ความคล่องตัวสูง โดยไม่พบอาการรอรอบให้เห็น ซึ่งเป็นข้อดีของเครื่องดีเซลกำลังเยอะ และประหยัดน้ำมัน มีกำลังให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำให้ความมั่นใจในการแรงออกตัว หรือเร่งแซงได้ดี แทบจะไม่รู้สึกเลยว่าเป็นรถขนาดใหญ่อย่างซีรี่ส์ 7 พวงมาลัยมีความแม่นยำสูง แม้ต้องผ่านช่วงทางแคบสองเลนและเป็นโค้งองศาเยอะๆ เพราะช่วงล่างที่หนึบมั่นใจได้โดยเฉพาะเมื่อปรับมาใช้โหมดสปอร์ต แน่นอนว่าบุคลิกการใช้งานจริงเป็นรถผู้บริหารให้ความสะดวกสบายในเมืองได้ดี แต่ก็คงน่าเสียดายถ้าไม่รีดพละกำลังที่แท้จริงออกมาเชยชม นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นใหม่อย่างปุ่มปรับความสูงของรถทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. ปรับความสูงเพิ่ม 2 เซนติเมตร ให้พร้อมสำหรับลุยทางสมบุกสมบัน หรือเป็นหลุมเป็นบ่อ เมื่อขับความเร็วเกิน 40 กม./ชม. ระบบนี้จะปรับความสูงลงมาเท่าเดิมให้อัตโนมัติ

โดยรวมแล้วถือว่าเป็น The All-New BMW 7 Series รุ่นที่คุ้มค่า และล้ำสมัยที่สุดนับตั้งแต่เคยมีมา อยากได้รถผู้บริหารที่สามารถขับสนุกในวันพักผ่อนพร้อมเชื่อมต่อทุกการสื่อสารให้คุณไม่พลาดทุกข้อมูลตลอดการเดินทาง สปอร์ตลงตัวกับชุดแต่ง M ชื่อนี้ประกันความเร้าใจ ในราคาที่ถูกกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่ได้เทคโนโลยีล่าสุดของ BMW นับว่าเป็นอีกขึ้นของ นวัตกรมยานยนต์ที่ไม่ได้พัฒนาขึ้นแต่สมรรถนะ แต่มันรวมทุกนวัตกรรมในโลกไว้ใน 730Ld M Sport

เรื่อง/ภาพ : ณัฐพล จิระมงคลกุล

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th