หลังจากที่ทางค่ายดาว 3 แฉกเผยโฉมรถสมรรถนะสูงหัวใจไฮบริด Mercedes-AMG GT 63 S E Performance ออกมาในงานมิวนิกมอเตอร์โชว์เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ตอนนี้รถแรงที่ใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมด้วยรุ่นนี้ถูกขายอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีรุ่นพิเศษในชื่อ AMG Special Edition เป็นตัวเลือกที่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานกับราคาที่เป็นรองแค่ Mercedes-AMG Project One เท่านั้น

AMG Special Edition มีความแตกต่างจาก Mercedes-AMG GT 63 S E Performance รุ่นมาตรฐานด้วยตัวรถที่มีสีเขียว Green Hell Mango ตัดกับล้อฟอร์จ AMG สีดำขนาด 21 นิ้ว ลาย 5 ก้านคู่ รวมทั้งมีการติดตั้งทั้ง AMG Night Package และ AMG Night Package II ที่เสริมความสปอร์ตด้วยวัสดุสีดำเงาและดาร์กโครม แต่หากไม่ชอบสีเขียวก็มีสีแดง Rubellite Red ให้เลือก ซึ่งจะมาพร้อมกับการแต่งด้วย Exterior Package ที่เป็นโครเมียมมีความเงามันสูง และล้อฟอร์จ AMG ขนาด 21 นิ้วสีเงินลาย 5 ก้านคู่

ด้านขุมกำลังของ Mercedes-AMG GT 63 S E Performance ทั้งรุ่นมาตรฐานและ AMG Special Edition เป็นเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพลาหลังของรถซึ่งทำงานร่วมกับระบบส่งกำลัง 2 สปีดและระบบ Limited-slip Differential อีเล็กทรอนิก โดยกำลังรวมของรถไฮบริดสมรรถนะสูงจากเครื่องยนต์ที่มีกำลัง 639 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร กับ มอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งมีกำลัง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร อยู่ที่ 843 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,010-1,470 นิวตัน-เมตร

สำหรับการส่งกำลังจากเครื่องยนต์เป็นหน้าที่ของเกียร์ AMG Speedshift MCT 9 สปีด พร้อมกับขับเคลื่อนทุกล้อของรถด้วย AMG Performance 4Matic+ ส่วนการทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ถูกระบุไว้ที่ 2.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 316 กม./ชม. แต่หากต้องการเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้า แบตเตอรี 6.1 kWh ของรถจะใหัพลังงานสำหรับการเดินทางได้ 12 กิโลเมตร

AMG GT 63 S E Performance ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ สำหรับรถสมรรถนะสูงอย่างระบบช่วงล่าง AMG Ride Control+  และดิสก์เบรกคาร์บอนเซรามิกขนาด 420 มม. พร้อมคาลิเปอร์ 6 ลูกสูบที่ล้อหน้า และขนาด 380 มม. ที่ล้อหลังสำหรับการหยุดรถ

ส่วนราคาของรถหากเป็นรุ่นพิเศษ AMD Special Edition จะเริ่มต้นที่ 218,674 ยูโร แต่หากซื้อ AMG GT 63 S E Performance รุ่นธรรมดาจะเริ่มต้นที่ 196,897 ยูโร