แน่นอนว่าในช่วงนี้เราได้ยินการรณรงค์ให้หันมาใช้น้ำมันไบโอดีเซล B10 ด้วยเหตุผลในเรื่องการลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งในกรุงเทพฯ ปัญหานี้มาจากเครื่องยนต์ดีเซลที่เก่าและทรุดโทรมขาดการดูแลเอาใจใส่ คำถามคือ แล้วน้ำมันไบโอดีเซลจะสามารถช่วยลดปัญหานี้ได้จริงหรือเช่นเดียวกับประโยชน์ในด้านอื่น โดยประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการใช้ไบโอดีเซล คือ

-ลดการนำเข้าน้ำมันปิโตรเลียมทำให้ประหยัดเงินตราไว้ในประเทศ
– มีค่าซีเทน (Cetane Index) สูงกว่าน้ำมันดีเซลทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่ายเครื่องยนต์เดินเรียบ

– มีความปลอดภัยในการใช้งานมากกว่าน้ำมันดีเซลเพราะจุดติดไฟสูงกว่า (น้ำมันดีเซล 69 องศาเซลเซียสน้ำมันไบโอดีเซล 150 องศาเซลเซียส) มีกลิ่นสะอาดไม่เป็นอันตรายเพราะผลิตจากไขมันพืชและสัตว์

– ไม่มีกำมะถันจึงไม่ก่อให้เกิดสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์

ที่สำคัญคือ ช่วยลดควันดำ และฝุ่นละออง เพราะการใช้ไบโอดีเซลในเครื่องยนต์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ เนื่องจากไบโอดีเซลมีออกซิเจนผสมอยู่ประมาณร้อยละ 10 ทำให้การผสมระหว่างอากาศกับน้ำมันมีการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ และเป็นการเพิ่มอัตราส่วนปริมาตรของอากาศต่อน้ำมันได้เป็นอย่างดี และลดมลภาวะจากคาร์บอนมอนอกไซด์ โดยสถาบันนวัตกรรม ปตท. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทดสอบการใช้ B10 และ B20 เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้งานจริง พบว่า รถกระบะเครื่องยนต์ยูโร 4 ที่ใช้ไบโอดีเซล B10 สามารถช่วยลด PM 2.5 ได้ถึง 3.5% เมื่อเทียบกับการใช้ไบโอดีเซล B7 ซึ่งคาดว่าสามารถลดฝุ่น PM 2.5 ได้มากถึง 300ตันต่อปี

และในตอนนี้ B10 หาเติมได้ไม่ยากครับเลย เพราะในปั๊มเกือบทุกยี่ห้อ โดยเฉพาะ ปตท. ที่มีสถานีบริการมากที่สุด เชลล์ บางจาก หรือพีที มีหัวจ่ายรอพร้อมรับรองนโยบายกระทรวงพลังงานแล้ว

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th