ค่ายวอลโล่เองปีนี้ไม่อยู่เฉย หลังเอสยูวีไฟฟ้าในค่ายขายดียอดโตต่อเนื่อง แม้จะดันยอดขายยากขึ้นจากสภาพเศรษฐกิจ แต่ชื่อชั้นความเป็นวอลโว่ดูจะได้รับความนิยมจากกลุ่มที่เชื่อมั่นในเทคโนโลยี และความปลอดภัยที่แบรนด์นี้สร้างเป็นภาพจำให้คนไทยเสมอมา วอลโว่เองชี้นำเรื่องรถไฟฟ้าเป็นเจ้าแรกๆ ในไทยถ้าไม่รับแบรนด์จีน ซึ่งช่วงหลังมีรถยนต์ไฟฟ้าขายเป็นนำในค่ายหลายรุ่นให้เลือก ล้วนแล้วแต่มีจุดเด่นที่ดีไซน์แสดงออกภาพลักษณ์ของแบรนด์อย่างชัดเจนในทุกรุ่น และในแต่ละโมเดลก็มักจะมีให้เลือกเล่น 2 รุ่น คือ มอเตอร์เดี่ยว  RWD และมอเตอร์คู่ AWD สร้างชื่อให้เอสยูวีไฟฟ้าล้วนตระกูล EX ที่มีให้เลือกตามขนาดตามการใช้งาน ตามด้วยรหัสรุ่น

ในรอบนี้มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับ EX30 ในเวอร์ชั่นอัพเกรดในชื่อ VOLVO EX 30 CROSS COUNTRY ที่ตกแต่งเพิ่มเติมจากรุ่น EX30 AWD เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มลูกค้าวอลโว่ที่ชอบรถยนต์อเนกประสงค์กับภาพลักษณ์ที่ดูลุยๆ ตามไลฟ์ไสตล์คนเมืองในปัจจุบันที่ต้องการใช้ชีวิตให้สุดขีด หรือออกนอกกรอบบ้างเมื่อมีโอกาส แม้รถยนต์ของวอลโว่เองอาจจะไม่ได้ใส่เทคโนโลยีหรูหรา ลูกเล่นแพรวพราวเหมือนรถจีน แต่ลูกค้าของวอลโว่เองต่างมั่นใจในคุณภาพ และมาตรฐานโดยรวม โดยเฉพาะระบบความปลอดภัยที่ใส่มาให้เต็ม ช่วงหลังวอลโล่เองเน้นเรื่องวัสดุรีไซเคิลในการตกแต่งภายในมากขึ้น ลูกค้าที่ซื้อไปใช้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และยังรู้สึกดีที่มีส่วนช่วยในเรื่องสิ่งแวดล้อมแม้จะเป็นส่วนเล็กๆ ก็ตาม

VOLVO EX 30 CROSS COUNTRY ปรับหลายจุด เพิ่มลูกเล่นงานดีไซน์ ดูเป็นครอสคันทรีพร้อมลุย

วอลโว่เลือกตกแต่งในบางจุด เพิ่มเติมชิ้นงานด้านกราฟฟิก และของแต่งภายนอกให้ดูพิเศษกว่ารุ่นมาตรฐาน แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดแต่งแล้วเอาไปลุยเข้าป่าลึกลุยข้ามลำธารได้  ดีไซน์การออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนยังคงชัดเจนรอบคัน  “เรียบๆ สบายตาดูได้ไม่เบื่อ” แต่ยังคงโดดเด่นด้วยไฟหน้า LED สไตล์ Thor’s Hammer และไฟท้ายที่ยังดูล้ำสมัยเหมือนเดิม พร้อมตั้งราคาขายเท่ากับรุ่น EX30 Ultra – Twin Motor Performance ที่ 1,890,000 บาท นั่นเท่ากับว่าใครชอบภาพลักษณ์แบบไหน ในรุ่น Twin Motor Performance มีสองทางเลือก

เปรียบเทียบราคาจำหน่าย                                                   0-100 km/h   ELECTRIC RANGE      ราคา

EX30 Core – Single Motor Extended Range                     5.3                   540                  1,590,000

EX30 Ultra – Single Motor Extended Range                     5.3                   540                  1,790,000

EX30 Ultra – Twin Motor  Performance                            3.6                   520                 1,890,000

EX30 Ultra – Twin Motor Performance Cross Country   3.7                   490                 1,890,000

แต่สำหรับ Cross Country สิ่งที่เพิ่มเติมได้แก่ กระจังหน้าแบบใหม่เพิ่มลวดลายแสดงภาพแผนที่ภูมิประเทศของเทือกเขาเค็บเนอไค เซ (Kebnekaise) ภูเขาที่สูงที่สุดในสวีเดนทางตอนเหนือของขั้วโลกเหนือ ใส่ล้อดีไซน์ใหม่เฉพาะรุ่น Cross Country ขนาด 19” สีเทากราไฟ เสริมด้วยแผ่นกันกระแทกด้านหน้าและด้านหลังสีเทาแบบด้าน กันชนหลังตกแต่งด้วยสีดำด้าน ใส่โลโก้และสัญลักษณ์ Cross Country กันชนล่างด้านหลัง และบริเวณเสา C มา พร้อมซุ้มล้อสีดำด้านแบบใหม่พร้อมลุย ส่วนภายในมีเบาะสีใหม่ Pine สีเชียวที่มอบความรู้สึกอบอุ่นเป็นธรรมชาติ เพิ่มฟีเจอร์ระบบทำความร้อนที่เบาะนั่งคู่หน้าและพวงมาลัย

แน่นอนในราคาเท่ากับรุ่นปกติแต่ปรับเซ็ตเพิ่มความสูง Ground Clearance 19 มม. เพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์มากขึ้นปรับช่วงล่างใหม่เน้นความนุ่มนวลและความสบาย พร้อมประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนในทุกรูปแบบการขับขี่ ทั้งหมดนี้คุ้มเอาเรื่อง เพราะวอลโว่ ประเทศไทยอยากลองตลาดรุ่นนี้ดูเหมือนกับที่วางขายในหลายภูมิภาค แถมถ้ายังไม่จุดใจ วอลโว่เองก็มีอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์รถแคมปิ้งขายจากโรงงานให้รถตระกูล EX เพิ่มเติมด้วย ทั้งแรคหลังคา ตะกร้าใส่ของบนหลังคา บังโคลน แผ่นปิดกันแดดกระจกพาโนรามิก เป็นต้น

พิเศษกับฟังชัน Relax Mode ปุ่มสร้างบรรยากาศผ่อนคลายขณะจอดรถ เมื่อเปิดใช้งาน เบาะคนขับจะเอนลง ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารจะหรีลง ประตูจะล็อคโดยอัตโนมัติและหน้าต่างรถจะถูกปิด และตั้งเวลาปลุกได้ และ Refresh Mode ฟังชันที่ช่วยทำความเย็นภายในห้องโดยสารอย่างรวดเร็วเหมาะสำหรับวันที่อากาศร้อน ทั้งสองโหมดที่เพิ่มขึ้นมาเข้าไปที่หน้าจอกลาง และไปเซ็ตติ้งตัวรถก็ใช้งานได้เลย

ขุมพลังไฟฟ้า Twin Motor แรงหลังติดเบาะ เช่นเคย

Volvo EX30 Cross Country เป็นรถ SUV ขนาดคอมแพคขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ที่สามารถขับขี่ได้ไกลสูงสุดถึง 490 กิโลเมตร (NEDC) สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะขับขี่ในเมือง, ขับออกไปลุยในทุกสภาพอากาศ หรือแม้แต่ในทริปสั้น ๆ วันหยุด Cross Country คันนี้ก็ตอบโจทย์ทุกฟังชัน

ในรุ่นนี้เป็นมอเตอร์แบบ Twin Motor ให้กำลังสูงสุด 428 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 543 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 3.7 วินาที มากกว่ารุ่นปกติ 1 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. ในส่วนแบตเตอรี่ขนาด 69 kwh สามารถชาร์จได้ทั้งแบบ AC และ DC มาพร้อมระบบการชาร์จไวจาก 10 – 80% ภายในเวลาเพียง 28 นาที ซึ่งแม้จะเป็นระบบขับเคลื่อนเดียวกันกับรุ่นปกติ แต่ด้วยความที่มีน้ำหนักเยอะกว่า ทำให้ตัวเลขอัตราเร่ง และระยะทางการวิ่งดูเหมือนรุ่น EX30 Ultra – Twin Motor Performance จะทำได้ดีกว่านิดหน่อย เมื่อเปรียบเทียบ อัตราค่าเฉลี่ยการใช้ไฟฟ้ารุ่น CC ทำได้ 163 kw/km ส่วนรุ่นมาตรฐาน 150 kw/km

ลองขับสั้นๆ แต่ถึงใจสไตล์ Cross Country ขับง่ายระบบช่วยเหลือเพียบ

เรื่องรายละเอียดภายในงานดีไซน์ดี วัสดุดี แถมลูกเล่นที่ใส่ของเยี่ยม แต่พื้นที่ด้านหลังยังไม่สะดวกสบายเท่าไร คำสั่งต่างๆ ส่วนใหญ่ต้องกดที่หน้าจอกลางที่มีกูเกิลบิ้วอินมาให้ ภายในเรียบๆ เน้นใช้งานกันรอยได้ดี ฟังชันต่างๆ เหมาะสมกับรถปี 2025 ผ่านมาตรฐาน ส่วนระบบความปลอดภัยครบครันมั่นใจได้ ตรงนี้ไม่ขอลงรายละเอียดเยอะ ได้เวลาลองขับออกถนนอัตราเร่งจัดจ้าน ขับสนุก แถมยังคล่องตัวมากด้วยขนาดรถกะทัดรัด วิ่งในเมืองการแซงทำได้อย่างมั่นใจในทุกย่านความเร็ว มี One Paddle ให้ใช้ ช่วงล่างนุ่มๆ ผ่านหลุมบ่อ รอยต่อถนนได้สบาย ไม่ตึงตังให้รำคาญ หรือย้วยเหมือนรถจีน แต่อยากสนุกในบางครั้งต้องไม่มีคนนั่งข้างเพราะอาจโดนอัตราเร่งทำให้มึนหัวเอาได้ การเก็บเสียงทำได้ดี พวงมาลัยยังไม่ตามมือมากนัก อาจเพราะขับในเส้นทางแคบ หรือถนนเส้นรองที่ไม่ได้ทำความเร็วมาก เน้นเพื่อความสะดวกสบายของผู้ขับขี่เป็นหลัก

ช่วงทางดิน เปิดโหมดซิ่ง ตามเส้นทางถนนดินลูกรังลื่นๆ ไม่ส่งผลต่อระบบควบคุมการทรงตัวระบบต้องออกมาใช้งาน อาจเพราะขับขี่เป็นสเตชั่นทดสอบสั้นๆ ถูกกำหนดความเร็วไม่สูงมาก ให้พอได้สัมผัสช่วงล่าง และพวงมาลัยก็พอหอมปากหอมคอ สิ่งที่สอบผ่านในทุกฐานคืออัตราเร่งดีมาก ถนนลื่นทางดินเปียกๆ ไม่มีล้อฟรี ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อกระจายกำลังขับได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ระบบเบรกที่มั่นใจได้ ระยะความสูงที่ได้มาเพิ่มช่วยใช้ขับขี่ทางชัน หรือคอสะพานได้มั่นใจขึ้น หรือแม้แต่ต้องเจอการขับสลาลามในทางออฟโรด ระบบต่างๆ ช่วยให้มอเตอร์ส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่องในแต่ละล้อ ไม่มีท้ายปัด หรือหน้าดื้อ สไตล์รถ AWD กดคนเร่ง คุมพวงมาลัยอย่างเดียวแค่นี้ก็สนุกได้ไม่ยั้ง บรรยากาศเป็นอย่างไรให้ภาพอธิบาย (ปล.ลุยน้ำได้ตามกำหนดโรงงานแต่ไม่สูงมาก) โดยรวมเรียกว่าคุ้มค่ากับทางเลือกเพิ่มเติมในรุ่น VOLVO EX 30 CROSS COUNTRY แถมราคาไม่เพิ่ม ได้ของแต่งและฟังชันเพิ่ม กับราคา 1,890,000 บาท

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th