มีหลายครั้งที่รถสตาร์ทติดยากแล้วโทษแบตเตอรี่เสื่อม ทั้งที่จริงการสตาร์ทเครื่องไม่ติดปัญหาอาจจะอยู่ที่ไดชาร์จก็ได้ แล้วทำไมไดชาร์จถึงทำให้รถสตาร์ทติดยากนั่นเป็นเพราะไดชาร์จเกิดอาการ ไดชาร์จเสื่อม พอไดชาร์จมีอาการเสื่อมก็ส่งผลโดยตรงกับแบตเตอรี่ ทำให้แบตเตอรี่เก็บไฟได้น้อยกว่าปกติและไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เพราะไฟไม่พอ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าไดชาร์จเกิดอาการเสื่อม

ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกับไดชาร์จกัน ไดชาร์จคืออุปกรณ์ที่ทำงานคู่กับแบตเตอรี่ หรือถ้ามองให้เห็นภาพ ไดชาร์จจะเสมือนโรงไฟฟ้าที่ต้องสร้างกระแสไฟฟ้าเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ไดชาร์จจึงเป็นตัวสำคัญตัวหนึ่งที่รถยนต์ขาดไม่ได้ แต่หากเกิดเสื่อมหรือเสียขึ้นมาจะมีสัญญาณแบบไหนเตือนบ้างมาดูกัน

1. อุปกรณ์ไฟฟ้าเริ่มทำงานผิดปกติ เช่น ไฟหน้ารถสว่างน้อยลง แอร์ในห้องโดยสารเริ่มไม่ค่อยเย็น ถึงแม้ว่าจะล้างระบบแอร์ เช็ครอยรั่วแล้ว แอร์ก็ยังไม่กลับมาเย็นเหมือนเคย ให้สันนิษฐานไว้เลยว่า ไดชาร์จกำลังเสื่อม
2. เสียงดังแปลกๆ จากไดชาร์จ เป็นเสียงที่ผิดปกติมาจากด้านใน เสียงมักจะมาพร้อมระบบไฟที่เริ่มทำงานผิดปกติ
3. สตาร์ทเครื่องแล้วมีเสียงลากยาวขึ้น สาเหตุจากไดชาร์จที่เสื่อมสภาพแล้วไม่สามารถปั่นกระแสไฟเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรรี่ได้ ภายในแบตเตอรี่จึงมีไฟอยู่ ทำให้เวลาสตาร์ทจะมีเสียงลากยาวจนกว่าเครื่องยนต์จะติด
4. ไฟเตือนรูปแบตเตอรี่ปรากฏขึ้นบนหน้าปัด เป็นสิ่งย้ำเตือนให้ผู้ขับขี่รู้ตัวก่อนว่าไดชาร์จหรือแบตเตอรี่กำลังเสื่อมแล้ว

ถ้าไม่อยากจอดรถรอช่างซ่อมกลางทางหรือลากรถเล่นไปอู่ ก็ควรสังเกตความผิดปกติของไดชาร์จด้วย จะได้ไม่หงุดหงิดเสียอามร เสียเวลา แนะนำว่าถ้าเจอกับอาการข้างต้นให้รีบนำรถเข้าเช็คสภาพโดยทันทีแล้วสันนิษฐานได้เลยว่าไดชาร์จเกิดอาการเสื่อม

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th