Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
MotorcycleMotorcycle/Test DriveRound Up NewsTest Drive
Home›Achive›Motorcycle›ลองขี่ Giorno+ ใหม่ เที่ยวทางไกล แรงกว่าจริงมั้ย !!!

ลองขี่ Giorno+ ใหม่ เที่ยวทางไกล แรงกว่าจริงมั้ย !!!

By วรชัช ไกรสีห์กาจ
October 16, 2023
1937
0
Share:

New Honda Giorno+ รถออโตเมติกแนวโมเดิร์นคลาสสิก ในสไตล์ High Fashion ที่มาพร้อมคอนเซปต์ The New High ทุกสไตล์ไปได้ไกลกว่า นั่นทำให้ผมคิดว่ามันไกลกว่า ไกลกว่าอะไร และมันไกลได้ขนาดไหน

          ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับการเดินทางใช้งานในชีวิตประจำวัน คงถือเป็นจุดสำคัญตามการใช้งานของคนทั่วไป แต่หากเป็นผู้ที่ชื่นชอบในการเดินทางตามไลฟ์สไตล์ รวมถึงขับขี่ทางไกลแบบใช้งาน (ใช้งานต่างจังหวัด) ก็คงจะมอง ๆ New Honda Giorno+ คันนี้อยู่บ้าง เพราะรูปลักษณ์หน้าตาสมัยนิยมแบบนี้ ย่อมถูกใจหลายคนไม่มากก็น้อย แต่หากต้องมาใช้งานเดินทางไกล สมรรถนะจะเป็นอย่างไร  อัตราเร่ง อัตราการกินน้ำมัน รวมไปถึงท่วงท่าการขับขี่ จะเมื่อยแขนเมื่อยขามากขนาดไหน …. สิ่งที่ว่ามานี้ เราจะมาพิสูจน์ไปพร้อม ๆกัน

ก่อนเดินทาง

การเดินทางครั้งนี้ เราเดินทางกัน 2 คัน ด้วย Giorno+ ทั้ง 2 รุ่น คือ  ABS และ CBS โดยจะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน คือ รุ่น ABS จะติดตั้งระบบเบรกด้านหน้า ไฮดรอกลิกดิสก์เบรก ABS / ด้านหลังดรัมเบรก ส่วนรุ่น CBS จะติดตั้งระบบเบรกด้านหน้า ไฮดรอกลิกดิสก์เบรก CBS / ด้านหลังดรัมเบรก โดยจะทำให้ทั้ง 2 รุ่นมีน้ำหนักแตกต่างกัน คือ CBSหนัก 118 กก. / ABS หนัก 120 กก. หลังจากเตรียมตัวให้พร้อม เช็ครถ เติมลม เติมน้ำมันเต็มถัง เราออกเดินทางกันจากย่านมีนบุรี ชานเมืองของกรุงเทพมหานคร โดยมีจุดหมายปลายทางคือ อำเภอวังน้ำเขียว นครราชสีมา

รุ่น ABS จะติดตั้งระบบเบรกด้านหน้า ไฮดรอกลิกดิสก์เบรก ABS / ด้านหลังดรัมเบรก รุ่น CBS จะติดตั้งระบบเบรกด้านหน้า ไฮดรอกลิกดิสก์เบรก CBS / ด้านหลังดรัมเบรก

ออกเดินทาง

โดยการเดินทางในช่วงแรกนั้นเป็นเส้นทางจากเมือง เพื่อออกนอกเมือง เส้นทางรถติด สลับจอด และต้องซอกแซกบ่อยครั้ง เพื่อเร่งแซงผ่านรถยนต์ รวมไปถึงรถบรรทุกเป็นระยะ ต้องบอกว่าตามโจทย์การใช้งานพื้นฐานเลย อัตราเร่ง บิด หยุดติดไฟแดง สลับเร่งออก ซึ่งรุ่นนี้มี Idling Stop System ระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ แต่เราไม่ได้เปิดใช้งาน เพราะอยากได้ฟีลความต่อเนื่อง อันนี้แล้วแต่ชอบ จวบจนเดินทางออกนอกชานเมือง บนเส้นถนน สุวินทวงศ์ ก็ได้ลองใช้ความเร็วได้มากขึ้น เนื่องจากเป็นถนนใหญ่ และเป็นเส้นทางตรงยาว ๆ  โดยเรือนไมล์แสดงผลความเร็วที่ 90 กม/ชม. คือค่ากลางที่เราใช้เดินทาง

และยังพอเหลือคันเร่งในมือให้เติมได้นิดหน่อย ยามสลับแซงในรอบความเร็ว แต่สิ่งที่จะรู้สึกได้คือ เสียงของเครื่องยนต์จะสะท้าน และหอนดังขึ้นมาจนได้ยินเสียงผ่านหมวกกันน๊อคเต็มใบ แต่ก็นั่นแหละครับ นี่คือรถสกู๊ตเตอร์ไซต์นี้ คงไม่ได้คาดหวังอะไรไว้มากกว่านี้อยู่แล้ว ถือว่าทำได้เกินความจำเป็นของรถเดิม ๆ ด้วยซ้ำไป

ถนนเริ่มพัง

สำหรับเส้นทางที่เราเดินทางกันต่อไปนั้น แม้จะเป็นทางลาดยางแล้วก็ตาม แต่ก็สลับไปด้วยหลุม บ่อ มีผ่านที่เป็นเส้นทำถนนสลับบ่อยครั้ง เหมือนรู้ว่าเรากำลังจะสื่อสารเรื่องช่วงล่าง เพราะด้วยข้อดีของล้อขนาด 12 นิ้ว ทำให้เรารู้สึกมั่นใจของหน้ายางที่สัมผัสถนนได้ดี และในบางจุดที่ถนนขรุระก็ไม่ได้ทำให้สัมผัสถึงแรงสะท้านบริเวณแฮนด์บาร์มากเท่าไรนัก แต่ไม่ได้ไม่มีนะ เพียงแต่รับได้  ส่วนสำหรับท่วงท่าในการเดินทางไกล คงต้องมีสลับการวางเท้ากันบ้าง เพื่อเลี่ยงสรีระท่าทางไม่ให้เมื่อยมากเกินไป (ผู้ขับขี่สูง173) แต่ก็เข้าใจได้เพราะโดยปกติในการใช้งานทั่วไป เราคงไม่ได้อยู่บนรถกันนานมากขนาดนี้

ผ่านอุโมงค์ทับลาน ที่ก่อนเดินทางมา มีข่าวว่าน้ำท่วมมิด

จอดรถเช็คของ

รู้ตัวอีกทีเราก็ขับขี่ผ่านอุงโมงค์ทับลาน แวะจอดพักกันที่เวโรน่า แอท ทับลาน ผมที่ลองใช้งาน USB Socket & Console Box ซึ่งได้เสียบมือถือชาร์จทิ้งไว้ตั้งแต่ร้านก๋วยจั๊บ ตอนนั้นแบตประมาณ 80 % พอมาถึง พบว่าแบตเต็ม 100 % เรียบร้อย โดยมือถือที่เปิด google Map บอกทางทิ้งไว้แล้วเติมแบตได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าเกินคาดหวัง อาจจะแนะนำว่าใครใช้จริง คงต้องหาสายชาร์จที่สั้น ๆ ก็จะไม่รุงรังตอนเสียบชาร์จ

อีกจุดหนึ่งนั่นก็คือ U-box ช่องเก็บของขนาด 30 ลิตรใต้เบาะ พอเปิดออกพบว่ามีความร้อนอบอวลอยู่พอประมาณ อาจจะเพราะเราเดินทางเป็นระยะยาว ขี่ตากแดด มาด้วย ถ้าให้แนะนำก็เลี่ยงสิ่งของที่จะมีผลต่อความร้อนในการเก็บใต้เบาะ แต่ใช้งานปกติก็ไม่ต้องกังวลอะไร  ช่องชาร์จมือถือ เดินทางไกล ได้ใช้จริงแน่นอน ไม่ต้องแบกให้เมื่อยหลัง ยัดใต้เบาะสบายกว่า

จอดแวะพักแถวเวโรน่า ทับลาน ก่อนขึ้นไปชมกระทิง

ถึงจุดหมาย

จากนี้เดินทางกันต่อ จะเป็นเส้นทางซึ่งถือเป็นปลายทางของเรา ที่เขาแผงม้า วังน้ำเขียว นครราชสีมา จะเป็นเส้นทาง ลาดชัน สลับกับทางโค้งของช่วงเขาไฮสปีด สลับกัน จวบจนมาถึงเส้นทางลาดชัน แต่เป็นเส้นทาง ขรุขระ หินใหญ่ สลับฝุ่นดิน ก็ถือว่าได้ลองอัตราเร่งกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็สามารถทำได้ตามโจทย์เป็นอย่างดี นอกนั้นก็จะมีแต่ฝุ่นดินที่เลอะเทอะเพียงเท่านั้นทางชันและสภาพถนนที่ขรุขระ ระหว่างเดินทางขึ้นเขาแผงม้า

พอเราผ่านมาจนถึงที่หมายของ เขาแผงม้า ก็เหมือนได้ทำการฟอกโอโซนเข้าปอด ชวนได้สดชื่นถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสุขของการได้ขี่รถท่องเที่ยว และสำหรับไฮไลท์ของเขาแผงม้า นั่นก็คือการมองชมกระทิง ซึ่งเราไม่ได้ชมกระทิงขอสารภาพ เพราะกระทิงจะออกมาในช่วงเช้าและช่วงก่อนตะวันตกดิน แต่ก็ถือว่าได้เดินทางมาถึงอย่างที่ใจคิด แค่นี้ก็ดีแล้ว (เข้าข้างตัวเอง)

สรุปการเดินทาง

กลับมาที่ข้อสงสัยของเราตั้งแต่ต้นทริป ด้วยระยะการเดินทางกว่า 200 กิโลเมตร สรุปได้อย่างนี้ ในเรื่องของสมรรถนะเครื่องยนต์ หายห่วง ความเร็วปลายที่ 100 นิด ๆ สำหรับคนหนัก 80 กก. ช่วงล่างนั้นผ่านเส้นทางที่แตกต่างกัน เอาอยู่ ไม่ได้ส่งแรงสะท้านขึ้นมาที่มือมากมาย และไม่ได้รู้สึกว่าหน้าเบาและชวนให้ขับขี่ไม่มั่นใจซักเท่าไร สำหรับการเดินทางไกลก็จะมีติดช่วงของระยะการวางเท้า ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับช่วงขาของผู้ขับขี่ ซึ่งก็น่าจะแตกต่างกันตามแต่ละคนกันไป ในส่วนของออฟชั่นที่ให้มาใช้งานได้จริง และรูปลักษณ์นั้นถือว่าถูกใจเราเลยนะ เพราะใช้เดิม ๆ ก็ไม่เลว หรือจะไปทางแต่งอันนี้ก็เพิ่มนิดเติมหน่อยน่าจะได้หลายแนวอยู่ โดยที่ New Honda Giorno+ มีให้เลือกสองรุ่นย่อย คือ1.รุ่น ABS ราคา 66,900 บาท 2.รุ่น CBS ราคา 61,900 บาท

 

เรื่อง  : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ภาพ : ฝ่ายภาพ GRANDPRIX

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th

TagsGiorno+hondamotorcyclethailandNew Honda Giorno+thaihondaTheNewHighเครื่องยนต์eSP+
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • KLX230 ใหม่ เอาใจสายลุย พร้อมปรับราคาใหม่สุดเร้าใจ
  • ฮีโน่และกรมการขนส่งทางบก ผนึกกำลังสานต่อ “โครงการสร้างนักขับมืออาชีพ ปีที่ 3” ยกระดับมาตรฐานการขนส่งไทย
  • เจาะ สเปค Xiaomi SU7 Ultra และเอสยูวีหรู YU7
  • ไพรม์มัส กรุ๊ป ยกทัพใหญ่ อวดโฉมรถใหม่ 5 แบรนด์ดังงาน Fast Auto Show Thailand 2025
  • Toyota Land Cruiser Hybrid 48V ขุมพลังไฮบริดใหม่ลุยตลาดยุโรป

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram