Toyota Land Cruiser รุ่นใหม่แข็งแกร่ง บึกบึน ทันสมัย

Toyota เข้าสู่ปีที่ 70 ของการผลิตรถเอสยูวี Land Cruiser ด้วยการเปิดตัวรุ่นใหม่ 300 Series ออกมาแทนที่เจเนเรชั่น 200 Series ที่ทำตลาดมายาวนานตั้งแต่ปี 2007 โดยบอกว่ารถเอสยูวีรุ่นใหม่ของตนมาพร้อมกับการพัฒนาด้วย 2 วัตถุประสงค์คือ “สืบทอดและพัฒนาจิตวิญญาณที่ไว้วางใจได้ ทนทาน และสมรรถนะสูงของรถออฟโรด” และ “สร้างประสบการณ์การขับที่สามารถรับมือได้กับทุกสภาพถนน”

ในการผลิต Land Cruiser รุ่นใหม่ Toyota ได้ปรับทำแพลตฟอร์มใหม่ GA-F ซึ่งใช้พื้นฐานจากแพลตฟอร์ม TNGA พร้อมกับออกแบบลักษณะของรถเอสยูวีใหม่โดยการรวมเทคโนโลยีที่สั่งสมมาเป็นเวลาหลายปีร่วมกับเทคโนโลยีล่าสุด โดยผลลัพธ์ที่ได้คือน้ำหนักของรถลดลงถึง 200 กิโลกรัม แต่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมกับมีจุดศูนย์ถ่วงของรถที่ต่ำลง รวมไปถึงมีการกระจายน้ำหนักที่ดีขึ้น และมีการปรับปรุงโครงสร้างช่วงล่างของรถให้ดีขึ้น

ในด้านตัวรถ Land Cruiser ใหม่มีความยาว 4,990 มม. กว้าง 1980 มม. ส่วนระยะฐานล้อมีความยาว 2,850 มม. ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่ารุ่นก่อนหน้าทั้งหมด ในขณะที่มุมไต่ของรถอยู่ที่ 32 องศา และมีมุมจาก 24 องศา ส่วนการออกแบบ Toyota ระบุว่าภายนอกของ Land Cruiser เป็นการออกแแบเพื่อให้เป็นความงามที่ให้ประโยชน์ใช้งานด้วยเส้นที่สืบทอดมาของ Land Cruiser อย่างตำแหน่งของไฟและรูปทรงของกันชนที่จะไม่เกิดความเสียหายในขณะขับบนเส้นทางออฟโรด สำหรับภายในของรถมาพร้อมกับเรือนไมล์แนวนอนที่ทำให้สังเกตตำแหน่งรถได้ง่ายแม้อยู่บนเส้นทางออฟโรด รวมไปถึงมีสวิตช์ควบคุมในตำแหน่งที่ง่ายต่อการปรับ พร้อมกับมีการปรับปรุงทั้งเรื่องรูปทรงและสีของปุ่มสำหรับการควบคุม

ส่วนขุมกำลังของรถมีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.5 ลิตร ทวินเทอร์โบ กำลัง 415 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ดีเซล V6 3.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ 309 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร เป็น 2 เครื่องยนต์หลักโดยใช้เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 2 เครื่องยนต์ แต่จะมีเครื่องยนต์เบนซิน V6 ไม่มีเทอร์โบ พร้อมกับใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดขายในบางตลาด

Toyota ระบุว่าได้ให้นักขับรถหลายคนทำการทดสอบรวมทั้งนักแข่งแรลลีดาการ์เพื่อให้ความมั่นใจทั้งบนถนนและออฟโรด ซึ่งผลการทดลอบทำให้มีการปรับปรุงสมรรถนะช่วงล่างพื้นฐาน ทำให้ล้อทำงานได้ดีขึ้น มีการตรวจจับพื้นผิวขรุขระเพื่อให้ผู้ขับเห็นสิ่งรอบข้างได้ดีขึ้น และมีระบบ E-KDSS หรือ Electronic Kinetic Dynamic Suspension System ที่ช่วยให้การยึดเกาะถนน