คงต้องบอกว่า Toyota เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ไม่กี่รายที่ยังมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ออกมาในช่วงเวลานี้ เพราะล่าสุดได้มีการเผยโฉมใหม่ของรถเอสยูวีหรูขนาดกลาง Harrier ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ออกมา ก่อนที่จะเริ่มขายเดือนมิถุนายนปีนี้ในญี่ปุ่น

Toyota Harrier เจนเนอเรชั่นล่าสุดถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม TNGA GA-K จึงหมายความว่าเป็นการใช้ร่วมแพลตฟอร์มร่วมกับ RAV4 เจนเนอเรชั่นล่าสุด เหมือนกับ Harrier เจนเนอเรชั่นที่แล้วซึ่งมีความเกี่ยวข้องในเรื่องแพลตฟอร์มกับ RAV4 เจนเนอเรชั่นที่ 4 แทนที่จะมีการแชร์ส่วนต่างๆ ร่วมกับ Lexus RX เหมือน Harrier 2 เจนเนอเรชั่นแรก อย่างไรก็ตามทาง Toyota ระบุว่าด้วยสถาปัตยกรรมใหม่ทำให้ตัวรถมีความแข็งแกร่งขึ้นพร้อมกับมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ เพื่อให้ทั้งความสบายในการเดินทางและสมรรถนะในการขับ

ด้านขนาดของ Harrierเจนเนอเรชั่นที่ 4 มีความยาว 4,740 มม. กว้าง 1,855 มม. สูง 1,660 มม. ส่วนระยะฐานล้อมีความยาว 2,690 มม. ซึ่งทำให้เมื่อเทียบกับเจนเนอเรชั่นก่อนหน้ามีความแตกต่างด้านมิติไม่มากนัก โดยมีความยาวมากขึ้น 20 มม. กว้างขึ้น 20 มม. ระยะฐานล้อยาวขึ้น 30 มม. และเตี้ยลง 30 มม. ในขณะที่การออกแบบทาง Toyota แสดงถึงสไตล์ของรถที่มีความต่อเนื่องมาจากรุ่นก่อนหน้า แต่ปรับให้มีความสปอร์ตมากขึ้น โดยจุดเด่นของภายนอกรถอยู่ที่ไฟหน้า LED ทรงเพียวและกระจังหน้าส่วนบนที่มีแถบโครเมียมอยู่ด้านล่าง ในขณะที่กระจังหน้าส่วนล่างและกันชนหน้ามีความดุดันขึ้น นอกจากนี้ยังมีเส้นหลังคาที่ดูเหมือนรถคูเป้ และไฟท้ายเรียวยาวเต็มความกว้างของรถ

ส่วนหัวใจขับเคลื่อนมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาและไฮบริด โดยรุ่นเครื่องยนต์ปกติเป็นเครื่อง Dynamic Force Engine 4 สูบ 2.0 ลิตร 171 แรงม้า แรงบิด 207 นิวตัน-เมตร ใช้เกียร์ Direct Shift-CVT ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้าหรือทั้ง 4 ล้อ สำหรับรุ่นใช้ระบบไฮบริดขับเคลื่อนจะมีความแตกต่างกันระหว่างรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและทุกล้อ โดย Harrier  ไฮบริดรุ่นใหม่ขับเคลื่อนล้อหน้าใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตร 178 แรงม้าร่วมกับมอเตอร์ 120 แรงม้าที่เพลาหน้าทำให้มีกำลังรวม 218 แรงม้า ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะเพิ่มมอเตอร์ 54 แรงม้าที่เพลาหลังเข้ามาทำให้มีกำลังรวม 222 แรงม้า โดยใช้ระบบส่งกำลังแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้ากับ Harrier ไฮบริดทั้ง 2 รุ่น

ในขณะที่กับระบบช่วงล่างของรถเอสยูวีหรูขนาดกลางรุ่นใหม่ทาง Toyotaระบุว่าช่วงล่างด้านหน้าแบบแมกเฟอร์สันสตรัต และแบบดับเบิลวิชโบนที่ด้านหลัง ถูกปรับเพื่อให้ทั้งความมั่นคงและพึงพอใจในการเดินทาง

ส่วนภายในห้องโดยสารมีความโดดเด่นด้วยจอทัชสกรีน 12.3 นิ้วตรงกลางสำหรับระบบนำทาง T-Connect SD รวมทั้งมีแผลแดชบอร์ดที่ให้ความรู้สึกหรูเช่นเดียวกับแผงประตู โดยมีการใช้หนังเทียมกับโทนสีที่คล้ายวัสดุจากไม้กับส่วนที่ผู้อยู่ในรถสัมผัส รวมไปถึงมีหลังคาพาโนรามา

แน่นอนว่า Harrierเจนเนอเรชั่นใหม่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เป็นอุปกรณ์มาตรฐานซึ่งประกอบด้วยการทำงานอย่างระบบเตือนก่อนการชนที่ด้านหน้าพร้อมตรวจจับคนเดินถนนทั้งกลางวันและกลางคืน รวมทั้งสามารถตรวจจับคนขี่จักรยานได้ ระบบช่วยเบรกและมีโซนาร์ช่วยเพื่อป้องกันการชนขณะจอดรถ รวมไปถึง Active Cornering Assist ที่ช่วยควบคุมการเบรกเพื่อป้องกันอาการดื้อโค้งของรถ

แม้ทาง Toyotaจะระบุออกมาแล้วว่า Harrier เจนเนอเรชั่นใหม่จะถึงดีลเลอร์ในญี่ปุ่นเดือนมิถุนายนนี้ แต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยราคาออกมา ส่วนตลาดต่างประเทศนอกญี่ปุ่นอาจจะไม่ได้สัมผัสรถเอสยูวีรุ่นนี้ เนื่องส่วนใหญ่จะมี Lexus RX ทำตลาดรถเอสยูวีหรูอยู่แล้ว

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th