Mercedes-Benz ทำการปรับโฉมให้กับรถรุ่นเล็ก A-Class ทั้งซีดานและแฮทช์แบ็ก โดยที่การปรับในส่วนของดีไซน์ภายนอกมีไม่มากนัก แต่เน้นเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานและปรับการแต่งใหม่และเพิ่มเทคโนโลยีในห้องโดยสารของรถ

เมอร์เซเดส–เบนซ์ จัดเต็มความหรูหราส่งท้ายปีที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 ด้วยทัพรถยนต์พรีเมียมครบครันทุกเซ็กเมนต์ทั้งในกลุ่ม Compact car, Contemporary Luxury, Dream Cars และ SUV รวมถึงแบรนด์รถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่าง “เมอร์เซเดส–เอเอ็มจี” และแบรนด์เทคโนโลยีกับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด

ในยุคปัจจุบันเป็นเรื่องปกติที่ผู้ผลิตรถยนต์มักจะมีพลังานไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องในรถรุ่นใหม่ๆ ของตนไม่ว่าจะเป็นแบบ Mild Hybrid, Self Charging Hybrid หรือปลั๊กอินไฮบริด เพื่อเป็นทางเลือกนอกจากการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ปกติ

Merceddes-Benz เพิ่มความสะดวกในการทำสิ่งต่างๆ ภายในห้องโดยสารให้กับผู้ที่ซื้อรถบางรุ่นของตนมากยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มฟีเจอร์การทำงานใน Mercedes Me ซึ่งเป็นช่องทางสู่การออนไลน์ในรถที่จะทำให้ผู้ใช้รถสามารถสั่งซื้อการทำงานเสริมเพิ่มได้แม้หลังรับรถไปแล้ว

ในงานไชน่าออโตโชว์ที่ปักกิ่ง Mercedes-Benz ได้เปิดตัวตัวถังซีดานของ A-Class ออกมาเป็นครั้งแรกพร้อมกับมีตัวอักษร L ต่อท้ายซึ่งมาจากการฐานล้อที่ยาวกว่า A-Class แฮทช์แบ็กโดยระะบุว่า A-Class L Sedan เป็นรุ่นสำหรับจำหน่ายในประเทศจีนโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามล่าสุดประเทศอื่นนอกจากจีนก็มีโอกาสสัมผัสกับรุ่น 4 ประตูของ A-Class เหมือนกันเพียงแต่ว่าจะไม่ใช่รุ่น A-Class L Sedan

เรียกว่าสวยงามถอดแบบจากคอนเซ็ปต์คาร์ก็คงไม่ผิด All-New Mazda3 เจเนอเรชั่น 4 ที่เตรียมจะขายจริงในปี 2019 หลังจากสื่ออังกฤษ เปิดเผยภาพหลุดชุดแรกออกมาเป็นที่เรียบร้อย และเตรียมใช้ Skyactiv-X