Chapter #2…ถึงเวลาจัดหา – สั่งนำเข้าอะไหล่ เพื่อเตรียมงานขั้นต่อไป…

กลับมาอัพเดตกันต่อจากคราวที่แล้ว (Chapter#1 https://goo.gl/z2sNad) หลังจากที่ได้รื้อชิ้นส่วนต่างๆออก เพื่อดูว่ามีอะไรผุพัง เสียหายไปบ้าง จึงเริ่มทำการซ่อมแซม ในส่วนของพื้นห้องโดยสาร ประตู แก้มข้าง ชายล่าง รวมถึงห้องเครื่อง ซึ่งในส่วนที่ผุมากหน่อย ก็จะอยู่ที่บริเวณชายประตู และซุ้มล้อ ซึ่งเป็นจุดที่เจอความชื้นมากกว่าส่วนอื่น โดยน้าเปี๊ยก ก็ได้ซ่อมแซม แก้ไขด้วยการใช้เหล็กแผ่น ตีขึ้นรูป มาสวมเข้าแทนชิ้นส่วนที่ผุพังเสียหาย แต่จะมีอะไหล่ตัวถังบางรายการ ที่จำเป็นต้องสั่งของตรงรุ่นมาใส่ อย่างเช่น หลังคาไฟเบอร์กลาสแบบ Half Cab ตรงรุ่น และแผ่นกั้นห้องโดยสารด้านหลัง Back Panel ทั้งนี้ ก็เพื่อให้การประกอบเข้ามุมตามแบบนั้น ทำได้ง่าย และประหยัดเวลากว่าการเคาะเหล็กแผ่นขึ้นรูป ซึ่งงานบูรณะตัวถังในขณะนี้ ก็คืบหน้าไปพอสมควร ในส่วนของพื้นกระบะ และฝาท้าย ก็ได้มีการสำรวจความเสียหายเบื้องต้น ปรากฎว่าพบเพียงสนิมบางๆ เกาะที่ผิว สามารถขัดออกได้ และไม่จำเป็นต้องปะผุ เหมือนช่วงครึ่งหน้าที่ผ่านมา…จึงทำให้งานซ่อมตัวถังส่วนที่เหลืออยู่ มีแนวโน้มว่าจะทำง่าย และเบาแรงยิ่งขึ้น…

ได้เวลานำเข้าอะไหล่ที่ต้องใช้… 

ในช่วงระหว่างรอการซ่อมแซมตัวถัง ก็ได้ทำการสั่งอะไหล่ต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้มาเก็บไว้ ซึ่งอะไหล่ที่ได้มา ก็จะมีทั้งอะไหล่ที่ผลิตขึ้นใหม่ (Reproduction) อะไหล่ใหม่เก่าเก็บ (New Old Stock) ไปจนถึงอะไหล่มืองสอง (Used) โดยเลือกช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ www.wildhorses4x4.com และ www.tomsbroncoparts.com โดยหา Part. Number เลขรหัสอะไหล่ที่ต้องการจากแคตตาล็อกออนไลน์ ต่อจากนั้นทำการส่งเมล์เช็คสต็อกสินค้า รวมถึงรายละเอียดในส่วนของราคา ค่าจัดส่ง และค่าธรรมเนียมภาษีนำเข้า พร้อมกับยืนยันการสั่งสินค้า โดยโอนเงินเข้าบัญชี ส่งต่อให้เพื่อนรุ่นน้องคนสนิทที่พักอาศัยใน Los Angeles ช่วยประสานกับทางร้าน เพื่อการจัดหาอะไหล่ และชำระค่าสินค้ารวมถึงค่าส่งทั้งหมดตามออเดอร์ พร้อมทั้งติดต่อชิปปิ้งเพื่อทำการจัดส่งอะไหล่ทางเรือ ซึ่งจะมีค่าบริการที่ถูกกว่าทางเครื่องบิน หลังจากชำระค่าบริการส่ง โหลดของขึ้นเรือ เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาดคลาดเคลื่อน บรรดาอะไหล่ต่างๆ ที่สั่งไว้ ก็จะเดินทางมาถึงเมืองไทย โดยใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน…

”หลังจากที่งานปะผุตัวถัง จัดทรงแล้ว ลำดับต่อไป ก็จะทำการยกตัวถังแยกจากแชสซีส์ เพื่อเก็บรายละเอียด ทำความสะอาด โดยจะทำการรื้อแท่นเครื่องของเดิมที่ไม่ใช้ออกไป และสร้างจุดยึดเครื่องใหม่ ต่อด้วยการส่งแชสซีส์ไปยิงทราย ไล่สนิม และทำสีใหม่ ก่อนจะนำชิ้นส่วนตัวถัง กลับมาประกอบรวมร่างอีกครั้ง หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนในการวางเครื่อง เดินสายไฟ เก็บรายละเอียดภายใน ใส่ช่วงล่าง ตามลำดับ ซึ่งในครั้งต่อไป จะมีการอัพเดทในส่วนใดเพิ่มเติม ขอได้โปรดติดตามในครั้งต่อไป”

ความต่าง ของสัญลักษณ์ Bronco กับ Mustang รูปม้าเหมือนกัน???…

หลายท่านจะสังเกตุเห็นสัญลักษณ์ตราม้าบนรถทั้งสองรุ่น ก็อาจมีคำถามเกิดขึ้นว่า “เป็นม้าแบบเดียวกันมั้ย???” หลังจากที่สืบค้นข้อมูลผ่านโลกไซเบอร์แล้ว พอได้บทสรุปคร่าวๆ ดังนี้… Mustang คือ ม้าป่า มีถิ่นอาศัยในทวีปอเมริกาเหนือ ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา โดยตำนานเรื่องเล่า ชาวคาวบอย ได้กล่าวไว้ว่า ม้าป่าในตำนานที่ว่านี้ มีเชื้อสายจากม้าศึกในกองทัพสเปน จึงใช้สัญลักษณ์ “ม้าวิ่ง” เพื่อสื่อถึงความมีสมรรถนะ ที่มาพร้อมความสง่างาม ดั่งนิยาม “เจ้าม้าป่า จากฝั่งตะวันตก…ความหมายของโลโก้ Mustang ก็คือม้าศึกในสงคราม สื่อถึงความแกร่ง มีสมรรถนะ ผ่านโลโก้รูปม้าวิ่ง เมื่อมาอยู่บน Ford Mustang ก็จะสื่อถึงม้าศึก จอมพลัง ผู้จัดจ้าน คล่องแคล่ว และปราดเปรียวบนทางเรียบ…

โลโก้ม้าพยศ จากแดนใต้ของ Ford Bronco	สัญลักษณ์ของ Bronco จะสื่อถึง ม้าพยศ ที่ขาดการฝึกฝน และควบคุมยาก ซึ่งหากไม่มีทักษะ ก็อาจจะเสียท่าได้
โลโก้มาศึก จากฝั่งตะวันตก ของ Mustang	Mustang ก็คือม้าป่าทรงสมรรถนะจาก Ford สื่อถึงความ เร็ว แรง ปราดเปรียว ดุจม้าศึกสายพันธุ์สเปน

ต่างจาก Bronco ที่เป็นชื่อเมืองทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา อยู่เหนือแคนาดา และเม็กซิโก ถิ่นกำเนิดของการขี่ม้าพยศแบบ Rodeo ซึ่งเป็นวิถีแห่งคาวบอยเมืองใต้…โดย Ford Bronco ถือกำเนิดเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 1966 จากความตั้งใจที่จะทำตลาดรถยนต์ออฟโรดขนาดเล็ก เพื่อเอาใจขาลุยในยุคนั้น และเพื่อเป็นคู่เปรียบมวยกับ Jeep CJ และ International Harvester Scout ที่กำลังทำตลาดอยู่ในยุคนั้น โดย Ford Bronco จะใช้เครื่องยนต์ร่วมกับ Mustang มีให้เลือกตั้งแต่ 6 สูบเรียง ไปจนถึง V8 สูบ วางบนโครงส้างแชสซีส์ที่มีฐานล้อสั้นเพียง 92 นิ้ว แต่ด้วยความแรงที่มี อาจทำให้ Bronco เป็นรถที่ควบคุมยาก หากใช้ความเร็วสูง ด้วยเหตุนี้เอง จึงเป็นที่มาของโลโก้ “ม้าพยศ”… ซึ่งผู้ที่จะขับขี่ควบคุมม้าพยศตัวนี้ได้ ก็จะต้องใช้ทักษะ และความคุ้นเคยพอสมควร

เรื่อง : สมโภชน์ นันทโรจน์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th