บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์ พีที (PT) จัดงาน “PTG Drive for Tomorrow: Max Card. Max Growth. Max World.” เปิดกลยุทธ์ธุรกิจปี 2568 ภายใต้ “Max World” เดินหน้าขยายเครือข่ายธุรกิจในหลายมิติ พร้อมตอกย้ำวิสัยทัศน์ “อยู่ดี มีสุข” ผ่านการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่หลากหลายให้เชื่อมโยงกับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้บริการเพื่อสิทธิ์ประโยชน์และความคุ้มค่าที่มากยิ่งขึ้น พร้อมจัดเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชนที่ร่วมผลักดันทุกความสำเร็จของพีทีจี สู่สาธารณะชน จนก้าวสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG กล่าวว่า ปัจจุบัน PTG ประสบความสำเร็จอย่างมากในการขยายฐานสมาชิกบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus ได้มากถึง 25 ล้านสมาชิก (คิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรไทย) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจ Oil และ Non-Oil ของบริษัทฯ เติบโตเหนือความคาดหมาย โดยธุรกิจ Oil ของ PTG ทำสถิติใหม่ด้านปริมาณการจำหน่ายน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6,548 ล้านลิตร เติบโต 12.9% จากปีก่อน สูงกว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมกว่า 10 เท่า (ตลาดเติบโต 0.4% จากปีก่อน) พร้อมครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 21.9% จาก Same-Store Sales Growth (SSSG) กว่า 11.6% จากปีก่อน โดยมี PT Max Card เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ดึงดูดลูกค้าให้กลับมาเติมน้ำมันมากขึ้น บ่อยขึ้น และต่อเนื่องขึ้น PTG ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ โดยเน้นโครงการหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐาน และคุณภาพการบริการ พร้อมกลยุทธ์การเติบโตควบคู่ไปกับลูกค้า ชุมชน และ คู่ค้า อีกทั้งได้พัฒนาและปรับปรุงสถานีบริการให้เป็น One-Stop Destination รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วให้ทุกสถานีกลายเป็นมากกว่าสถานีเติมน้ำมัน

ขณะเดียวกัน ธุรกิจ Non-Oil เติบโตอย่างแข็งแกร่งครอบคลุมทุกมิติ มีรายได้เติบโต 31.2% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของ GDP 10 เท่า (GDP เติบโต 2.5% จากปีก่อน) ขณะที่กำไรขั้นต้นของธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อน โดยมีกาแฟพันธุ์ไทยเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจ Non-Oil ด้วยการเติบโตที่โดดเด่นของกำไรขั้นต้นซึ่งเพิ่มขึ้น 80.2% YoY จากการขยายสาขาเฉลี่ยกว่า 1.3 สาขาต่อวันไปยังสถานีบริการน้ำมันและภายนอกสถานีบริการน้ำมันที่มีศักยภาพสำหรับแบรนด์ “กาแฟพันธุ์ไทย” และ “Autobacs” เกิดจากพลังของฐานลูกค้าที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วของสมาชิก Max Card และ Max Card Plus โดยสมาชิก Max Card Plus มีการบริโภคกาแฟมากกว่าลูกค้าทั่วไป 7 เท่าต่อเดือน อีกทั้งซื้อกาแฟต่อครั้งมากกว่าลูกค้าทั่วไปถึง 2 เท่าอีกด้วย

สำหรับอนาคต PTG มุ่งสู่ Max World ซึ่งเป็นระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้เข้าถึงชีวิตที่ อยู่ดี มีสุข ผ่าน 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่

1. การยกระดับคุณภาพให้ลูกค้ามี “ชีวิตดี” ผ่านบัตร Max Card และ Max Card Plus
2. ขยายธุรกิจ Non-Oil ให้ “เติบโต” โดยตั้งเป้าสัดส่วนกำไรขั้นต้นในธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในปี 2571

ด้านนายรังสรรค์ พวงปราง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและความยั่งยืน บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ได้กล่าวเสริมว่า PTG ได้ขยายขอบเขตไปยังธุรกิจ Non-Oil อื่น ๆ อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการเชื่อมต่อกับ Max Card ให้ลูกค้าปลดล็อกสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะในด้าน บริการสินเชื่อที่ PTG ได้ร่วมมือกับ Paisan Capital เพื่อให้การสนับสนุนผู้ประกอบการขนส่ง เสริมศักยภาพในการเข้าถึงสินเชื่อด้วยเงื่อนไขที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการ อีกทั้ง PTG เป็นผู้นำในการนำ Subscription Model มาเชื่อมต่อกับสถานีชาร์จ EV Elex by EGAT PT ให้ลูกค้าปลดล็อกสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า พร้อมยกระดับสุขอนามัยของคนในชุมชนผ่านธุรกิจบริหารจัดการขยะและ

3. PTG ได้ย่อ Max World มาอยู่ในมือลูกค้า ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me เพื่อเพิ่ม “ความสะดวกสบาย” ให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น ผ่านแพลตฟอร์มที่รวมสินค้า บริการ และสิทธิพิเศษไว้ในที่เดียว

นอกจากการบริหารธุรกิจให้เติบโต PTG ยังให้ความสำคัญกับการส่งมอบคุณค่าให้กับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการติดตั้ง Solar Roof ในสถานีบริการ, ค่ายอาสาทำจริงไม่ทิ้งกัน, การส่งเสริมพืชเศรษฐกิจและไม้ยืนต้นร่วมกับการปลูกกาแฟ และการฟื้นฟูป่าชายเลน รวมถึง การร่วมมือกับกรมการค้าภายใน รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรเพื่อนำมาแจกให้ลูกค้าสถานีบริการน้ำมัน ที่ยึดมั่นตามหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส โดยได้รับรอง CAC ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด “การเติบโตของธุรกิจต้องไปพร้อมกับสังคมและสิ่งแวดล้อม” ซึ่ง PTG ตระหนักดีว่าภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบโดยตรงต่อทุกภาคส่วน โดยกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ได้ประกาศเป้าหมาย Net Zero ซึ่งกำลังเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมพลังงานผ่าน นโยบาย COP, ภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) และ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนให้กับธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง ด้วยเหตุนี้ PTG จึงให้คำมั่นในการก้าวสู่ Carbon Neutrality ภายในปี 2030 ผ่าน 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

– Reduce (10%) : ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการดำเนินงานภายในองค์กร (Drive Internal Decarbonization)

– Reforestation (30%) : ดูดซับและกักเก็บคาร์บอนผ่านการปลูกป่า การฟื้นฟู และการปกป้องระบบนิเวศชายฝั่ง (Forest Protection & Conservation Actions)

– Readjust Portfolio (60%) : ลงทุนใน ธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต ที่สามารถชดเชยคาร์บอนและเติบโตในระยะยาว (Deploy investments in a carbon offset portfolio)

ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ PTG ที่ไม่ได้มอง ESG เป็นเพียงมาตรฐาน แต่เป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ PTG เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมเชื่อมต่อทุกคนให้เข้าถึง ชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข” ในทุกช่วงของชีวิต ผ่าน Max Card และ Max Card Plus ซึ่งเป็นมากกว่าบัตรสะสมแต้ม แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างสมดุลระหว่างธุรกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม

สำหรับความคืบหน้าของ ออโต้แบคส์ ประเทศไทย (Autobacs Thailand) ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์ และศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรที่ได้มาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่นนั้น มีกำไรขั้นต้นเติบโต 70.9% ปัจจุบันเปิดให้บริการรวม 117 สาขาทั่วประเทศไทย โดยจุดเด่นที่ครองใจผู้บริโภค คือ ความครบครันในการการจัดหาผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐานระดับสากล ตอบโจทย์ลูกค้าด้วยราคาที่โปร่งใส พนักงานทุกคนได้ผ่านการอบรมและการทดสอบที่เข้มข้น พร้อมมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและเป็นมิตร รวมทั้งมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษ และส่วนลดเฉพาะสำหรับสมาชิกบัตร Max Card, Loyalty program และ Value for money ผ่านระบบสมาชิกบัตร จะทำให้เราแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น  นอกจากนี้เรายังมีการวางตำแหน่งพื้นที่เชิงกลยุทธ์ของสาขาของออโต้แบคส์ที่อยู่ภายใน หรือในรัศมีโดยรอบของสถานีบริการน้ำมันพีทีและร้าน Max Mart เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด พร้อมผนวกโปรแกรมส่งเสริมการขายที่ได้สิทธิประโยชนอย่างต่อเนื่องในการสะสมคะแนน PT Max Card และ PT Max Card Plus เข้ามากระตุ้นการมีส่วนร่วมและการซื้อซ้ำของลูกค้า พร้อมทั้งดำเนินควบรวมการบริหารงานเกี่ยวเนื่องในระบบงานต่าง ๆ อาทิ การบริการกลยุทธ์สื่อสาร การให้การสนับสนุนทางการเงินและโลจิสติกส์ เพื่อเกิดการบูรณาการณ์ตลอดทั้งองคาพยพภายใต้ระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง ของที่พีทีจีเชื่อมั่น  โดยวางเป้าหมายให้ ออโต้แบคส์ ก้าวสู่การเป็น Top of Mind ของศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร ที่สามารถสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าอย่างยั่งยืน

เรื่อง : พุทธิ  ผาสุข

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th