Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
World Movement
Home›Auto News›World Movement›Nissan ปรับโครงสร้างการผลิตใหม่ เตรียมปิดโรงงานบางประเทศ ยกไทยเป็นฐานการผลิตของอาเซียน

Nissan ปรับโครงสร้างการผลิตใหม่ เตรียมปิดโรงงานบางประเทศ ยกไทยเป็นฐานการผลิตของอาเซียน

By นันทพงศ์ ภักดีบุตร
May 29, 2020
2722
0
Share:

Nissan ได้ประการแผนการปรับโครงสร้างการผลิตใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาไม่ใช่ข่าวดีสำหรับบางภูมิภาค เพราะผลที่ตามมาคือการปิดโรงงานผลิตซึ่งมีทั้งในยุโรปและเอเชียไม่ไกลจากเมืองไทย พร้อมยกไทยเป็นฐานการผลิตในภูมิภาค

แผนการปรับโครงสร้างที่ Nissan ได้ประกาศออกมาโดยมีกรอบเวลา 4 ปีได้นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างการปิดโรงงานผลิตในเมืองบาร์เซโลนาประเทศสเปนตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2020 นี้หลังจากที่มีการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1983 และปัจจุบันมีพนักงานประมาณ 2,400 คน รวมทั้งอีก 600 คนในการผลิตที่เกี่ยวข้อง โดยโรงงานในบาร์เซโลนาของ Nissan เป็นฐานการผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ซึ่งมีทั้งรถปิกอัพ Navara และรถแวนไฟฟ้า e-NV200 ซึ่งสำหรับรถปิกอัพดูเหมือนว่าทาง Nissan จะย้ายไปผลิตในแอฟริกาใต้แทน ในขณะที่รถแวนไฟฟ้าอาจมีการผลิตที่โรงงานของ Renault ในเมือง Maubeuge ฝรั่งเศส

การปิดโรงงานที่บาร์เซโลนาเป็นเพียงหนึ่งในการตัดสินใจตามแผนงาน 4 ปีที่ทาง Nissan ตั้งเป้าที่จะ “สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน มีการเงินที่มั่นคง และทำกำไรได้ภายในสิ้นปีธุรกิจ 2023” นอกจากนี้ทางผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นรายนี้ยังแถลงเพิ่มว่า จะมีการกระทำอย่างเต็มที่เพื่อเปลี่ยนธุรกิจของตนโดยการปรับปรุงการทำงานที่ไม่เกิดกำไรและส่วนที่เกินความจำเป็นไปพร้อมกับการสร้างโครงสร้างใหม่ นอกจากนี้บริษัทจะทำการลดต้นทุนคงที่โดยการทำให้มีศักยภาพการผลิต รุ่นรถยนต์ทั่วโลก และค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ Nissan จะให้ความสำคัญและลงทุนในส่วนธุรกิจที่คาดว่าจะช่วยให้มีการฟื้นตัวและมีการเติบโตอย่างยั่งยืน

เป้าหมายในการปรับโครงสร้างของ Nissan คือทำให้เกิดกำไร 5 เปอร์เซ็นต์ และมีส่วนแบ่งตลาดโลกที่ยั่งยืน 6 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปี 2023 โดยแผนงานจะเน้นไปที่ 2 กลยุทธ์คือ ความสมเหตุสมผลและเน้นไปที่ตลาดหลักและผลิตภัณฑ์หลักก่อน

นอกเหนือไปจากการปิดโรงงานที่บาร์เซโลนาแล้ว มาตรการสมเหตุสมผลของ Nissan ยังรวมไปถึงการลดกำลังการผลิตลง 20 เปอร์เซ็นต์เหลือจำนวน 5.4 ล้านคันต่อปี ลดรุ่นรถในตลาดโลกลง 20 เปอร์เซ็นต์จาก 69 โมเดลเหลือ 55 โมเดล รวมไปถึงมีการรวมผลิตภัณฑ์ในอเมริกาเหนือให้เป็นผลิตภัณฑ์หลัก

เป้าหมายอื่นในการปรับโครงสร้างของ Nissan คือการลดค้นทุนคงที่ลงประมาณ 2,780 ล้านดอลล่าร์ ด้วยการปิดโรงงานในอินโดนีเซียแล้วให้ความสำคัญกับโรงงานในไทยด้วยการเป็นฐานการผลิตเดียวในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งจะมีการแบ่งปันทรัพยากรร่วมกับกลุ่มพันธมิตร Alliance ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ รุ่นรถ และเทคโนโลยี

ในด้านผลิตภัณฑ์ Nissan จะเน้นรุ่นรถในเซ็กเม้นต์หลักของตลาดโลก ซึ่งรวมไปถึงการเพิ่มรถ C และ D เซ็กเม้นต์ รถไฟฟ้า และรถสปอร์ต โดยมีแผนที่จะเปิดตัวรถจำนวน 12 รุ่นภายใน 18 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้จะมีการขยายรถไฟฟ้าและรถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งรวมถึง e-Power ให้มีการขายรถใช้ไฟฟ้ามากกว่า 1 ล้านคันต่อปีภายในสิ้นปี 2023 ในขณะที่ในบ้านตนเองที่ญี่ปุ่น Nissan จะเปิดตัวรถไฟฟ้ามากกว่า 2 รุ่น และรถ e-Power มากกว่า 4 รุ่น เพื่อเพิ่มอัตราส่วนการขายรถใช้ไฟฟ้าให้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์

สิ่งสุดท้ายในแถลงการคือ Nissan จะมีการใส่ระบบช่วยขับ ProPilot ในรถมากกว่า 20 รุ่นใน 20 ตลาด และภายในสิ้นปี 2023 ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ต้องการให้มีรถที่ติดตั้งระบบช่วยขับที่ล้ำหน้าของตนมารถมากกว่า 1.5 ล้านคันในแต่ละปี

 

 

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

TagsGeneral - NewsNissanpropilotรถไฟฟ้าระบบช่วยขับ
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • BYD เปิดตัว SEAL 5 DM-i SUPER HYBRID คอมแพ็กต์ซีดานขุมกำลัง PHEV ราคาพิเศษ 6.99 แสนบาทในรุ่น Premuim
  • ไทยฮอนด้า เปิดตัว 2 รุ่นใหม่ All New Honda Wave125 และ New Honda Forza 350 Special Edition x Öhlins
  • Mitsubishi Outlander Trail Edition เสริมสไตล์แกร่งก่อนมีรุ่นปี 2026
  • Xpeng P7 รถสปอร์ตซีดานไฟฟ้าเริ่มลุยตลาดหลังเผยแมเดือนพฤษภาคม
  • Bestune Pony รถไฟฟ้าขนาดเล็กอัปเกรดเพิ่มแรงม้าและระยะเดินทางทาง

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram