ในงาน Nio Day ประจำปี 2022 ของ Nio ผู้ผลิตรถไฟฟ้าพรีเมียมจากจีนได้มีการเปิดตัวรถใหม่ออกมา 2 รุ่น คือ รถเอสยูวีคูเป้รุ่นใหม่ Noi EC7 และ Noi ES8 NT2 รุ่นใหม่ของ ES8 ซึ่งเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าเรือธงของ Nio ที่เปิดตัวออกมาตั้งแต่ปี 2018 โดยรถเอสยูวีไฟฟ้าเรือธงรุ่นใหม่อยู่บนแพลตฟอร์ม NT2.0 ใหม่ของ Nio

มิติตัวถังของ Nio ES8 NT2 มีความยาว 5,099 มม. กว้าง 1,989 มม. สูง 1,750 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 3,070 มม. จะเหมือนกับรถรุ่นอื่นของ Nio ที่อยู่บนแพลตฟอร์ม NT2.0 ที่มาพร้อมกับเรดาร์บนหลังคารถแลtมีกล้องความละเอียดสูงด้านข้างรถสำหรับการทำงาน Nio Aquila Super Sensing ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในระบบขับขี่อัตโนมัติ Nio Autonomous Driving หรือ NAD

นอกจากอยู่บนแพลคฟอร์มใหม่ และมีอุปกรณ์เพิ่มขึ้นสำหรับระบบความปลอดภัยแล้ว ยังมีความยาว ความกว้าง รวมทั้งระยะฐานล้อของรถมากกว่ารุ่นก่อนหน้า พร้อมกับมีดีไซน์ใหม่ที่ด้านหน้ารถในบริเวณไฟหน้าและกันชนหน้า และด้านหลังมาพร้อมกับแถบไฟท้ายเรียวยาวตามรถรุ่นอื่นๆ ที่อยู่บนแพลตฟอร์ม NT2.0

แม้รถเอสยูวีไฟฟ้าเรือธงรุ่นใหม่มีน้ำหนักตัว 2,560 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้า 100 กิโลกรัม แต่ก็ชดเชยกำลังขับเคลื่อนที่มากขึ้นจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ของรถ โดยมอเตอร์ที่ด้านหน้ามีกำลัง 241 แรงม้า มอเตอร์ที่ด้านหลังมีกำลัง 402 แรงม้า มีกำลังขับเคลื่อนรวม 644 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 850 นิวตัน-เมตร พร้อมขับเคลื่อนไปด้วยล้อทั้ง 4 ของรถ และสามารถทำความเร็วสูงสถดได้ 200 กม./ชม.  ส่วนการทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.1 วินาที ในขณะที่แบตเตอรีที่มีพร้อมกับรถมีให้เลือกระหว่าง 75 kWh ให้ระยะการเดินทาง 456 กิโลเมตร และ 100 kWh ให้ระยะการเดินทาง 605 กิโลเมตร

ห้องโดยสารของ ES8 NT2 ซึ่งเป็นแบบเบาะ 3 แถว 6 ที่นั่ง มาพร้อมกับจอแสดงข้อมูลผู้ขับความละเอียดสูงขนาด 10.2 นิ้ว รวมทั้งยังมีการแสดงข้อมูล Head-up Display ส่วนจอตรงกลางมีขนาด 12.8 นิ้ว รวมทั้งยังมีจอขนาด 6.6 นิ้ว ที่ด้านหลังสำหรับควบคุมการทำงานต่างๆ ขณะที่ระบบเสียงในห้องโดยสารเป็นระบบ Dolby Atmos กำลังเสียง 2,230 วัตต์ พร้อมลำโพง 23 ตัว รวมทั้งยังมีไว-ไฟในรถ รองรับการเชื่อมต่อ 5G และมีฟังก์ชันกุญแจดิจิตอลให้ใช้

ตัวรถเต็มไปด้วยการทำงานเพื่อความปลอดภัย และระบบช่วยผู้ขับอย่างระบบเตือนก่อนการชนที่ด้านหน้า ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบตรวจจับมุมบอดของรถ ระบบตรวขขับมุมบอดเมื่อเปลี่ยนเลน ระบบเตือนเมื่อกำลังมีรถผ่านด้านข้างขณะกำลังเปิดประตู ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด ระบบเตือนเมื่อกำลังมีรถผ่านด้านหน้า ระบบช่วยให้รถอยู่ในเลน ระบบหยุดการทำงานของรถฉุกเฉิน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผัน รวมทั้งระบบอื่นๆ

สำหรับราคา เริ่มต้นที่ 528,000 หยวน หรือประมาณ 2,626,000 บาท โดยจะเริ่มการส่งมอบรถในเดือนมิถุนายน 2023

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th