Mini ทำการเพิ่มประสิทธิภาพการกรองไอเสียให้กับรุ่นแรงทั้ง Mini John Cooper Works และ Mini John Cooper Works Convertible สำหรับจำหน่ายในยุโรปด้วยการติดตั้งกรองไอเสียที่มีความละเอียดจนทำให้การปล่อยมลพิษอยู่ในข้อกำหนด Euro 6d TEMP โดยที่ไม่ส่งผลต่อสมรรถนะและความเร้าใจจากเสียงเครื่องยนต์

ด้วยการติดตั้งกรองไอเสียที่มีความละเอียดในระบบระบายไอเสียทำให้ตัวถังแฮทช์แบ็กสองประตูของ Mini John Cooper Work มีการปล่อยมลพิษ 158-157 กรัม/กิโลเมตรในรุ่นเกียร์แมนนวล 6 สปีด และ 142-140 กรัม/กิโลเมตรในรุ่นเกียร์ Steptronic 8 สปีด ขณะที่ตัวถังเปิดประทุนมีการปล่อยมลพิษ 162-161 กรัม/กิโลเมตร กับเกียร์แมนนวล และ 148-145 กรัม/กิโลเมตรในรุ่นเกียร์ Steptronic 8 สปีด โดย Mini ยืนยันว่าการปล่อยมลพิษที่น้อยลงไม่ส่งผลต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบคู่ 231 แรงม้า ซึ่งยังคงมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 6.3 วินาทีใน Mini John Cooper Works และ 6.6 วินาทีใน Mini John Cooper Works Convertible ที่ใช้เกียร์แมนนวล รวมทั้งยังคงมาพร้อมกับเสียงของเครื่องยนต์ที่มีความเร้าใจเช่นเดิม

โดย Mini  Jonhn Cooper Works และ Mini John Cooper Works Convertible ซึ่งติดกรองไอเสียที่มีความละอียดมากขึ้นจะเป็นรุ่นปี 2019 และเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนมีนาคมปีหน้าจะมาพร้อมกับล้ออัลลอยน้ำหนักเบา John Cooper Works ขนาด 17 นิ้ว, ระบบเบรกสปอร์ต, ชุดแอโรไดนามิก John Cooper Works และเบาะสปอร์ต John Cooper Works เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมไปถึงไฟหน้า LED และไฟท้ายที่มีธง Union Jack อยู่ภายใน โดยที่มีทางเลือกในการแต่งภายในใหม่อย่างไฟ Mini Yours Interior Style Piano Black ซึ่งประกอบด้วยไฟ Back-lit บริเวณเบาะผู้โดยสารด้านหน้า, กรอบสีดำมัน Piano Black ทั้งที่ไฟหน้าและกระจังหน้า รวมไปถึงสามารถเพิ่มออฟชั่นอย่างระบบชาร์จไร้สายและโปรเจ็กเตอร์ฉายไฟเป็นโลโก้ Mini ที่ประตูฝั่งผู้ขับได้

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th