หลังจากมีทั้งภาพหลุดรวมทั้งข้อมูลจากผู้ผลิตโดยตรงของ S-Class ถูกเผยแพร่ออกมาหลายครั้ง ในที่สุดก็ถึงเวลาเฉยโฉมใหม่อย่างเป็นทางการของรถซีดานหรูรุ่นนี้ซึ่งมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ 7 แล้ว ซึ่งแน่นอนว่ารถซีดานเรือธงรุ่นใหม่จากค่ายดาว 3 แฉกมาพร้อมกับการขยายทุกมิติของตัวรถขึ้นจากรุ่นเดิมพร้อมกับอัดมาด้วยเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อเสริมความหรูของรถ กับ 2 ทางเลือกของเครื่องยนต์ในช่วงแรก

ในด้านการออกแบบของ Mercedes-Benz S-Class ใหม่อาจไม่สร้างความตื่นตานักเพราะแม้จะมาพร้อมกับไฟหน้า กระจังหน้า และไฟท้ายใหม่ที่ถูกออกแบบใหม่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน แต่ก็มาในสไตล์เรียบลักษณะเพลย์เซฟ อย่างไรก็ตามสิ่งใหม่ในรถรุ่นเรือธงซึ่งอาจสร้างอารมณ์ใหม่ๆ ได้ และอาจปรากฏในรถรุ่นใหม่อื่นๆ ของ Mercedes-Benz ต่อไปก็คือที่เปิดประตูรถในลักษณะ Pop Out แทนมือจับเปิดประตูแบบเดิม

ด้านมิติของ S-Class ใหม่ที่ถูกขยายเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าทุกด้านมีความยาว 5,179 มม. กว้าง 1,954 มม. สูง 1,503 มม. ส่วนระยะฐานล้อมีความยาว 3,106 มม. ในรุ่นฐานล้อปกติ ซึ่งหมายถึงการมีความยาวเพิ่มขึ้น 54 มม. กว้างขึ้น 55 มม. สูงขึ้น 10 มม. และมีความยาวเพิ่มขึ้นในส่วนของฐานล้อ 71 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ในขณะที่รุ่นฐานล้อยาวซึ่งตัวรถมีความยาว 5,289 มม. และระยะฐานล้อยาว 3,216 มม. มีความยาวเพิ่มขึ้นของตัวรถ 34 มม. และมียาวขึ้น 51 มม. ของฐานล้อเมื่อเทียบกับรุ่นฐานล้อยาวก่อนหน้า

จากมิติที่เพิ่มขึ้นทุกส่วนของ S-Class ใหม่ ส่งผลให้มีพื้นที่สำหรับผู้โดยสารที่เบาะหลังเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนศรีษะ ส่วนขา ส่วนไหล่ และส่วนข้อศอก ในขณะที่พื้นที่ของผู้โดยสารที่เบาะหน้าจะเพิ่มขึ้นในส่วนศรีษะและส่วนข้อศอกเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยนอกจากพื้นที่ห้องโดยสารจะเพิ่มขึ้นแล้วรถซีดานหรูรุ่นใหม่ยังมาพร้อมกับพื้นที่เก็บของความจุ 550 ลิตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 20 ลิตรด้วย

ภายในห้องโดยสารทาง Mercedes-Benz ระบุว่าออกมาให้มีลักษณะของเล้าจ์ที่มีความไฮเทค จึงหมายถึงการมีทั้งความหรูพร้อมกับเทคโนโลยีต่างๆ อย่างระบบ Infotainment MBUX เจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่มาพร้อมกับทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่ อย่างจอตรงกลางขนาด 12.8 นิ้วแบบทัชสกรีนพร้อมการทำงานตอบสนองต่อการสัมผัส ระบบผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียงที่รองรับการทำงานกับทุกเบาะ จอแสดงข้อมูลผู้ขับแบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้วที่มีระบบ 3D เป็นออฟชั่นให้เลือกจากการใช้กล้อง 2 ตัวสำหรับตรวจตำแหน่งดวงตาผู้ขับเพื่อสร้างการแสดงผลแบบ 3 มิติ นอกจากนี้ระบบ MBUX ใน S-Class ยังรองรับการทำงานร่วมกันถึง 5 จอ ทั้งจอแสดงข้อมูลผู้ขับ จอระบบ Infotainment ตรงกลาง รวมทั้ง 2 จอขนาด 11.6 นิ้วที่ด้านหลังเบาะหน้า และแท็บแล็ต MBUX ด้านหลัง

ด้านระบบไฟใน S-Class ใหม่ตอนนี้มีถึง 250 ไฟ LED นอกจากการสร้างบรรยากาศที่ดีขณะเดินทางแล้ว ตอนนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับระบบช่วยผู้ขับเพื่อการเตือนด้วยแสงไฟได้ อย่างเมื่อมีการเตือนจากการทำงานตรวจจับมุมบอดระบบ ไฟ Ambient Light จะร่วมทำงานด้วยการแสดงแสงไฟสีแดงออกมาต่อเนื่อง ในส่วนของความเพลิดเพลินขณะเดินทางมีทางเลือกสูงสุดด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง 4D พร้อมลำโพง 31 ตัวจาก Burmester และยังให้ความสบายด้วยการทำงานนวดไฟฟ้าที่เบาะซึ่งมาพร้อมกับ 10 โปรแกรมนวดให้เลือก โดยที่เบาะหน้าของรถมีการใช้มอเตอร์สูงสุดถึง 19 ตัวทั้งเพื่อการปรับทิศทาง ปรับนวด ระบายอากาศ รวมทั้งปรับหนุนเบาะ

เครื่องยนต์ที่มาพร้อมกับ S-Class ใหม่ในช่วงแรกมี 2 ทางเลือกโดยที่เป็นเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตรทั้งเบนซินและดีเซล แต่มีกำลังให้เลือก 4 ระดับ และมีระบบ EQ Boost ช่วยเสริมกำลังขับเคลื่อน 22 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตรในเครื่องยนต์เบนซิน โดยรุ่น S 450 มีกำลัง 367 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร S 500 มีกำลัง 435 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร S 350d มีกำลัง 286 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตร และ S 400d มีกำลัง 330 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร ทั้งหมดใช้ระบบส่งกำลัง 9G-Tronic เพื่อนำกำลังจากเครื่องยนต์สู่ระบบขับเคลื่อน 4  ล้อ 4Matic ยกเว้น S 350d ที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลังเป็นอีกทางเลือก

ในส่วนของระบบช่วงล่างทางค่ายดาว 3 แฉกระบุว่ารถซีดานฟูลไซส์รุ่นใหม่ของตนมีระบบ E-Active Body Control Suspension เป็นทางเลือกที่มาพร้อมกับระบบ Airmatic และการปรับกันสะเทือนต่อเนื่องเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมไปถึงมีระบบบังคับเลี้ยวที่ล้อหลังใหม่ทำให้วงเลี้ยวลดลง 2 เมตรจากรุ่นก่อนหน้า

ทาง Mercedes-Benz ยังไม่มีการระบุเรื่องราคาของ S-Class ใหม่ออกมา แต่จะเริ่มรับจองตั้งแต่กลางเดือนกันยายนเป็นต้นไปในเยอรมนี โดยจะมีรถส่งไปตามดีลเลอร์ในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th