แม้ Mercedes-Benz จะมี GL รุ่นต่างๆ ที่มีหลากหลายขนาดตัวถังในความอเนกประสงค์แบบรถเอสยูวี แต่เมื่อพูดถึงรถเอสยูวีสำหรับการลุยเส้นทางทุรกันดารจริงๆ หลายคนมักคิดไปถึง G-Class รถเอสยูสีทรงกล่องสีเหลี่ยมที่ดูแข็งแกร่งสำหรับการลุยที่มีจุดเริ่มต้นมาจากรุ่น G-Wagon ตั้งแต่ปี 1979 ก่อนที่จะมาเริ่มต้นเจนเนอเรชั่นแรกของรถเอสยูวีขนาดกลาง G-Class ในปี 1990 และเมื่อทางค่ายดาวสามแฉกเปิดตัวเจนเนอเรชั่นที่สองของ G-Class ออกมาในงาน North American International Suto Show  หรือดีทรอยต์มอเตอร์โชว์ 2018 แม้จะยังคงเอกลักษณ์รูปทรงกล่องของรถเอสยูวีสำหรับการลุยของตนเองไว้ แต่แฟนๆ ที่รอเอสยูวีรุ่นใหม่นี้อาจรู้สึกขัดบ้างที่ทาง Mercedes-Benz มีแค่สองทางเลือกของเครื่องยนต์เบนซินคือ G500 กับเครื่องยนต์ 4,000 ซีซี เทอร์โบคู่ 416 แรงม้า และ G 63 AMG ที่ถูกเพิ่มกำลังเป็น 577 แรงม้า อย่างไรก็ตามล่าสุดเกือบหนึ่งปีของการเปิดตัวเจนเนอเรชั่นที่ 2  Mercedes-Benz ได้เพิ่มทางเลือกด้วยเครื่องยนต์ดีเซลที่มีกำลังน้อยลงกับ G 350 d

เครื่องยนต์ดีเซลที่อยู่ใน Mercedes-Benz G 350 d คือรุ่น OM 656 เป็นเครื่อง 6 สูบ 3,000 ซีซี 286 แรงม้าที่ 3,400-4,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดถึง 600 นิวตัน-เมตรตั้งแต่ 1,200-3,200 รอบ/นาที โดยใช้เวลา 7.4 วินาทีเพื่อเร่งจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วสูงสุดได้ 199 กม./ชม. ส่วนการส่งกำลังสู่ล้อขับเคลื่อนทั้ง 4 เป็นหน้าที่ของเกียร์ 9G-Tronic  ซึ่ง G 350 d จะมีการส่งแรงบิดสู่ล้อหน้า 40 เปอร์เซ็นต์และอีก 60 เปอร์เซ็นต์สู่ล้อหลัง Mercedes-Benz ได้มีการใช้ส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์รวมทั้งกรองไอเสียที่มีความละเอียดจนทำให้ G 350 d อยู่ในกำหนดการปล่อยมลพิษ Euro 6d TEMP ด้วยตัวเลขการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 259-252 กรัม/กิโลเมตร

G 350 d ให้ความมั่นใจในการการลุยเส้นทางทุรกันดารด้วยความแข็งแกร่งของดับเบิลวิชโบนที่ด้านหน้า และใช้ Trailing Arm 4 ตัวที่แต่ละด้านของเพลาหลัง รวมไปถึงมีความสูงจากพื้น 241 มม. ที่เพลาหลัง

แม้จะพร้อมลุยแต่ทางค่ายดาวสามแฉกยังเพิ่มความสบายในขณะเดินทางด้วย G 350 d จากการลดทั่งเสียงรบกวนและความสั่นสะเทือนที่เข้าสู่ห้องโดยสารจากทั้งเครื่องยนต์และระบบระบายไปเสียให้น้อยลงด้วยการติดตั้ง Engine Mount Active Control ที่ปรับตามความเร็วของรถ รวมไปถึงยังคงความหรูในการลุยบนเส้นทางออฟโรดด้วยเหาะหนังและใช้หนัง ARTICO ตกแต่งภายในห้องโดยสารเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยที่มีออฟชั่นมากมายให้ผู้ซื้อเลือกสำหรับภายใน สำหรับการส่งมอบ Mercedes-Benz G 350 d ในยุโรปเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฏาคมปีหน้า ขณะที่เปิดให้จองตั้งแต่เดือนมกราคม

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th