เดือนมีนาคมที่ผ่านมาทาง Mercedes-Benz ทำได้การปรับโฉมครั้งใหญ่ให้กับรถขนาดกลาง E-Class แต่ยังจำกัดอยู่กับตัวถังซีดานและแวกอนเท่านั้น จนกระทั่งล่าสุดการปรับโฉมของ E-Class จึงได้ขยายมาสู่ตัวถังคูเป้และเปิดประทุนหรือ cabriolet แล้ว รวมไปถึงยังมีรุ่นแรง AMG มาเป็นทางเลือก

ทั้ง Mercedes-Benz E-Class คูเป้และเปิดประทุนหรือ cabriolet ไม่ต่างกับซีดานและแวกอนที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ที่มีความเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนปรับโฉมอย่างชัดเจนในส่วนของรูปทรงกระจังหน้าและไฟหน้าของรถที่ดูเฉียบคมขึ้น รวมไปถึงบริเวณกระจังหน้าที่ดูตั้งตรงขึ้น แต่นอกจากการปรับโฉมที่ภายนอกแล้วยังมีการเพิ่มสีใหม่อีก 4 สีคือ สีเงิน Cirrus Silver Metallic, สีเทา Graphite Grey Metallic, สีเงิน Mojave Silver Metallic และสีแดง Destino Patagonia Red Metallic ด้วย รวมไปถึงมีการขยายทางเลือกของล้อมากขึ้นโดยที่มีล้อแอโรไดนามิกซึ่งทางผู้ผลิตอ้างว่าช่วยให้ประหยัดน้ำมันขึ้นเป็นทางเลือก

นอกจาก E-Class คูเป้และเปิดประทุนใหม่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีภายในรถที่ดีขึ้นเหมือนกับตัวถังซีดานและแวกอนที่เปิดตัวก่อนหน้าทั้งระบบปฏิบัติการ MBUX ล่าสุด พร้อมด้วยจอขนาด 10.25 นิ้วและ 12.3 นิ้วที่ยาวต่อเนื่องกันแล้ว ตัวถังคูเป้และเปิดประทุนยังมาพร้อมกับพวงมาลัยอัจฉริยะที่มีการตรวจจับการละมือจากพวงมาลัยซึ่งใช้เซ็นเซอร์ 2 โซนในขอบพวงมาลัยสำหรับตรวจว่ามือของผู้ขับอยู่บนพวงมาลัยหรือไม่ เพื่อให้ระบบผู้ช่วยรู้โดยอัตโนมัติว่าใครกำลังควบคุมรถอยู่ รวมไปถึงปรับการปรับควบคุมแบบทัชสกรีนให้ดีขึ้นทั้งการมองเห็นและการสัมผัส

อีกหนึ่งความล้ำของ E-Class คูเป้และเปิดประทุนใหม่คือการปรับเบาะผู้ขับแบบอแดปทีฟ ซึ่งผู้ขับสามารถใส่ความสูงของตนเองในหน้าจอหรือผ่านแอพพ์ เพื่อให้ระบบปรับเลื่อนตำแหน่งเบาะที่เหมาะสมให้ได้ จากนั้นผู้ขับก็เพียงแค่ปรับเบาะอย่างละเอียดอีกเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสมที่สุด

ที่ยุโรป Mercedes-Benz มีทางเลือกเครื่องยนต์ให้กับ E-Class คูเป้และเปิดประทุนทั้งดีเซลและเบนซิน โดยในส่วนของเครื่องยนต์ดีเซลมีทั้งครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร 194 แรงม้าและ 6 สูบ 3.0 ลิตร 340 แรงม้า ขณะที่เครื่องยนต์เบนซินมีเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรกับ 2 ระดับกำลังคือ 197 และ 258 แรงม้า และเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร 272 แรงม้าในรุ่นคูเป้ แต่มีกำลัง 367 แรงม้าในรุ่นเปิดประทุน

อย่างไรก็ตาม E-Class คูเป้ใหม่จะมีรุ่น E53 AMG เป็นรุ่นสมรรถนะสูงสุดกำลัง 429 แรงม้า แรงบิด 520 นิวตันเมตรจากเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร พร้อมความแตกต่างในด้านรูปลักษณ์จากรุ่นกำลังน้อยกว่าด้วยการใช้กระจังหน้า Panamericana ที่มี 12 ช่องแนวตั้งแทนกระจังหน้า Diamond-Style ขณะที่ด้านท้ายมาพร้อมกับสปอยเลอร์ปลายฝากระโปรง ใช้ปลายท่อไอเสีย 4 ท่อ และใช้ล้อขนาด 19 นิ้ว

ในส่วนของราคายังไม่มีการระบุออกมา โดยทาง Mercedes-Benz บอกว่าจะเปิดเผยตอนที่ใกล้จะขายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th