Mercedes-Benz เปิดตัว CLA Saloon รถ 4 ประตูคูเป้รุ่นใหม่เจเนเรชันที่ 3 ออกมาเมื่อเดือนมีนาคม 2025 ที่ผ่านมา ตอนนี้รถตระกูลนี้ถูกขยายทางเลือกมากขึ้นด้วยCLA Shooting Brake with EQ Technology ที่มีทั้งความสปอร์ตและความอเนกประสงค์ในสไตล์รถแวกอน รวมทั้งยังเป็นครั้งแรกที่รถตัวถังรูปแบบนี้ของค่ายดาวสามแฉกใช้เฉพาะไฟฟ้าขับเคลื่อน

Mercedes-Benz CLA Shooting Brake with EQ Technology ใหม่มีภายนอกเหมือนกับตัวถัง 4 ประตูคูเป้เจเนเรชันล่าสุดตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงเสา B-Pillar จึงหมายความว่ารถมากับดีไซน์ Shark Nose และแผงหน้าที่มีไฟ LED รูปดาว 142 ดวงที่ด้านหน้า และรถมาพร้อมกับแนวเส้นหลังคาที่ยาวไปถึงด้านหลังโดยที่ค่อยๆ ลาดเอียงลงตั้งแต่เสา B-Pillar โดยขนาดของรถมีความยาว 4,721 มม. กว้าง 1,855 มม. สูง 1,469 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,790 มม. ซึ่งหมายความว่ารถรุ่นใหม่มีความยาวมากขึ้น 35 มม. กว้างขึ้น 25 มม. สูงขึ้น 27 มม. และมีระยะฐานล้อยาวขึ้น 61 มม.

นอกจากนี้รถมาพร้อมกับหลังคากระจกพาโนรามิกที่ยาวต่อเนื่องจากขอบกระจกหน้าจนถึงด้านหลังที่มีสปอยเลอร์หลัง ซึ่งประกอบด้วยกระจกลามิเนตป้องกันความร้อนพร้อมสะท้อนแสงอินฟราเรด เพื่อลดความร้อนในห้องโดยสารช่วงฤดูร้อน โดยมีออปชันให้เลือกหลังคากระจกที่สามารถเปลี่ยนกระจกใสเป็นกระจกฝ้าเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ รวมทั้งมีไฟเรืองแสงตามไฟ Ambient Lighting ในห้องโดยสารและไฟรูปดาว 158 ดวงบนหลังคากระจกที่มองเห็นชัดเจนในที่มืด

การที่แนวเส้นหลังคาของรถยาวกว่าตัวถังซาลูนและค่อยๆ ลาดเอียงลงด้านหลัง จึงทำให้รถShooting Brakeมีพื้นที่ Headroom ของเบาะหลังมากกว่า 26 มม. ในขณะที่เบาะหน้าของรถก็มีพื้นที่ Headroom เพิ่มขึ้น 14 มม. และมีพื้นที่ Lrgroom เพิ่มขึ้น 11 มม. นอกจากนี้รถยังมาพร้อมกับความอเนกประสงค์ด้วยการแบ่งพับเบาะหลังได้ 40:20:40 ทำให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระเพิ่มได้ถึง 1,290 ลิตร รวมทั้งมีพื้นที่เก็บสัมภาระใต้ฝากระโปรงหน้าความจุ 101 ลิตร

ห้องโดยสารของรถมีความล้ำหน้าในสไตล์เดียวกับตัวถังซาลูน รวมทั้งมีจุดเด่นที่ความหรูหรา ความสปอร์ต มีคอนโซลกลางที่สูงซึ่งแบ่งเป็นสองระดับ ส่วนเบาะของรถหุ้มด้วยหนัง Artico และผ้า ขณะที่วัสดุที่ใช้แต่งห้องโดยสารมีทั้งพื้นผิว Anthracite Anodised อลูมิเนียมขัดเงา คาร์บอนไฟเบอร์ ไม้ และกระดาษ โดยมีจอ MBUX Superscreen ที่ประกอบด้วยจอแสดงข้อมูลการขับ 10.25 นิ้วและจอ Infotainment ขนาด 14 นิ้ว โดยมีออปชันจอยาวเต็มความกว้างของรถพร้อมจอขนาด 14 นิ้วเพื่อความบันเทิงด้านหน้าผู้โดยสารที่เบาะหน้าเป็นออปชัน

การขับเคลื่อนรถมีสองทางเลือกระหว่าง CLA250+ ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 200 kW หรือ 268 แรงม้า เดินทางได้ถึง 761 กิโลเมตร และ CLA350 4Matic ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 260 kW หรือ 348 แรงม้า เดินทางได้ถึง 730 กิโลเมตร โดยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและชุดเกียร์ 2 สปีดของรถถูกติดตั้งที่เพลาหลัง

แบตเตอรีของรถทั้งสองรุ่นมีความจุ 85 kWh รองรับการชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC 320 kW ซึ่งทำให้ CLA250+ สามารถเดินทางได้เพิ่ม 310 กิโลเมตรด้วยการชาร์จไฟ 10 นาที ขณะที่ CLA350 4Matic เดินทางได้เพิ่ม 300 กิโลเมตรด้วยการใช้เวลาชาร์จไฟเท่ากัน ขณะที่การชาร์จไฟด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC รองรับถึง 22 kW

รถสปอร์ตแวกอนไฟฟ้าจะเริ่มออกสู่ตลาดที่ยุโรปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2026 จึงยังไม่มีราคารถออกมาในตอนนี้ นอกจากนี้ทางค่ายดาวสามแฉกยังระบุว่าในปีหน้าจะมีรถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไมลด์ไฮบริดออกมาเป็นอีกทางเลือกด้วย

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th