Mercedes-Benz 300 SLR Unlenhaut Coupe ปี 1955 ได้กลายเป็นรถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดในโลกหลังจากที่ถูกประมูลไปในราคา 135 ล้านยูโร ทำลายสถิติรถยนต์ราคาแพงที่สุดในโลกคันก่อนหน้าที่เป็นของ Ferrari 250 GTO ปี 1962 ที่ถูกขายไปในราคา 48.4 ล้านปอนด์เมื่อปี 2018

ความพิเศษของ Mercedes-Benz 300 SLR Uhlemhaut Coupe ที่กลายเป็นรถยนต์ราคาแพงที่สุดในโลกคือการที่เป็นรถรุ่นพิเศษที่หายากเนื่องจากเป็นรถ 1 ใน 2 คันที่มีในโลก โดยเป็นรถมาจาก Mercedes-Benz Classic Collection โดยตรง ซึ่งทาง Mercedes-Benz ได้ร่วมมือกับ RM Sotherby ในการจัดประมูลโดยมีผู้ถูกเลือกให้เข้าร่วมการประมูลไม่กี่คนที่พิพิธภัณฑ์ Mercedes-Benz ซึ่งเป็นที่อยู่ของรถจนกระทั่งมีเจ้าของใหม่  ในขณะที่ผู้ชนะการประมูลเป็นนักสะสมที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนออกมาแต่มีผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์เก่าเป็นตัวแทน

Mercedes-Benz 300 SLR Uhlenhuat Coupe ถูกผลิตขึ้นมาโดยใช้พื้นฐานจากรถแข่ง W 196 R Grand Prix ซึ่งชนะรายการเวิร์ลด์แชมเปียนชิพหลายครั้งจากฝีมือการขับของ Manuel Fangio  และถูกออกแบบโดย Rudolf Uhlenhaut พร้อมกับมีชื่อของผู้ออกแบบอยู่ในชื่อรถ ขณะที่ขุมกำลังของรถเป็นเครื่องยนต์ 8 สูบ 3.0 ลิตร กำลัง 302 แรงม้า  ซึ่งทำให้รถใช้เวลา 6.9 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. และทำความเร็วได้สูงสุด 176.47 ไมล์/ชม.จากการทดสอบของ Autocar เมื่อปี 1956

Mercedes-Benz ผลิต 300 SLR ออกมาทั้งหมด 7  คัน แต่มีเพียง 2 คันที่มีค็อกพิตปิดสำหรับการแข่งเอนดูรานซ์ อย่างไรก็ตามรถที่ถูกทำออกมาทั้ง 2 คันก็ไม่เคยถูกใช้แข่งจริงๆ แต่ใช้เป็นรถสำหรับฝึกและการเดินทางส่วนตัวของ Uhlenhaut ไปยังการแข่งขัน โดยรถ 300 SLR ทั้ง 2 คันที่มีค็อกพิตปิดถูกตั้งชื่อเล่นว่า Red และ Blue ตามสีของภายในรถซึ่งทาง Mercedes-Benz เป็นผู้เก็บรถทั้ง 2 คันไว้ตั้งแต่ผลิตออกมา โดยคันที่เพิ่งถูกขายไปคือ Red มีตัวเลขแสดงการใช้งานรถ 6,045 กิโลเมตรบนหน้าปัด

สำหรับเงินที่ได้จากการประมูลทาง Mercedes-Benz จะนำไปใช้เพื่อการกุศลเพื่อเป็นทุนการศึกษาและการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมและการลดคาร์บอน