ปี 1986 Maserati เคยทำ Quattroporte รุ่นพิเศษในชื่อ Royale ออกมาจำนวน 51 คัน ล่าสุดผู้ผลิตรถยนต์รายนี้เอาชื่อรุ่นพิเศษนี้กลับมาใช้กับรถของตนอีกครั้ง แต่ไม่ได้จำกัดเพียงรุ่นเดียวเหมือนในอดีต เพราะเลือกได้ทั้ง Quattroporte, Levante หรือ Ghibli โดยที่มีการจำกัดการผลิตรวมทั้ง 3 รุ่น 100 คัน Maserati Royale Special Series

Maserati แต่งพิเศษ Royale ทั้ง 3 รุ่นจะมีทางเลือกของเครื่องยนต์เฉพาะ V6 เท่านั้น แต่เลือกได้ระหว่างเครื่องยนต์ดีเซล V6 3,000 ซีซี 275 แรงม้า หรือเครื่องยนต์เบนซิน V6 3,000 ซีซี 350 แรงม้า หรือ 430 แรงม้า ในขณะที่ภายนอกของรถมี 2 สีให้เลือกระหว่างสีฟ้า Blu Royale หรือสีเขียว Verde Royale ในขณะที่หากเป็น Levante Royale จะมาพร้อมกับล้ออัลลอย Anteo Anthracite ขนาด 21 นิ้ว ส่วน Quattroporte Royale และ Ghibli Royale จะใช้ล้อ Titanium Anthracite 21 นิ้ว โดยที่มีคาลิเปอร์เบรกสีเงินอยู่ด้านหลังทุกรุ่น

การแต่งพิเศษ Royale จะใช้พื้นฐานการแต่งจากเกรด GranLusso พร้อมกับมีออฟชั่นให้เลือกระหว่างใช้วัสดุ Zegna Pelletessuta ซึ่งเป็นหนังพิเสษผลิตด้วยมือจากส่วนที่เป็นแถบแคบๆ ของหนัง Nappa หรือใช้หนัง Pieno Fiore ทูโทน ส่วนการแต่งรายละเอียดอื่นๆ ในห้องโดยสารของ Royale จะเน้นการใช้ความมันวาวซึ่งจะแตกต่างในรถแต่ละรุ่นอย่าง Metal Net ใน Levante, Ebony กับ Ghibli และ Black Piano กับ Quattroporte แต่ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับป้ายระบุ One of 100 เพื่อบ่งบอกความพิเศษ รวมทั้งระบบเสียงพรีเมียม Bowers&Wilkins หลังคาซันรูฟ และกระจก Privacy Glass เหมือนกัน

นอกจากนี้ Maserati Royale Special Series ทั้ง 3 รุ่นจะถูกติดตั้งแพ็เกจ Cold Weather, Premium และ Driving Assistance Plus เป็นอุปกรณ์มาตรฐานร่วมกับระบบ Infotainment พร้อมกับ Apple CarPlay และ Android Auto รวมทั้งจอ Touch Control Plus ขนาด 8.4 นิ้ว

ทาง Maserati จะเริ่มการส่งมอบ Royale Special Series ได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยในอังกฤษ Ghibli มีราคาเริ่มต้น 78,000 ปอนด์ Levante เริ่มต้น 85,300 ปอนด์ และ Quattroporte เริ่มต้น 103,150 ปอนด์