Lynk & Co แบรนด์รถยนต์ในเครือ Geely ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง  Geely กับ Volvo ที่เริ่มส่งรถออกมาทำตลาดตั้งแต่ปี 2017 โดยมีรถออกมาหลากหลายรุ่นตั้งแต่รถเอสยูวีขนาดซับคอมแพกต์ไปจนถึงฟูลไซส์ รวมทั้งรถซีดานและแฮทช์แบ็ก เผยโฉมรถรุ่นใหม่ในชื่อ Z10 ออกมาซึ่งเป็นรถซีดานไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์

Lynk & Co Z10 ถูกวางตำแหน่งไว้เป็นรถซีดานไฟฟ้าระดับเรือธงของแบรนด์ โดยมีขนาดตัวรถยาว 5,028 มม. กว้าง 1,966 มม. สูง 1,468 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 3,005 มม. ในขณะที่การออกแบบรถนำสไตล์มาจากรถคอนเซ็ปต์ The Next Day โดยที่ยังคงมีไฟหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ด้วยการมีไฟ Daytime Running Light แบบแยกมาพร้อมกับรถ

รถซีดานไฟฟ้ายังเน้นความสปอร์ตด้วยประตูรถแบบไร้กรอบ และมือจับเปิดประตูที่ไม่ยื่นออกมานอกตัวรถ ขณะที่ด้านหลังมีไฟท้ายในลักษณะแถบไฟยาวเต็มความกว้างที่สะท้อนมาจากแถบไฟใต้ฝากระโปรงหน้าของรถ รวมทั้งมีสปอยเลอร์ไฟฟ้าด้านหลัง และรถมาพร้อมกับค่าสัมประสิทธิ์แรงต้าน 0.198 Cd โดยทางผู้ผลิตระบุว่าทีมงานออกแบบรถมีนักออกแบบกว่า 100 ชีวิตจากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก

รถซีดานไฟฟ้าถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA หรือ Sustainable Experience Architecture ที่ถูกใช้ในรถหลายๆ แบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับ Geely ทั้ง Lotus, Smart, Zeekr และ Volvo โดยมีแชสซีส์ที่แข็งแกร่งจากการที่ 84.65 เปอร์เซ็นต์ของโครงสร้างใช้เหล็กกล้าและอลูมินัมความแข็งแกร่งสูง ทำให้ทนต่อการบิดตัวได้ถึง 45,000 Nm/deg รวมทั้งใช้แอร์สปริง Dual-chamber และช่วงล่าง Electromagnetic Suspension เพื่อให้ความสบายในการเดินทาง

นอกจากนี้รถยังอยู่บนสถาปัตยกรรม 800V และใช้แบตเตอรีที่มีความแข็งแกร่งสูงมีโครงสร้างในลักษณะ Grid-like ปกป้องจากการชน ที่ถูกระบุว่าทนต่อแรงกระแทกได้ถึง 65 ตัน ส่วนความจุของแบตเตอรีถูกระบุว่าให้ระยะการเดินทางได้กว่า 800 กิโลเมตรเมื่อชาร์จไฟเต็ม และเดินทางได้เพิ่ม 573 กิโลเมตรด้วยการชาร์จไฟ 15 นาที ส่วนการขับเคลื่อนรถใช้มอเตอร์ดูอัลคาร์ไบด์คู่ที่ทำให้ใช้เวลา 3.5 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.

ห้องโดยสารของรถที่มาในสไตล์เรียบหรูมีจอทัชสกรีนตรงกลางแบบลอยตัวขนาด 15.4 นิ้ว การแสดงข้อมูล Head-up Display พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านด้านล่างแบน และคอนโซลกลางขนาดใหญ่ที่เรียบ นอกจากนี้ยังมีระบบ Fynme Auto ที่พัฒนาโดยร่วมมือกับ Meizu ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 8295 ในการทำงาน ขณะที่ทั้งเบาะหน้าและเบาะหลังของรถมีการทำงานปรับความอุ่น ระบายอากาศ และนวด ในส่วนระบบขับขี่อัตโนมัติของรถใช้ LiDAR และชิป Nvidia Orin-X ในการทำงาน พร้อมมีระบบนำทาง Navigation on Autopilot ที่ไม่ต้องใช้แผนที่ความละเอียดสูงทั้งบนไฮเวย์และในเมือง

ราคาของรถยังไม่มีออกมา แต่ถูกคาดการว่าจะเริ่มต้นที่ 200,000 หยวนหรือประมาณ 1 ล้านบาท

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th