Lexus ได้ทำการอัปเกรดให้กับ LC500, LC500h และ LC500 Convertible โดยจะเริ่มมีรถออกมาตามดีลเลอร์ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมมีรุ่นแต่งพิเศษชื่อ Pinnacle ให้กับทั้งLC500 และLC500 เปิดประทุน ที่ถูกระบุว่ามาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อให้การตอบสนองที่เฉียบคมขึ้น และมีความสบายเพิ่มขึ้น โดยที่มีการผลิตจำกัดตัวถังละ 100 คัน

อุปกรณ์ที่ถูกใส่เข้ามาใน Lexus LC500 Pinnacle เริ่มจากที่ภายนอกของรถด้วยการมีครีบเพิ่มเข้ามาที่มุมกันชนหน้า ส่วนด้านหลังมีปีกหลังคาร์บอนไฟเบอร์เรนฟอร์ซพลาสติกติดตายตัวเพื่อเสริมทั้งแอโรไดนามิกและสมรรถนะของรถ นอกจากนี้ช่วงล่างของรถยังมีเบ้ายึดเป็นอลูมิเนียมเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างมากขึ้น รวมทั้งรถยังใช้ระบบควบคุมการเลี้ยวที่ล้อหลังใหม่ที่ทำให้รถมีเสถียรภาพมากขึ้นและน้ำหนักเบาลง

ทางผู้ผลิตระบุว่านอกจากเป็นครั้งแรกที่รถตัวถังเปิดประทุนรุ่นนี้ถูกติดสปอยเลอร์หลังแบบติดตายตัวแล้ว ยังทำให้รถให้ความสบายมากขึ้นเมื่อเปิดหลังคาขับ มีสเถียรภาพมากขึ้นในทางตรง และให้กับควบคุมรถที่มีเสถียรภาพมากขึ้น นอกจากนี้ทั้งรถตัวถังคูเป้และเปิดประทุนยังถูกปรับตั้งช่วงล่างโดยเฉพาะที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะกับรถ

ภายนอกของรถถูกเพิ่มความสปอร์ตด้วยการแต่งโดยใช้สีดำ และมีล้ออลูมิเนียมฟอร์จสีดำมากับรถ ในขณะที่สีภายนอกของตัวถังคูเป้เป็นสีเงิน–เทาที่ถูกเรียกว่า Oborogin ซึ่งถูกผลิตโดยมีเงินและทองแดงผสมที่มาจากงานผลิตโลหะเก่าแก่ของญี่ปุ่น ส่วนรถรุ่นพิเศษเปิดประทุนมีสีเทา Neutrino Gray ที่มีพื้นฐานจากสี Solid แต่มีลักษณะเมทัลลิก อย่างไรก็ตามทั้งสองสีจะมีลักษณะพื้นผิวด้านเหมือนกัน พร้อมมีการเคลือบผิวด้วยการเคลือบผิวที่ถูกพัฒนาใหม่มีคุณสมบัติป้องกันฝุ่นและทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

ห้องโดยสารของรถตัวถังคู้เป้มีการแต่งด้วยสีดำและขาว ในขณะที่ตัวถังเปิดประทุนแต่งด้วยสีน้ำตาล Saddle Tan และสีขาว ในขณะที่หลังคาอ่อนของรถเป็นสีน้ำตาล Brown Silver โดยรถยังมาพร้อมกับการแต่งด้วยลายเฉพาะที่แผงแดชบอร์ด มีครอบบันได และและป้ายระบุรุ่นพิเศษ

แน่นอนว่าขุมพลังของรถยังคงเป็นเครื่องยนต์ V8 5.0 ลิตร 477 แรงม้า แรงบิด 540 นิวตัน–เมตรเหมือนรุ่นปกติ โดยใช้ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 10 สปีดเพื่อนำกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อหลังของรถ

รถรุ่นพิเศษทั้งสองตัวถังถูกตั้งราคาไว้ที่ 17,800,000 เยนหรือประมาณ 3,900,000 บาท โดยรถที่ถูกผลิตจำกัด 100 คันในแต่ละตัวถังจะถูกขายให้กับผู้ที่เป็นลูกค้าของ Lexus อยู่แล้วตัวถังละ 50 คัน ส่วนอีก 50 คันจะถูกขายให้กับลูกค้าทั่วไป