Lexus ES เจเนเรชันใหม่มาถึงยุคไร้เครื่องยนต์สันดาปล้วน

ในงานเซียงไฮ้ออโตที่จีนไม่ได้มีแต่ผู้ผลิตรถยนต์เจ้าถิ่นเท่านั้นที่นำรถยนต์รุ่นใหม่ไปเปิดตัว เพราะแบรนด์รถยนต์หรูจากญี่ปุ่นอย่าง Lexus ก็เข้าไปร่วมวงด้วยการเผยโฉมรถซีดานขนาดกลาง ES รุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 8 ออกมา โดยรถมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญเพราะมีเฉพาะระบบขับเคลื่อนไฮบริดและไฟฟ้า ไร้เครื่องยนต์สันดาปล้วนถูกเปิดตัวออกมา
Lexus ES ใหม่ซึ่งอยู่บนแพลตฟอร์ม TNGA GA-K ที่ถูกพัฒนาใหม่จะทำตลาดด้วยตัวรถที่มีความยาว 5,140 มม. กว้าง 1,920 มม. และสูง 1,555 มม. ในรุ่นไฮบริด ส่วนรถไฟฟ้ามีความสูง 1,560 มม. ทำให้เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้ารถรุ่นใหม่ยาวขึ้น 165 มม. กว้างขึ้น 55 มม. สูงขึ้น 110 มม.ในรุ่นไฮบริด ส่วนรุ่นไฟฟ้าสูงขึ้น 115 มม. ขณะที่ระยะฐานล้อของรถรุ่นใหม่มีความยาวมากขึ้น 80 มม. ด้วยความยาว 2,950 มม.
ทางผู้ผลิตรถยนต์หรูจากญี่ปุ่นระบุว่ารถซีดานขนาดกลางรุ่นใหม่ของตนมีการวิศกรรมที่ล้ำหน้าในส่วนสำคัญของรถ อย่างการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวถัง และการมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ เพื่อให้รถมีความสบาย การขับขี่ที่มีเสถียรภาพ และความเงียบ โดยรถมีรูปทรงที่แสดงถึงลักษณะซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถมากขึ้น รวมทั้งยังมีแอโรไดนามิก และสร้างความรู้สึกถึงสมรรถนะที่มีพลัง ขณะที่ห้องโดยสารของรถเน้นความสะอาด เรียบง่ายพร้อมให้ความรู้สึกถึงพื้นที่เปิดโล่งและมุมมองที่ยอดเยี่ยม
รถรุ่นใหม่ยังมากับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่าง Responsive Hidden Swift ที่รวมฟังชันการใช้งานต่างๆ ร่วมกับการออกแบบที่ประณีต และ Sensory Concierge ที่สร้างประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะผ่านการควบคุมแสง อากาศ และกลิ่น พร้อมมีเทคโนโลยีความปลอดภัยLexus Safety System+ ที่ล้ำหน้า
ระบบขับเคลื่อนไฮบริดของรถมีสองทางเลือกระหว่าง ES300h ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลัง 197 แรงม้าในรถขับเคลื่อนล้อหน้าและ 201 แรงม้าในรถที่ขับเคลื่อนทุกล้อ และ ES350h ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตรร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลัง 247 แรงม้าทั้งรถที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าและทุกล้อ
รถรุ่นใหม่ที่ใช้ไฟฟ้าล้วนในการขับเคลื่อนมีรุ่น ES350eขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 165 kW หรือ 224 แรงม้า และรุ่น ES500e ขับเคลื่อนทุกล้อใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่กำลังรวม 252 kW หรือ 342 แรงม้า อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายละเอียดด้านความจุแบตเตอรีออกมา แต่ทางผู้ผลิตระบุว่า ES350e เดินทางได้ 685 กิโลเมตรเมื่อชาร์จไฟเต็ม ส่วน ES500e เดินทางได้ 610 กิโลเมตร โดยรถทั้งสองรุ่นรองรับการชาร์จไฟ 150 kW ทำให้ชาร์จไฟจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์โดยใช้เวลา 30 นาทีที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส
หลังจากเผยโฉมที่จีนแล้ว รถจะถูกเปิดตัวที่ญี่ปุ่นในงานเจแปนโมบิลิตีโชว์เดือนตุลาคม 2025 นี้ ส่วนกำหนดการที่รถจะออกมาในตลาดภูมิภาคต่างๆ เริ่มตั้งแต่กลางปี 2026
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th