ในขณะที่ทางฝั่งสหรัฐอเมริกา Jeep ได้ทำ Gladiator Rubicon FarOut ออกมาเพื่อเป็นรุ่นบอกลาเครื่องยนต์ดีเซลในรถปิกอัพรุ่นนี้ ทางฝั่งยุโรปที่กำลังยุติการผลิตรถปิกอัพรุ่นนี้สเปกยุโรปในไตรมาสสุดท้ายของปี ก็มีการทำรุ่น FarOut Final Edition ออกมาเพื่อบอกลา

Jeep Gladiator FarOut Final Ediition สำหรับบอกลายุโรปแตกต่างจากรุ่นบอกลาเครื่องยนต์ดีเซลในสหรัฐอเมริกาด้วยการใช้เกรดแต่ง Overland เป็นพื้นฐานไม่ได้ใช้เกรดแต่ง Rubicon เกมือนในสหรัฐอเมริกา ส่วนความแตกต่างของรถปิกอัพรุ่นพิเศษจากรุ่นปกติอยู่ที่การใช้ล้ออลูมินัมกราไนต์คริสตัลขนาด 18 นิ้วสีดำเงา มีบันไดข้างทรง Tubular จาก Mopar ติดสติกเกอร์แต่งสีดำที่บริเวณซุ้มล้อ และมีป้ายระบุชื่อรุ่นพิเศษที่ฝาท้ายของรถ ในขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานภายนอกตามเกรด Overland ที่ใช้เป็นพื้นฐานมีไฟ LED หลังคาแข็ง 3 ชิ้นสีเดียวกับตัวรถ และพ่นกันรอยกระบะหลัง

ส่วนห้องโดยสารของรถปิกอัพรุ่นพิเศษบอกลายุโรปมีเบาะปรับความอุ่นได้หุ้มหนังพรีเมียม McKinley ระบบเสียง Alpine ลำโพง 9 ตัว รวมไปถึงมีระบบช่วยขับต่างๆ นอกจากนี้ยังมีออฟชันที่เก็บของใต้เบาะหลังที่สามารถล็อกอยู่กับที่ได้ กล้องออฟ-โรด ผ้าคลุมกระบะหลังม้วนเก็บได้ รวมทั้งหลังคาอ่อน และช่องต่อไฟ 400W inverter / 230V AC

ด้านขุมกำลังใต้ฝากระโปรงเป็นเครื่องยนต์ดีเซล V6 3.0 ลิตร กำลัง 264 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตัน-เมตร ใช้ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 8 สปีด TorqueFite นำกำลังจากเครื่องยนต์สู่ทุกล้อของรถ และมีระบบ 4×4 Select-Trac พร้อม Transfer Cae 2 สปีด

ทาง Jeep เริ่มขายรถปิกอัพรุ่นพิเศษบอกลายุโรปทันทีโดยตั้งราคาไว้ที่ 77,500 ยูโรในเยอรมนี การยุติการผลิต Gladiatorสเปกยุโรปหมายความรถปิกอัพรุ่นนี้ถูกทำตลาดอยู่ในยุโรปไม่ถึง 3 ปีหลังจากเปิดตัวที่ยุโรปครั้งแรกเมื่อปี 2021

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th