Isuzu D-Max EV รถกระบะพลังไฟฟ้า เริ่มผลิตในประเทศไทยแล้ว!!!-ประเดิมส่งขายในตลาดยุโรป

อีซูซุ ประกาศการเริ่มผลิตรถปิกอัพ ไฟฟ้า อีซูซุ ดีแมคซ์ New Isuzu D-Max EV รุ่นใหม่ในประเทศไทย เพื่อส่งออกขายในกลุ่มประเทศแถบยุโรป โดยมีระยะการขับสูงสุด 361 กม./ชาร์จ (มาตรฐานทดสอบ WLTP City Mode) ก่อนจะทำตลาดในแถบอาเซียน และประเทศไทย ในอนาคต
ชินสุเกะ มินามิ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทอีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น (สำนักงานใหญ่เมืองโยโกฮามะ จังหวัดคานางาวะ) ประกาศเริ่มผลิตรถปิกอัพไฟฟ้า อีซูซุ ดีแมคซ์ – New Isuzu D-Max EV ขนาด 1 ตัน รุ่นแรกของอีซูซุในประเทศไทย
• อีซูซุ คอนเฟิร์มรถกระบะไฟฟ้า D-Max BEV เปิดตัวขายปี 2025
รถปิกอัพไฟฟ้า ดีแมคซ์ EV คันแรกของอีซูซุ ได้จัดโชว์ต่อสาธารณชนในฐานะรถต้นแบบในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 (45th Bangkok International Motor Show) ที่ประเทศไทย เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว อีซูซุ ได้เริ่มการผลิตรถรุ่นพวงมาลัยซ้าย และส่งไปยังประเทศหลัก ๆ ในยุโรป เพื่อจำหน่ายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568
การผลิตรถรุ่นพวงมาลัยขวาของรถปิกอัพไฟฟ้าอีซูซุ ดีแมคซ์ EV กำหนดจะมีขึ้นช่วงปลายปีนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายในสหราชอาณาจักร ในปี 2569 และจะขยายไปยังประเทศและเขตอื่น ๆ ตามความต้องการของตลาด

Isuzu D-Max EV Concept จัดแสดงในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2024
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time ซึ่งมี e-Axles ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทำงานร่วมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยให้มั่นใจในสมรรถนะอันยอดเยี่ยมบนพื้นที่ทุรกันดาร ระบบนี้ยังให้พลังเร่งแซงสูงแบบคงที่ตามแบบฉบับของรถยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกันก็ลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือน
นอกจากนี้ความสามารถในการลากจูงและน้ำหนักบรรทุกที่สูง จากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังรวมถึงโครงสร้างและตัวถังที่แข็งแรง ทำให้รถปิกอัพไฟฟ้า อีซูซุ ดีแมคซ์ – New Isuzu D-Max EV สามารถเทียบเคียงกับสมรรถนะของรุ่นดีเซลที่มีอยู่ปัจจุบันได้
กลุ่มอีซูซุ มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนผ่านการพัฒนายานยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนหลากหลายประเภท ด้วยตระหนักดีว่าลูกค้าผู้ใช้รถปิกอัพมีวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย รถปิกอัพไฟฟ้า อีซูซุ ดีแมคซ์ EV จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้รถทั้งเพื่อการพาณิชย์และส่วนตัว โดยยังคงประสิทธิภาพที่ทนทานตามความคาดหวังของการใช้งานรถปิกอัพ
รายละเอียดผลิตภัณฑ์ อีซูซุ ดีแมคซ์ New Isuzu D-Max EV: รุ่น 4 ประตู สำหรับตลาดยุโรป
น้ำหนัก | น้ำหนักตัวรถ (กก.) | 2,350 | |
น้ำหนักบรรทุกสูงสุด (กก.) | 1,010 | ||
ความสามารถในการลากจูงสูงสุด (กก.) | 3,500 | ||
มิติ | ความยาวรวมกันชนหลัง (มม.) | 5,280 | |
ความกว้างรวม (มม.) | 1,870 | ||
ความสูงรวมราวหลังคา (มม.) | 1,810 | ||
ฐานล้อ (มม.) | 3,125 | ||
ระยะห่างช่วงล้อ (หน้า/หลัง) (มม.) | 1,570 | ||
รัศมีวงเลี้ยวต่ำสุด (ม.) | 6.1 | ||
สมรรถนะ | ระบบขับเคลื่อน | 4×4 แบบ Full Time | |
กำลังสูงสุด (กิโลวัตต์) | 140 | ||
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร) | 325 | ||
ความเร็วสูงสุด (กม./ ชม.) | มากกว่า 130 | ||
ระยะทางวิ่งต่อชาร์จ (กม.) | 263 (WLTP)
361 (WLTP City mode) |
||
อัตราการสิ้นเปลืองไฟฟ้า
(วัตต์ชั่วโมง/ กม.) |
255 (WLTP) | ||
ประเภทแบตเตอรี่ | ลิเธียมไออน | ||
ความจุแบตเตอรี่ (กิโลวัตต์-ชม.) | 66.9 | ||
ระยะเวลาในการชาร์จ | กระแสสลับ AC | รองรับสูงสุด 11 กิโลวัตต์ ใช้เวลา 10 ชม. (0-100%) | |
กระแสตรง DC | รองรับสูงสุด 50 กิโลวัตต์ ใช้เวลา 1 ชม. (20-80%) |
เปิดตัว ISUZU D-Max EV Concept พร้อมประกาศลุยรถพลังไฟฟ้า อีก 3 รุ่น
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: บริษัทอีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
ดีแมคซ์ ไฟฟ้า D-Max EV
“จากนั้นรถกระบะไฟฟ้า BEV ของ Isuzu จะเริ่มทำตลาดในประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทย เนื่องจากเราต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน เช่น ลูกค้าในแต่ละประเทศต้องการใช้งานรถกระบะไฟฟ้าหรือไม่ ระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ไฟฟ้ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน เราต้องนำปัจจัยทั้งหมดมาพิจารณา เพื่อกำหนดลำดับที่จะออกจำหน่ายต่อไป”
การให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารตรีเพชรอีซูซุเซลส์ สอดคล้องกับรายงานข่าวของ Nikkei ที่ระบุว่า Isuzu Motors มีแผนจะส่งออก D-Max BEV ที่ผลิตจากประเทศไทยไปเปิดตัวขายที่นอร์เวย์ เป็นประเทศแรกในปี 2025 จากการที่กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย มีความเข้มงวดในข้อกำหนดการปล่อยมลพิษของยานพาหนะใหม่ ก่อนจะเริ่มขายในประเทศอื่นของทวีปยุโรป รวมทั้งแถบตะวันออกกลางต่อไป
นอกจากนี้ ฮาตะ ยืนยันถึงการที่ Isuzu Motors จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะพลังงานไฟฟ้าเพื่อส่งออกขายทั่วโลก “ถูกต้องครับ ฐานการผลิตรถปิกอัพพลังงานไฟฟ้าของอีซูซุ จะอยู่ในประเทศไทยแน่นอน และในส่วนของทางเลือกเครื่องยนต์อื่นๆ เช่น ไฮบริด กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ”
ขณะเดียวกัน ฮาตะ แสดงความเห็นถึงการขึ้นกล่าวของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน บนเวทีสัมนาด้านเศรษฐกิจ เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ถึงแผนที่จะผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์เครื่องสันดาปในช่วงสุดท้ายก่อนจะเข้าสู่เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า พร้อมย้ำถึงการให้ความสำคัญกับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
“เรารู้สึกยินดีกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่สนับสนุนประเทศให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์เครื่องสันดาป และพร้อมจะสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเวลาเดียวกัน การไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนเป็นเป้าหมายสำคัญของประเทศไทยเช่นเดียวกับทุกประเทศในโลก ไม่ว่ารถยนต์สันดาป, รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์พลังงานทางเลือกอื่นๆ จะมีส่วนสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของรัฐบาลได้เช่นกัน”