GAC AION คว้า 2 รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี Car of The Year 2025

GAC AION คว้า 2 รางวัล รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี ได้แก่ AION V คว้ารางวัล BEST SUV EV (FWD) และ HYPTEC HT คว้ารางวัล THE MOST VALUABLE & LUXURY SUV EV จากเวที Car of the Year 2025
BEST SUV EV (FWD)
AION V
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ณ ปัจจุบันยนตรกรรมEV จากประเทศจีน ได้ก้าวขึ้นมาเป็นกระแสหลักของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเป็นที่เรียบร้อย จากการมาถึงของผู้เล่นแบรนด์ใหม่ๆ ที่ส่งยนตรกรรม EV หลากหลายรุ่น มาตอบโจทย์ผู้บริโภค…แน่นอนว่า “ตัวเลือก” มากมายย่อมเป็นสิ่งดี แต่ถ้ามี “มากไป” น่าจะทำให้การตัดสินใจเป็น “เรื่องยาก” ไม่น้อย
เพราะฉะนั้น เดาได้ว่าสิ่งแรกที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มองหา น่าจะต้องเป็นเรื่อง “ความมั่นใจในแบรนด์” ซึ่ง GAC AION ก็คือ หนึ่งในแบรนด์ที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ด้วยการอยู่ภายใต้เครือบริษัทยักษ์ใหญ่ GAC Group (Guangzhou Automotive Group) ที่มุ่งมั่นพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า 100% จนให้กำเนิดแบรนด์ AION ขึ้นในปี 2017
จนถึงปัจจุบัน GAC AION เดินหน้าสู่ตลาดเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อย นำทัพด้วย 3 รุ่นย่อย โดยมี AION V ความยอดเยี่ยม
รุ่นล่าสุด และคว้ารางวัล BEST SUV EV (FWD) ไปครองได้อย่างสวยงาม ด้วยความมั่นใจแรกจากการเป็นยนตรกรรมไฟฟ้า 100% ระดับ Global Model รุ่นแรกที่ทำตลาดในระดับโลก
ซึ่งมีเสียงตอบรับอย่างดี ด้วย 5 จุดเด่นหลัก
ประกอบด้วย “V Design” การออกแบบโดยยึดหลักแนวคิด Cyber Design ที่ผสมผสานรูปทรงล้ำสมัยเข้ากับรูปทรงเรขาคณิต เพื่อสร้างความสวยงามที่เฉียบคมและพลิ้วไหว แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง,
“V Comfort” คือ การนำเสนอมิติใหม่ของการขับขี่ และการโดยสารที่เหนือกว่า ทั้งความหรูหราระดับเรือธงพร้อมฟีเจอร์ และออปชันอำนวยความสะดวกมากมาย,
“V Energy” คือ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ และระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ ที่ทำให้ ไปได้ไกลกว่า ชาร์จเร็วกว่า และปลอดภัยกว่า,
“V Confidence” ความมั่นใจในทุกสถานการณ์ ด้วยโครงสร้างตัวถังความแข็งแรง
สูง และท้ายสุด “V Intelligent” ความชาญฉลาดของโปรแกรมการอำนวยความสะดวก ที่มีประสิทธิภาพการประมวลผลยอดเยี่ยม
AION V ยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV พลังไฟฟ้า 100% ไม่เพียงตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการใช้งาน ตามสไตล์ยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV เท่านั้น แต่ยังมอบความสนุกสนานในการขับขี่ได้อีกด้วยเช่นกัน จากพละกำลัง 150 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร จากแบตเตอรี่ความจุ 75.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.9 วินาที ทั้งยังทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 160 กม./ชม. ตลอดจนระยะทางการขับขี่ที่วิ่งได้ไกลถึง 602 กม. ตามชื่อรุ่นอีกด้วย
และทั้งหมดที่ว่ามา คือคุณสมบัติและศักยภาพของ AION V ที่คณะกรรมการจาก Thailand Car of The Year 2025 ได้สัมผัส
อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จนมั่นใจที่จะคู่ควรกับรางวัล BEST SUV EV (FWD) อย่างแท้จริง
THE MOST VALUABLE & LUXURY SUV EV
HYPTEC HT
อีกหนึ่งความยอดเยี่ยมที่ไม่มีใครปฏิเสธ ได้ของงาน Thailand Car of The Year 2025 ปีนี้ คือ HYPTEC HT ยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV พลังไฟฟ้า 100% ที่ยกระดับสู่ความไฮเอนด์ ด้วยความหรูหราที่ถูกผสานเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง
ก้าวสู่ความสมบูรณ์แบบ
ด้วยการพัฒนา 5 แกนหลักสำคัญ คือ HYPTEC Design (การออกแบบ), HYPTEC Space พื้นที่ห้องโดยสาร), HYPTEC Smart (เทคโนโลยีอัจฉริยะ), HYPTEC Energy (การจัดการพลังงาน) และ HYPTEC Performance (สมรรถนะ) เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับในแบบที่ไม่มีใครเคยสัมผัสมาก่อน
HYPTEC Design คือ การออกแบบ ที่ไม่ได้โดดเด่นเพียงแนวหลังคาลาดเอียงแบบ Fastback เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์เท่านั้น แต่ทุกสายตาต้องสะดุดกับการผสมผสานศิลปะและเทคโนโลยีให้เป็นหนึ่งเดียวบนประตูปีกนก (Gull Wing Doors) ที่นอกจากสวยงามแล้ว ยังทำให้เข้า-ออก ห้องโดยสารได้สะดวกมากขึ้น
จากความสูงของการเปิด 2.3 เมตร ที่ต้องการระยะด้านข้างเพียง 34 ซม. ซึ่งทำให้การเปิดประตูในที่จอดรถแคบๆ กลายเป็น
เรื่องง่ายดายในทันที ทั้งยังมีการติดตั้งระบบหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางอัจฉริยะ ด้วยเรดาร์ 12 จุด เพื่อช่วยให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมถึงมีระบบประตูดูดไฟฟ้า ที่จะช่วยให้ประตูเปิด-ปิด ได้เงียบสนิท โดยไม่ส่งเสียงรบกวนอีกด้วย
ภายในห้องโดยสาร นำเสนอความเป็นเฟิร์สคลาสตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุ เช่น วัสดุหนัง Nappa คุณภาพสูง, วัสดุไม้แท้ พร้อมการติดตั้งออปชันพิเศษสุดล้ำ เช่น การนวดระดับสปาที่เลือกได้ถึง 5 รูปแบบ, ระบบเสียง Dolby Atmos 7.1.2 พร้อมลำโพงคุณภาพสูง 22 ตำแหน่ง คุณภาพเสียงระดับการแสดงสด มาพร้อมหน้าจอความละเอียดสูง 2.5K ขนาด 14.6 นิ้ว ประมวลผลด้วยชิป Qualcomm 8155
มีแม้กระทั่งความชาญฉลาดของห้องโดยสารอัจฉริยะ ADiGO SPACE พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงแบบ 4 ตำแหน่ง ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดภายในรถ ระบบก็สามารถรับรู้ และดำเนินการตามคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว, ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้า หรือเสียสมาธิขณะขับขี่, ระบบวิเคราะห์สถานการณ์ขับขี่ของผู้ขับ ก่อนจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียง และข้อความบนจอคอนโซลกลาง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่, การปรับเพิ่มพื้นที่นั่งแถวที่ 2 อย่างง่ายดาย ด้วยการเลื่อนที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว
ขีดสุดของ HYPTEC HT คือ “สมรรถนะ” ที่ประกอบด้วย Magazine Battery 2.0 แบบ Lithium ion Phosphate ขนาดความจุ 83.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัย และคุณสมบัติที่ดีขึ้น ตามด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 250 กิโลวัตต์ ที่ล้อคู่หลัง ทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถ ด้วยพละกำลังสูงถึง 340 แรงม้า พร้อมแรงบิด 430 นิวตันเมตร ส่งผลให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้อย่างดุเดือดในเวลาเพียง 5.8 วินาที โดยมีระยะทางขับขี่ที่ทำได้ไกลสุดถึง 620 กม. อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “Super Charge” ซึ่งจะช่วยให้สามารถชาร์จไฟจาก 10-70% ได้รวดเร็วภายใน 15 นาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ HYPTEC HT ยังมากับแพลตฟอร์ม AEP 3.0 ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการขับขี่ เช่น การควบคุมที่ง่ายและคล่องตัว ด้วยรัศมีวงเลี้ยว 5.6 เมตร, ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ (Double Wishbones) และด้านหลังแบบอิสระ 5-Link ซึ่งมีแรงบันดาลใจในการปรับแต่งจาก Supercar เช่นเดียวกับการปรับเซตระบบพวงมาลัย เพื่อให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ตลอดจนโหมดการขับขี่ที่ปรับแต่งได้ เสริมด้วย ASTC (Eagle Claw) ระบบรักษาเสถียรภาพอัจฉริยะ ที่จะช่วยปรับสมดุลของ
รถโดยอัตโนมัติ เพื่อลดความเสี่ยงจากการลื่นไถลในทุกสภาวะ และช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ทุกสถานการณ์ เหมาะสมกับที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากสถาบัน C-NCAP และได้รับคะแนนระดับ G (ระดับสูงสุด) ในด้านการปกป้องผู้โดยสาร, การปกป้องคนเดินถนนและความปลอดภัยเชิงรุก จากสถาบัน Zhongbao Research เพราะเพียงรายชื่อระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะมากมาย ที่ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ก็มากพอที่จะให้คณะกรรมการ Thailand Car of The Year 2025 มั่นใจ ที่จะสัมผัสสมรรถนะอันดุเดือดของ HYPTEC HT เพื่อตอกย้ำถึงความเหมาะสมกับรางวัล THE MOST VALUABLE & LUXURY SUV EV ในปีนี้