ตอนนี้ต้องขอมาเปลี่ยนเรื่องกันหน่อย เพราะโรค COVID – 19 กำลังมาแรงเหลือเกิน มีสายพันธุ์ประหลาดๆ ออกมา ยิ่งติดเชื้อเร็วขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราต้องยิ่งระวังมากขึ้น และสิ่งหนึ่งที่พวกเราต้องพึ่งมามัน คือ “รถยนต์” ไปไหนต่อไหนในยามจำเป็น ซึ่งบางครั้ง มันก็อาจจะเปลี่ยนจาก “ยานพาหนะ” เป็น “ยานพาหะ” หรือ Cluster นำโรคมาสู่คน เราควรมีวิธีปฏิบัติอย่างไร ถึงจะ “ลดความเสี่ยง” จากการใช้รถยนต์ได้บ้าง…

หากบนรถไม่ได้มีแค่เรา สวมหน้ากากทุกคน

อันนี้เป็น “กฏหมาย” ที่หลายท่านก็อาจจะทราบอยู่แล้ว ถ้า “ขับรถคนเดียว” ก็อนุโลมไม่สวมหน้ากาก หรือ “แมส” (Mask) ได้ แต่ถ้ามี “ผู้โดยสาร” อยู่ด้วย ต้องสวมหน้ากากทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัว หลายคนก็อาจจะบอกว่า อ้าว ก็ครอบครัวอ่ะ อยู่ด้วยกันตลอด ทำไมต้องบังคับด้วยละวุ้ยยยยย อันนี้ก็ต้องเข้าใจเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยครับ เพราะเขาไม่รู้หรอกว่าคนในรถนั้นเป็นใครบ้าง เป็นญาติพี่น้อง ครอบครัวเดียวกันจริงหรือเปล่า แม้แต่เป็น “ญาติพี่น้อง” กันจริง แต่อยู่คนละบ้านกัน ก็ไม่รู้อีกว่าเขาไปไหน มีโอกาสติดเชื้อหรือไม่ “ใส่เถอะครับ” เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน…

ทำความสะอาดภายในรถบ่อยๆ

ในรถจะมี “จุดสัมผัสประจำ” ซึ่งจะมีความเสี่ยงจาก “เชื้อโรคติดมือ” อาจจะไปหยิบจับอะไรมา โอกาสติดเชื้อมาก็มีอยู่ ดังนั้น “ขึ้นรถแล้วล้างมือด้วยแอลกอฮอล์” ทันที รวมไปถึง การทำความสะอาด จุดสัมผัสประจำ เช่น พวงมาลัย, สวิทช์เปิดปิดไฟหน้าและไฟเลี้ยว – ปัดน้ำฝน, สวิทช์วิทยุ, คันเกียร์, มือจับประตู ก็จะมีพวกทิชชู่เปียกผสมแอลกอฮอล์ เช็ดๆ หน่อย อย่างน้อยก็ลดความเสี่ยงได้เยอะเลย รวมไปถึงการทำความสะอาดภายในรถ ดูดฝุ่น เก็บขยะ เอาแผ่นยาง – พรมชิ้น ที่เราเหยียบกันบ่อยๆ ออกมาเคาะฝุ่นและสิ่งสกปรกทิ้ง อย่าปล่อยนานหมักหมมเป็น “แหล่งเพาะเชื้อ” ดีนักแล…

จอดตากแดดจัดๆ บ้างก็ดีนะ

ปกติแล้ว ถ้าเลือกได้ ก็ไม่อยากจะจอดรถตากแดด “นรก” ของไทยแลนด์ กลัวสีจะหมอง รถจะโทรม สงสารรถที่อุตส่าห์กัดฟันซื้อ แต่สถานการณ์แบบนี้ หากมีโอกาส จอดตากแดดจัดๆ บ้างก็ดี อย่างน้อย ความร้อนจากแสงแดดแผดเผา ก็จะช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ รวมถึง โควิด ไปได้บ้างก็ยังดี จอดแล้วก็ “แง้มกระจก” ไว้สัก 1 นิ้ว (กรณีที่ไม่ได้จอดในที่ลับสายตา) เพื่อให้เกิดการ ระบายอากาศด้านในรถออกมาด้วย เมื่อเราจะขับรถ ก็เปิดกระจกระบายอากาศ เปิดแอร์แรงๆ ให้มันระบายความชื้นจากในตู้แอร์ออกมาด้วยก็ยิ่งดี…

ดูแลความสะอาด “ระบบแอร์” ให้ดี

อากาศร้อนๆ คงไม่ดีแน่ ถ้า “แอร์ตัน” โดยมากก็จะเป็น “กรองแอร์ตัน” หรือ “ตู้แอร์ตัน” จากการใช้งานมานาน มีฝุ่นเข้าไปเกาะจับเป็นแผงๆ บางทีเป็น “เมือก” จากคนที่ชอบใช้ “น้ำหอม” ในรถ หรือ คนที่เอา “น้อนๆ” หมา แมว ขึ้นรถประจำ พอสิ่งสกปรกมันหมักหมมก็เกิดเชื้อโรคด้านใน เราก็สูดดมเข้าไป ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจต่างๆ สารพัด ยังไงควรหมั่นตรวจเช็คกรองแอร์ ตู้แอร์ ถ้าสกปรก รีบล้างก่อน แอร์จะได้เย็น ระบบไม่ทำงานหนักจน “น็อก” สำคัญ คือ “เซฟสุขภาพ” ของคุณด้วยครับ…

ไม่คุ้น ไม่รับ

คงมีคนหาว่าผม “ใจร้าย ใจดำ” บ้างแหละ แต่เอาจริงๆ ตอนนี้ “เซฟได้ก็เซฟ” ครับ พยายามเลี่ยงรับคนที่เราไม่คุ้นเคยขึ้นรถ (ถ้าเลี่ยงได้นะ) เราไม่รู้ว่าเขา “ไปทำอะไรมาบ้าง” และ “ป้องกันตัวเองดีแค่ไหน” ยิ่งขึ้นมาบนรถ เปิดแอร์ อากาศวนในรถ โอกาสที่เชื้อโรคมันก็วนเวียนและเราสูดลมหายใจเข้าไปก็มี แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ในเคสจำเป็นที่ต้องรับคน ก็ให้เขา “ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์” และ “ใส่หน้ากากตลอดเวลาทุกคน” ถ้าไม่ทำตามคุณมึงก็ไม่ต้องขึ้น และตอนขับรถไป ก็ “แง้มกระจก” ไว้สักหน่อย เพื่อให้อากาศในรถถูกดูดออกไปข้างนอก ยอมเย็นน้อยลงหน่อยแต่ปลอดภัยดีกว่า…

เป็นวิธีที่ง่ายๆ สำหรับการ “ป้องกันรถเรา” จากเชื้อโรคต่างๆ ไม่เฉพาะ COVID – 19 เท่านั้น ตอนนี้สถานการณ์สุ่มเสี่ยงมาก จึงต้อง “ตั้งการ์ดแน่นๆ” ไว้ก่อน ใครว่าเราเรื่องมากก็อย่าไปสนใจมัน เป็นขึ้นมาเรานี่แหละจะซวยไปด้วย ยังไม่จบ เพราะยังมี Part 2 รออยู่ นัวไม่แพ้กันครับ…

เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th