-
Mercedes-Benz ทำการปรับโฉมให้กับรถรุ่นเล็ก A-Class ทั้งซีดานและแฮทช์แบ็ก โดยที่การปรับในส่วนของดีไซน์ภายนอกมีไม่มากนัก แต่เน้นเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานและปรับการแต่งใหม่และเพิ่มเทคโนโลยีในห้องโดยสารของรถ
-
Aurus Motors ผู้ผลิตรถยนต์รัสเซียที่ขยายไลน์จากการทำรถสำหรับบุคคลสำคัญในประเทศมาทำรถยนต์หรูสำหรับพลเรือนโดยทำรถออกมาแล้วสองรุ่นคือ Senat ซึ่งเป็นรถซีดานหรูฟูลไซส์ และ Senat Limousine รถลิมูซีนกันกระสุน มีทางเลือกใหม่สำหรับพลเรือนที่ยังคงความหรูไม่แพ้สองรุ่นที่ออกมาก่อนหน้าด้วย Komendant ซึ่งเป็นรถเอสยูวีที่ถูกเลื่อนการผลิตมาตั้งแต่ปี 2020 โดยเป็นรถที่ถูกวางตัวไว้ให้มีความหรูในระดับเดียวกับ Bentley Bentayga และ Rolls-Royce Cullinan
-
Audi อำลาเครื่องยนต์ V10 ในรถซูเปอร์คาร์ R8 ด้วยการนำรุ่น GT ซึ่งเป็นรถที่มีน้ำหนักเบากว่าปกติและมีเครื่องยนต์กำลังแรงขึ้นที่เคยทำออกมาใน R8 เจเนเรชันแรกกับมาอีกครั้ง พร้อมกับใช้เครื่องยนต์ V10 เป็นขุมกำลัง เพื่อเป็นรถรุ่นพิเศษ R8 Coupe V10 GT RWD ซึ่งมีการผลิตจำกัด 333 คันสำหรับขายทั่วโลก
-
BMW ทำการอัพเดตให้รถโรดสเตอร์ Z4 เจเนเรชันปัจจุบันที่เปิดตัวออกมาตั้งแต่ปี 2018 อย่างไรก็ตามการปรับเปลี่ยนที่เกิดขึ้นกับรถมีเพียงรายละเอียดด้านรูปลักษณ์เพียงเล็กน้อยและเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อการขายเป็นรุ่นปี 2023 เท่านั้น
-
Bentley ทำการอัพเดตให้กับรถเอสยูวี Bentayga Hybrid ซึ่งจะทำให้สามารถเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าได้ไกลขึ้น มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังมากขึ้น รวมทั้งยังมี 2 เกรดแต่งคือ Azure และ S เพิ่มเข้ามาให้เลือก
-
Toyota Corolla ปรับขุมกำลัง และระบบความปลอดภัย ในญี่ปุ่น
-
ในที่สุดทาง Maserati ก็เผยโฉม GranTurismo รุ่นใหม่ออกมาอย่างเป็นทางการ หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพแบบพรางทั้งคันและรายละเอียดของรถออกมาก่อนหน้านี้ โดยรถแกรนด์ทัวเรอร์รุ่นใหม่มีให้เลือกทั้งแบบใช้เครื่องยนต์ V6 และมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน
-
Tata ผู้ผลิตรถยนต์ในอินเดียเปิดตัวรถซิตี้คาร์รุ่น Tiao ออกมาเมื่อปี 2016 โดยที่มีทางเลือกในการใช้พลังงานทั้งน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล รวมทั้งแก๊สซีเอ็นจี และล่าสุดยังเพิ่มทางเลือกในการใช้พลังงานไฟฟ้าในรถแฮทช์แบ็กขนาดเล็กรุ่นนี้ด้วย Tiago EV โดยที่มี 2 ระดับกำลังมอเตอร์และระยะการเดินทางให้เลือก
-
Peugeot ทำการอัพเดตให้กับรถไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่น e-208 สำหรับเป็นรุ่นปี 2023 ซึ่งแม้จะไม่มีการปรับเปลี่ยนด้านรูปลักษณ์ของรถไปจากเดิมในการอัพเดตคราวนี้ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญภายในรถที่ให้ประโยชน์ในการใช้งาน เพราะมีการเพิ่มทั้งกำลังขับเคลื่อนและระยtการเดินทาง
-
Lamborghini Urus S ซูเปอร์เอสยูวี ขุมกำลัง 4.0 liter V8 Twin-turbo สุดยอดสมรรถนะ 666 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 305 กม./ชม.