Audi ได้เริ่มการขาย RS6 Avant ในสหรัฐอเมริกา แต่นอกจากรถแวกอนสมรรถนะสูงปกติแล้ว ยังมีอีกทางเลือกในชื่อ RS Tribute Edtion เพื่อเป็นการระลึกถึง RS2 Avant ที่ผลิตออกมาในปี 1994 หรือจริงๆ แล้วชื่อที่ใช้ในตอนนั้นคือ Audi 80 RS2 ซึ่งเป็นความร่วมมือในการพัฒนาระหว่าง Audi กับ Porsche

Audi RS6 Avant RS Tribute Edition ซึ่งจะถูกผลิตออกมาจำกัดเพียง 25 คันเท่านั้น จะแตกต่างจาก RS6 Avant รุ่นปกติอย่างชัดเจนทั้งภายนอกและภายใน โดย RS6 Avant รุ่นพิเศษมาในสีฟ้า Nogaro Blue พร้อมกับเน้นการใช้วัสดุสีดำทั้งที่กระจังหน้า Diffuser หลัง สเกิร์ตข้าง และรูฟเรลบนหลังคา อย่างไรก็ตามล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้วที่มาพร้อมกับรถเป็นสีเงินโดยที่มีคาลิเปอร์เบรกสีแดงอยู่ด้านหลัง

ในส่วนห้องโดยสารของ RS6 Avant RS Tribute Edition ถูกเพิ่มความพิเศษด้วยเบาะสปอร์ต Valcona S พร้อมกับรอยเย็บสีฟ้า Denim Blue ทุกจุดในห้องโดยสาร และแทรกใช้คาร์บอนไฟเบอร์แต่งบนแผงแดชบอร์ด ในขณะที่พวงมาลัยมาพร้อมกับรูระบายอากาศ และปิดท้ายความพิเศษด้วยพรมปูพื้น RS

พลังขับเคลื่อน RS6 Avant รุ่นพิเศษไม่แตกต่างจากรุ่นปกติที่ 591 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร จากเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ โดยใช้เกียร์อัตโนมัติ 8  สปีดส่งกำลังสู้ล้อทั้ง 4 ในขณะที่การทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 3.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 305 กม./ชม. โดย RS Tribute Edition ทุกคันมาพร้อมกับท่อไอเสียสปอร์ตเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อเน้นความเร้าใจจากเสียงของเครื่องยนต์ V8 มากขึ้น

RS6 Avant RS Tribute Edtion มาพร้อมกับแพ็กเกจระบบช่วยขับและ Premium Package เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จึงหมายความว่ามีทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบอแดปทีฟ ระบบปรับความอุ่นที่เบาะหลัง การแสดงข้อมูล Head-up Display ประตูปิดไฟฟ้า Soft-Closing และระบบเสียง 3D Advance ของ Bang & Olufsen

จากทั้งหมดนี้ทำให้ Audi RS6 Avant RS Tribute Edition มีราคาสูงกว่ารุ่นปกติพอสมควรโดยถูกตั้งราคาไว้ที่ 136,800 ดอลล่าร์ ในขณะที่ RS6 Avant ปกติมีราคาเริ่มต้นที่ 109,995 ดอลล่าร์

หากสงสัยถึงความสำคัญของ Audi RS2 Avant ในอดีต นี่คือจุดกำหนดของรถแวกอนสมรรถนะสูงของ Audi และยังเป็นรุ่นแรกที่ติดป้ายชื่อ RS โดยมี Porsche เข้ามารับผิดชอบในด้านวิศวกรรมรวมทั้งการผลิต ทำให้รถแวกอนรุ่นนี้ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 5 สูบ 2.2 ลิตร มีกำลัง 311 แรงม้า และใช้เวลา 4.8 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th