Audi เผยโฉม RS 6 Avant GT ออกมาเพื่อเป็นรุ่นพิเศษของรถแวกอนรุ่นแรง โดยจะเป็นรถรุ่นพิเศษสุดท้ายและมีสมรรถนะสูงสุดของรถแวกอนสมรรถนะสูงรุ่นนี้ โดยนำแนวทางมาจากรถคอนเซ็ปต์ RS6 GTO ที่เคยทำออกมาเมื่อปี 2020

Audi RS6 Avant GT มีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ซึ่งสร้างกำลังขับเคลื่อนออกมา 630 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 850 นิวตัน-เมตร ซึ่งหมายความว่ารถรุ่นพิเศษนี้มีกำลังมากกว่ารถมาตรฐาน 30 แรงม้า มีแรงบิดมากกว่า 50 นิวตัน-เมตร ส่วนการนำกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อของรถเป็นหน้าที่ของระบบส่งกำลัง Tiptronic 8 สปีดที่ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนทุกล้อ Quattro

ด้านตัวเลขสมรรถนะของรถใช้เวลา 3.3 วินาที เพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ขณะที่การทำความเร็วจาก 0-200 กม./ชม. ด้วยเวลา 11.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 305 กม./ชม.

รถแวกอนรุ่นพิเศษยังมาพร้อมกับคอยล์สปริงปรับได้ที่ช่วงล่าง รวมทั้งมีการปรับ Differential หลังเป็นพิเศษ และมีช่วงล่างที่ลดความสูงของรถลงจากรถมาตรฐาน 10 มม. รวมไปถึงมีกันโคลงที่ทนต่อการบิดตัวมากขึ้น ใช้ระบบเบรกเซรามิก และยาง Continental Sport Contact 7

ภายนอกของรถแวกอนรุ่นพิเศษนำแนวทางการออกแบบมาจากรถคอนเซ็ปต์ RS6 GTO ซึ่งสร้างมาจากรถแข่ง Audi 90 Quattro IMSA GTO อีกที จึงทำให้แตกต่างจากรถรุ่นปกติด้วยกระจังหน้าสีดำพร้อมกันชนหนเาใหม่ที่ทำให้รถดูเตี้ยงลงและกว้างขึ้น และมี Splitter หน้าชิ้นใหญ่สีแดง ส่วนฝากระโปรงหน้าของรถเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ที่เผยให้เห็นลายบางส่วน ในขณะที่ซุ้มล้อหน้าของรถซึ่งเป็นคาร์บอนไฟเบอร์มีช่องระบายอากาศเพื่อลดแรงดันที่ซุ้มล้อพร้อมกับช่วยในการระบายความร้อนให้กับเบรก

รถแวกอนรุ่นแรงยังมาพร้อมกับกระจกข้างคาร์บอนไฟเบอร์ การแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์มันเงา และล้อขนาด 22 นิ้วลายพิเศษสีขาว ส่วนด้านหลังรถมีสปอยเลอร์ที่นำแรงบันดาลใจมาจากมอเตอร์สปอร์ต ส่วนสีภายนอกของรถที่แต่งด้วยลายกราฟฟิกสีต่างๆ มีให้เลือก 5 สีระหว่างสีขาว Arkona White สีเทา Nardo Gray สีเทา Chronos Gray Metallic สีน้ำตาล Madeira Brown Metallic และสีดำ Mythos Black Metallic

ห้องโดยสารของรถเน้นสีดำแต่เพิ่มความเด่นด้วยสีแดงและสีทองแดง โดยส่วนกลางของเบาะเย็บลายรังผึ้งพร้อมมีชื่อรุ่นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีเข็มขัดนิรภัยสีแดง พรมปูพื้นพิเศษเฉพาะรุ่น และหมายเลขการผลิตที่คอนโซลกลาง

รถแวกอนรุ่นพิเศษจะถูกผลิตจำกัด 660 คัน โดยมีราคา 219,355 ยูโร ในเยอรมนี และจะเริ่มการส่งมอบรถตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2024 นี้

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th