Audi นำเอา Q8 e-tron ที่หลายคนอาจมองว่าเป็นรถเอสยูวีที่เหมาะสำหรับขับบนทางเรียบมากกว่าการนำไปลุยมาทำเป็น edition Dakar เพิ่มความสามารถในการลุยทางทุรกันดารมากขึ้นด้วยอุปกรณ์กรณ์ต่างๆ และการแต่งที่นำแรงบันดาลใจมาจาก RS Q e-tron รถแข่งแรลลีดาการ์โดยใช้พื้นฐานจากรุ่น Q8 55 e-tron Quattro

Audi Q8 e-tron edition Dakar ถูกเพิ่มความสามารถในการลุยด้วยการมาพร้อมกับยางออลเทอร์เรน General Grabber AT3 และการเพิ่มความสูงของใต้ท้องรถจากพื้นมากขึ้น 31 มม. เมื่อเทียบกับรถมาตรฐาน ทำให้รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นเน้นการลุยมากขึ้นมีความสูงของใต้ท้องรถจากพื้น 206 มม. ผลจากมีความสูงเพิ่มขึ้นทำให้รถมีมุมไต่ 20 องศา มีมุมจาก 26 องศา และมุม Breakover 19 องศา ทำให้มีความสามารถในการลุยมากกว่ารถมาตรฐาน

อย่างไรก็ตามความสูงของรถที่เพิ่มขึ้นจะลดลงตามความเร็วที่สูงขึ้นของรถ โดยลดลง 15 มม. ที่ความเร็ว 85 กม./ชม. ลดลง 17 มม. ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. และลดลง 13 มม. ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. เพื่อเพิ่มแอโรไดนามิก ระยะการเดินทาง และเสถียรภาพของรถที่ความเร็วสูง

นอกจากถูกเพิ่มความสูงแล้ว รถเอสยูวีที่นำแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งแรลลีดาการ์ยังถูกเพิ่มความกว้างมากขึ้น มีรูฟแร็กบนหลังคาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานมากับรถ รวมทั้งมีกราฟฟิกพิเศษที่นำแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งเป็นออฟชันสำหรับแต่งรถซึ่งจะจำกัดแค่ 99 คันเท่านั้น ส่วนสีภายนอกของรถมีให้เลือกระหว่างสีเบจ Siam Beige Metallic สีดำ Mythos Black Metallic และสีเทา Magnetic Gray โดยที่กระจังหน้าซิงเกิลเฟรมของรถจะมีสีเดียวกับตัวถังรถ

การขับเคลื่อนของรถเอสยูวีไฟฟ้าแต่งพิเศษใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่กำลัง 300 kW หรือ 402 แรงม้าใน Boost Mode มีแรงบิดสูงสุด 664 นิวตัน-เมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. โดยใช้เวลา 5.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กม./ชม. ขณะที่แบตเตอรีของรถมีความจุ 106 kWh ให้ระยะการเดินทางได้ 487 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งรอบ

ทางผู้ผลิตรถพรีเมียมจากเยอรมนีจะเริ่มรับออเดอร์รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นลุยได้มากขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2024 นี้ ส่วนราคาของรถเริ่มต้นที่ 120,000 ยูโร

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th