ปีที่แล้ว Audi เปิดตัว Q5 ทั้งตัวถังปกติและรถเอสยูวีคูเป้Q5 Sportback ออกมาโดยมีเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลพร้อมระบบไมลด์ไฮบริดให้เลือก ล่าสุดรถเอสยูวีรุ่นนี้มีรุ่น e-Hybrid หรือปลั๊กอินไฮบริดออกมาเสริมทัพในตลาดเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางโดยไม่ปล่อยมลพิษเมื่อขับรถเพื่อใช้งานในแต่ละวันได้ พร้อมให้ความสะดวกด้วยการมีเวลาการชาร์จไฟที่เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า

Audi Q5 e-Hybrid ทั้งตัวถังปกติและ Sportback มีขุมกำลังปลั๊กอินไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร TFSI แบตเตอรีความจุ 25.9 kWh และระบบส่งกำลังดูอัลคลัตช์ 7 สปีดที่มีมอเตอร์ไฟฟ้ารวมอยู่ด้วย แต่มีสองระดับกำลังให้เลือก โดยรุ่นเริ่มต้นมีกำลังขับเคลื่อนรวมจากระบบ 299 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน–เมตร ใช้เวลา 6.2 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม. ส่วนอีกรุ่นมีกำลังจากระบบ 367 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน–เมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 5.1 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดไม่แตกต่างจากรุ่นพื้นฐาน

ทางผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีระบุว่าด้วยการที่รถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ใช้แบตเตอรีความจุมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 45 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้สามารถเดินทางโดยใช้เฉพาะไฟฟ้าได้ระหว่าง 82 ถึง 100 กิโลเมตร นอกจากนี้รถยังรองรับการชาร์จไฟจากไฟฟ้ากระแสสลับ AC เพิ่มขึ้นจาก 7.4 kW ในรุ่นก่อนหน้าเป็น 11 kW จึงทำให้รถรุ่นใหม่ใช้เวลาชาร์จไฟ 2.5 ชั่วโมง

หากรถมากับการแต่ง S Line อุกรณ์มาตรฐานที่มากับรถจะมีเบาะสปอร์ตหนังสีดำ ระบบปรับอากาศ 3 โซน จอแสดงข้อมูลการขับขนาด 11.9 นิ้ว จอขนาด 14.5 นิ้วสำหรับระบบ Infotainment ในห้องโดยสาร รวมไปถึงมีช่วงล่างสปอร์ต คาลิเปอร์เบรกสีแดง และล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้ว

รถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่จะถูกผลิตที่เม็กซิโกโดยเริ่มขายที่ยุโรปตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน 2025 นี้ด้วยราคาเริ่มต้น 63,400 ยูโรในเยอรมนีสำหรับตัวถังปกติ ขณะที่ตัวถัง Sportback ราคาเริ่มต้น 65,900 ยูโร