Audi Q3 เจเนเรชันใหม่ปรับดีไซน์ เพิ่มเทคโนโลยี มีหลากหลายขุมพลัง

Audi เผยโฉม Q3 รุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่สามหลังจากที่เจเนเรชันก่อนหน้านี้ทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2018 โดยรถรุ่นใหม่มาพร้อมกับการปรับดีไซน์ใหม่ทำให้รถซับคอมแพกต์เอสยูวีแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน พร้อมมีเทคโนโลยีมากขึ้น และมีหลากหลายขุมพลังให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด
ทางผู้ผลิตรถยนต์พรีเมียมจากเยอรมนียังไม่เปิดเผยข้อมูลด้านขนาดของ Audi Q3 ใหม่ออกมา ขณะที่ดีไซน์ของรถได้รับการปรับใหม่จากรุ่นก่อนหน้าด้วยการมีไฟหน้าแบบแยกขนาบข้างกระจังหน้าซิลเกิลเฟรม โดยมีไฟ Digital Daytime Running Light ด้านบนในแบบ Pixelated Design ที่มี 23 ส่วนภายในเพื่อให้เลือกไฟซิกเนเจอร์ได้ 4 แบบ รวมทั้งปรับคัสตอมอนิเมชันไฟเมื่อเข้าสู่รถและออกจากรถได้ ในขณะที่ไฟหน้า Digital Matrix LED อยู่ที่ทั้งสองฝั่งของกันชนหน้าประกอบด้วยโมดูล Micro-LED ที่ถูกอ้างว่าให้ความสว่างดีขึ้น
ด้านข้างของรถมีพื้นผิวตัวถังรถที่โค้งและซุ้มล้อขนาดใหญ่โดยที่มีล้อขนาด 17 ถึง 20 นิ้วสำหรับรถ ในขณะที่แนวเส้นหลังคาลาดเอียงลงด้านหลังเล็กน้อย ส่วนด้านหลังมีไฟท้าย Digital OLED ดีไซน์สไตล์เดียวกับไฟ Daytime Running Light พร้อมมีแถบไฟ LED ยาวเต็มความกว้างของรถอยู่ด้านล่าง และมีโลโก้ 4 ห่วงไฟเรืองแสงระหว่างไฟท้าย โดยทางผู้ผลิตยังระบุว่ารถเอสยูวีรุ่นใหม่ของตนได้รับการออกแบบเน้นแอโรไดนามิกทำให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้าน 0.30 Cd
ห้องโดยสารของรถมีจอแสดงข้อมูลการขับขนาด 11.9 นิ้ว และ จอ Infotainment ขนาด 12.8 นิ้วภายในกรอบเดียวกันโดยจอหลังถูกออกแบบให้เอียงทำมุมเข้าหาผู้ขับ ในขณะที่คอนโซลกลางของรถไม่มีคันเกียร์เลือกระบบขับเคลื่อนที่ถูกย้ายไปอยู่หลังพวงมาลัยแทน แต่มีแท่นชาร์จไร้สาย 15 วัตต์และช่องวางแก้วน้ำมาให้ใช้ที่คอนโซลกลาง โดยทางผู้ผลิตจะมี Light Package สำหรับเพิ่มไฟส่องสว่างทั้งที่แผงแดชบอร์ด คอนโซลกลาง และแผงประตูให้เลือกติด
นอกจากนี้ รถซับคอมแพกต์เอสยูวียังมีระบบเสียงพรีเมียม Sonos ลำโพง 12 ตำแหน่ง ระบบผู้ช่วยใช้เอไอในการทำงาน และใช้กระจกป้องกันเสียงกับกระจกหน้าต่างด้านหน้าของรถ รวมทั้งให้ความสบายผู้นั่งในเบาะหลังด้วยการปรับเลื่อนเบาะและปรับเอนหลังได้ ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีความจุ 488 ลิตรและสามารถเพิ่มเป็น 1,386 ลิตรได้ด้วยการพับเบาะหลัง
รถยังเน้นใช้วัสดุต่างๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างผ้า Impressum ที่ผลิตจากการรีไซเคิลโพลีเอสเตอร์ 100 เปอร์เซ็นต์ พรมปูพื้นมีโครงสร้างเป็น Econyl ที่รีไซเคิลมาจากไนลอนไฟเบอร์ซึ่งผลิตจากแหดักปลา สิ่งที่เหลือจากการผลิตพรม และขยะอุตสาหกรรม
ระบบขับเคลื่อนของรถมีหลากหลายทางเลือก เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร TFSI พร้อมระบบไมลด์ไฮบริด 150 แรงม้า เครื่องยนต์เบนซิน 2 สูบ 2.0 ลิตร TFSI 265 แรงม้า เครื่องยนต์ดีเซล TDI 150 แรงม้า และปลั๊กอินไฮบริดมีกำลังรวมจากระบบ 272 แรงม้า มาพร้อมแบตเตอรีความจุ 25.7 kWh ให้ระยะเดินทางเฉพาะไฟฟ้าได้ 119 กิโลเมตร รองรับการชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง 50 kW สามารถชาร์จไฟจาก 10-50 เปอร์เซ็นต์โดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ในส่วนช่วงล่างของรถนอกจากมีช่วงล่างมาตรฐานที่ถูกระบุว่าได้รับการพัฒนาเพื่อให้ประสบการณ์การขับที่ดีขึ้นแล้ว ยังมีช่วงล่าง Sport-tuned และช่วงล่างปรับตั้งได้ที่ใช้แดมเปอร์ทวิน-วาล์ว รวมไปถึงรถมากับระบบช่วยขับที่ได้รับการอัปเกรดมากขึ้น ขณะที่การขายรถจะเริ่มที่เยอรมนีตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้โดยมีราคาเริ่มต้น 44,600 ยูโร
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th