รู้จักรูปแบบของ “ยางสปอร์ต” ก่อนตกลงปลงใจ Part I : ดอกยางสปอร์ตแบบ “Asymmetric” หรือ “อสมมาตร” ดีจริงดังเขาว่า ???
การแต่งรถก็จะเริ่มกันจาก “เปลี่ยนล้อและยาง” เป็นเรื่องปฐมบทของทุกคน ถามว่าล้อและยางเดิมติดรถจากโรงงานไม่ดีหรืออย่างไร ??? ทำไมถึงต้องดิ้นรถเปลี่ยนกัน เราจะเห็นเป็นปกติ ที่รถใหม่ป้ายแดงออกจากโชว์รูมหมาดๆ พวกเลี้ยวเข้าร้านเปลี่ยนล้อซิ่งๆ กับยาง (แนว) สปอร์ต กันแล้ว เรียกว่าร้านยางตาเป็นมันเพราะยางติดรถยังใหม่ซิงๆ อยู่เลย (ได้ราคาแน่นอน) แต่ว่า ยางแนวสปอร์ตมันก็มีอยู่หลายแบบ หลายลวดลาย ซึ่งผู้ผลิตก็จะทำออกมาเพื่อ “ดึงดูด (ตังค์) ลูกค้า” ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะซื้อเพราะ “ความสวยงาม” เป็นหลัก แต่ว่า ลายดอกยางแต่ละแบบนั้น มันมีคุณสมบัติ จุดเด่น จุดที่ต้องพิจารณา อย่างไรบ้าง เป็นสิ่งที่เราควรทราบก่อนจะเลือกซื้อครับ…
สำหรับ Part I นี้ จะขอพูดถึงดอกยางสปอร์ตแบบ “Asymmetric” หรือ “แบบอสมมาตร” ที่ตอนนี้ฮิตกันค่อนข้างมาก ลักษณะของดอกยางทั้งสองฝั่ง (บนเส้นเดียวกัน) “จะไม่เหมือนกันเลย” (ให้ดูรูปประกอบ) ซึ่งปกติถ้ายางแบบ Symmetric หรือ “แบบสมมาตร” ทั่วไป ดอกยางทั้งสองฝั่งจะเหมือนกัน แล้วคุณสมบัติที่แท้จริงของมัน คืออะไร…
ข้อดี
- ดีไซน์ลวดลายดอกยางได้สวยแปลก หลากหลาย : ใช้ใน “ยางซิ่ง” หรือ “ยางสปอร์ต” ที่ลุคต้องดูแปลกตาและเฟี้ยวๆ หน่อย โดยเน้นตลาดวัยรุ่นและวัยแรด (อย่างผม) ถ้าดอกยางทั่วไปมันก็ไม่เตะตาเท่าไร ซึ่งดอกยางแบบ Asymmetric นี้ จริงๆ ก็มีมานานแล้วตั้งแต่ยุค 90’s มักจะมีเฉพาะยางสปอร์ตรุ่น Top แต่ตอนนี้ด้วยเทคโนโลยีและ “แฟชั่น” ก็ทำให้กลับมาผลิตและฮิตกันอีกครั้งหนึ่ง อีกอย่าง มันสามารถออกแบบดอกยางได้หลากหลายแบบในยางเส้นเดียว เพื่อครอบคลุมในการใช้งาน…
- ดอกยาง มีลักษณะต่างกัน : ยางแบบ Asymmetric นี้ จะมีกำกับไว้ว่า “Inside” หรือ “Outside” ซึ่งแก้มยางก็มีความยืดหยุ่นที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่ที่แน่ๆ ด้านนอก (Outside) จะมีชั้นผ้าใบที่หนากว่านิดหน่อย เพราะมันทำหน้าที่รับแรงในการเข้าโค้ง และส่วนสำคัญ มันจะมี “Rim Guard” ป้องกันขอบล้อเป็นรอยเวลาเราก๊งๆ ถอยเอาล้อถูฟุตบาทเล่น ส่วนแก้มยางด้านในจะไม่มี เพราะมันไม่โดนอะไรอยู่แล้ว ส่วนดอกยางด้านนอกก็จะเป็นบั้งที่ใหญ่กว่า เอาไว้รับแรงเวลาเข้าโค้ง…
ข้อควรพิจารณา
- ไม่ควรใส่สลับด้าน : หลายเคสที่เคยเจอ พอด้านใดด้านหนึ่งสึก ก็ “สลับด้าน” กันเสียเลย เข้าใจว่าอาจจะยังไม่พร้อมเปลี่ยน แต่ต้องทราบครับครับ ว่าสมรรถนะการยึดเกาะมันลดลงจริงๆ และด้านในก็ไม่มี Rim Guard มาปกป้องขอบล้อคุณแน่ๆ เอาเป็นว่า ใช้ได้แต่อย่าขับเร็วแล้วกัน ถ้าพร้อมแล้วก็รีบไปเปลี่ยนใหม่จะดีกว่า หรืออีกทางหนึ่ง หากขี้เกียจเจอเคสแบบนี้ ก็ไปใช้ยางแบบ “สองทิศทาง” ทั่วๆ ไป ที่สามารถสลับด้านกันได้…
บทความนี้เจตนาจะให้ “เป็นไกด์” ในการพิจารณาเลือกยางแบบ Asymmetric หรือ แบบอสมมาตร แบบเบื้องต้นที่คุณจะต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้ และถ้าตกลงจะรับมันมาอยู่ด้วยกันแล้ว เน้นว่าควรจะ “ใช้ให้ถูกต้อง” เพื่อให้ยางแสดงประสิทธิภาพได้เต็มที่ หากใส่ผิดทิศผิดทาง ยางก็จะด้อยประสิทธิภาพลงอย่างมาก ซึ่งเหตุนี้จะไม่เกิดขึ้น หากเราใส่ใจและรู้จักมันครับ…
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th