Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
Bizz News
Home›Auto News›Bizz News›บทพิสูจน์ที่สนุก ท้าทาย ครบรส กับเส้นทางที่ 3 กาญจนบุรี – ทวาย ใน “อีซูซุ คาราวานสัญจร 2019”

บทพิสูจน์ที่สนุก ท้าทาย ครบรส กับเส้นทางที่ 3 กาญจนบุรี – ทวาย ใน “อีซูซุ คาราวานสัญจร 2019”

By Sanchaval J.
August 31, 2019
1065
0
Share:

เดินทางมาถึงเส้นทางที่ 3 แล้ว สำหรับ “อีซูซุ คาราวานสัญจร 2019” ซึ่งครั้งนี้ ประชาคมอีซูซุจากทั่วประเทศ ร่วมท่องเที่ยวคาราวานครอบครัวแบบทริปเดียวจบ ครบทุกรส โดยนำสมาชิกประชาคมอีซูซุ 25 คันจากทั่วประเทศ และคณะสื่อมวลชนร่วมกว่า 130 ชีวิต ขับรถท่องเที่ยวพร้อมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในรูปแบบคาราวานทางรถยนต์สู่ “เมืองทวาย” ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ของประเทศเมียนมาร์ ดินแดนแหล่งรวมอารยธรรมที่ยังคงไว้ซึ่งความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามิเสื่อมคลายของชาวเมียนมาร์ ชมวิถีชีวิตและศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ วัดวาอารามอันเก่าแก่ และพระเจดีย์องค์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองทวายอันงดงาม

เริ่มต้นการเดินทาง สมาชิกคาราวานนัดพบกัน ณ บริษัท อีซูซุกาญจนบุรี จำกัด โดยมี  คุณปิยพัชร์ วงศ์โดยหวัง ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกาญจนบุรี  มิสเตอร์เอช คาโต้ ผู้จัดการฝ่ายขายดีลเลอร์-บี บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมให้การต้อนรับและตีธงปล่อยขบวนรถอีซูซุคาราวานสัญจรเส้นทางที่ 3 ซึ่งเป็นเส้นทางระหว่างประเทศ คณะคาราวานทั้ง 25 คัน ประกอบด้วยรถอีซูซุมิว-เอ็กซ์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ รถอีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ และรถอีซูซุดีแมคซ์ วี-ครอส 4×4  ต่างขับรถมุ่งสู่ด่านพุน้ำร้อน (ประเทศไทย) ซึ่งห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ราว 1 ชั่วโมง ไปยังด่านติกิ (ประเทศเมียนมาร์)  เพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองทวาย ดินแดนทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมาร์ ด้วยระยะทางเพียง 170 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางถึงกว่า 8 ชั่วโมง

 

เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน ทำให้ต้องพบกับอุปสรรคของเส้นทางในหลากหลายรูปแบบ ทั้งดินโคลน หลุมบ่อจำนวนมากที่ถูกน้ำฝนกัดเซาะ ตลอดจนต้องผ่าน “เขาช้างร้อง” ที่สูงชัน และคดโค้งหลายช่วง ซึ่งขาไปนั้น ทางด้านซ้ายมือของเส้นทาง เราจะได้เห็นวิวของแม่น้ำตะนาวศรีที่สีแดง ไหลเชี่ยว เนื่องจากฝนตก บางเส้นทางมีน้ำท่วมขัง แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใดด้วยสมรรถนะอันแข็งแกร่ง และช่วงล่างที่ทนทานของอีซูซุ จึงทำให้สามารถผ่านมาได้อย่างปลอดภัย จบทริปวันแรกด้วยงานเลี้ยงอันแสนอบอุ่น ประทับใจ พร้อมการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวเมืองทวายในชื่อชุด “เสน่ห์ตะนาวศรี” ที่อ่อนช้อยไม่แพ้ทางนาฏศิลป์ของบ้านเรา พร้อมมีการแสดง “ระบำหม้อน้ำ”  ซึ่งมีการนำหม้อที่ใส่น้ำลงไปจริงๆ มาเป็นไฮไลท์ภายในงานเลี้ยงต้อนรับยามค่ำคืน

เช้าวันที่สอง  สมาชิกคาราวานอีซูซุได้ท่องเที่ยวใน “เมืองทวาย” ซึ่งแม้จะพบกับช่วงพายุฝนในวันนี้ แต่คณะของเราก็ไม่หวั่น ยังคงเดินทางท่องเที่ยวสู่จุดหมายตามกำหนดการที่ตั้งใจไว้ โดยวัดแห่งแรกที่ไปคือ “วัดชินตาเลียว” (Reclining Buddha of Dawei) หรือพระนอนเมืองทวาย เป็นพระนอนองค์ที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลตะนาวศรี และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศเมียนมาร์ มีความยาวถึง 74  เมตร สูง 21 เมตร อายุเกือบ 100 ปี  เป็นพระพุทธรูปปางปรินิพพาน โดยสังเกตได้จากเท้าของพระพุทธรูปจะสร้างแบบเสมอกัน พระนอนองค์นี้ตามประวัติเล่าว่า มี 1 ในพระ 14 รูปแห่งเมียนมาร์ที่เก่งมาก สามารถท่องพระไตรปิฏกได้ มาสร้างไว้ และจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ ต่อมาเพื่อระลึกถึงเจ้าอาวาสท่านนี้ ชาวบ้านจึงได้นำพระไตรปิฎก 3 เล่มบรรจุไว้ใต้เศียรของพระพุทธรูป

วัดต่อมาคือ “วัดชินเต๊าป่ง” (Shin Taunk Pone Pagoda) เป็น 1 ใน 9 วัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวทวายเลื่อมใส คำว่า เด๊าป่ง หมายถึง มากองแล้วฝังเอาไว้ การเดินทางไปวัดนี้ต้องนั่งรถสองแถวจากด้านล่างขึ้นไปประมาณ 10 นาที เนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 2,000 กว่าฟุต มีทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถชมวิวเมืองทวายทั้งหมดได้จากระเบียงวัด แต่น่าเสียดายวันที่คณะคาราวานของเราไปนั้น ได้พบแต่ละอองฝน และหมอกหนา เนื่องจากฝนตกหนัก วัดแห่งนี้ตามตำนานเล่าว่าพระมเหสีในอดีตได้ยินว่าจะมีพญานกยูงสีทองมาเดินเล่นในป่า พระองค์อยากได้มาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ราชวังของตน จึงสั่งให้นายพรานฝีมือดีไปตามล่า นายพรานวิ่งตามไปจนถึงเนินเขา แต่ปรากฏว่าไปเจอพระอรหันต์แทนนกยูง พระท่านเทศนาจนนายพรานเกิดเห็นธรรม จึงเอาธนูและข้าวของฝังไว้พร้อมสร้างเจดีย์ขึ้นมา หลังจากนั้นนายพรานจึงออกบวช

จุดหมายต่อมาคือการหาซื้อของฝากจากเมืองทวาย ที่ตลาด Mingalar หรือตลาด 100 ปี ซึ่งตลาดนี้จะมีสินค้าหลากหลายให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นผงทานาคาสำหรับประทินผิวของสาวๆ ถั่วตัดของอร่อยขึ้นชื่อของประเทศเมียนมาร์ กุ้งแห้งอันเลื่องชื่อ รวมถึงผ้าพื้นเมืองที่เป็นลวดลายเฉพาะ สีสันสดใส มีขายแค่ที่เมืองทวายเท่านั้น ทุกคนต่างเลือกซื้อสินค้ากลับมาเป็นของฝากกันอย่างถ้วนหน้า จ่ายเงินกันเป็นหมื่นจ๊าดเลยทีเดียว จากนั้นก็แวะเติมพลังมื้อกลางวัน ณ ร้านกุหลาบ ซึ่งตั้งอยู่ภายในสนามกอล์ฟเมืองทวาย อาหารอร่อย รสชาติดี พนักงานบริการเป็นเยี่ยม

เมื่ออิ่มท้อง  สมาชิกคาราวานอีซูซุได้เดินทางต่อไปยัง “วัดชินเต๊าเถ่ง” (Shin Tauk Htein) 1 ใน 9 วัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเมียนมาร์เลื่อมใส  ตั้งอยู่บนเนินเขาในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้ตัวเมืองทวาย ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปเก่าแก่ 3 องค์ที่ชาวบ้านศรัทธามาแต่โบราณ ตำนานเล่าว่ามีเกษตรกร 2 สามีภรรยา ไปขุดเนินนี้แล้วเจอพระพุทธรูปอายุประมาณ 1,000 ปี จึงสร้างวัดขึ้นมาตรงจุดที่พบพระพุทธรูป ชาวเมียนมาร์เชื่อว่าท่านเป็นพระพุทธรูปมีชีวิต เพราะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมจนถึงปัจจุบันมีขนาดใหญ่ขึ้น 5 นิ้ว และบางครั้งสีตาของพระพุทธรูปก็เปลี่ยนไปจากปกติ เชื่อกันว่าเมื่อมาที่นี่สามารถขอให้ได้ฌาน มองอนาคตได้  และบรรลุในธรรม

 

วัดที่ 4 ของทริปนี้คือ “วัดเมียวยิต”  (Myaw Yit Pagoda) ที่เกาะลอย Se Pin  เป็นวัดหนึ่งของทวายที่มีพื้นที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ติดชายทะเลฝั่งอันดามัน มีสะพานปูนทอดยาวไปยังเกาะที่เป็นที่ตั้งของวัดเมียวยิต และเจดีย์เมียวยิต นักท่องเที่ยวจะเห็นชายหาดยาวเรียบทะเล มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนโขดหินก่อนเข้าถึงวัดเมียวยิต ด้านในวัดเมียวยิตมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ และเจดีย์อีกมากมาย วัดนี้จึงเป็นวัดที่นักท่องเที่ยว และชาวเมียนมาร์มาสักการะเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากจะศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังได้เห็นวิวสวย ๆ ริมทะเลอันดามัน แต่น่าเสียดาย ช่วงที่คณะเราไปถึงมีพายุฝน ลมแรงมาก แม้ตัวจะแทบปลิว แต่ก็ไม่อาจต้านทานความศรัทธาของชาวคณะเราได้ ทุกคนต่างเดินข้ามสะพานมุ่งหน้าไปยังเกาะลอย เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ที่แห่งนี้ ให้แคล้วคลาดปลอดภัยตลอดการเดินทาง จากนั้นจึงเดินทางไปรับประทานอาหารค่ำ  ณ ร้าน Bamboo Garden อิ่มอร่อยกับอาหารทะเล กุ้งล็อบสเตอร์ตัวโตจากทะเลทวาย สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมคาราวานเป็นอย่างยิ่ง

อีกสถานที่ที่พลาดไม่ได้เลย “วัดชเวตองซา” ร่วมสักการะพระเจดีย์ชเวตองซา (Shwe Taung Sar Zedi) วัดสำคัญของเมืองทวาย มีองค์พระเจดีย์ที่ใหญ่และสูงที่สุดในเมืองทวาย จำลองมาจากเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปโลกะมารชินปางมารวิชัย อายุ 140กว่าปี วัดแห่งนี้ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2304 มีอายุมากกว่า 250 ปี มีพิพิธภัณฑ์แสดงวัตถุโบราณต่างๆ มากมาย อาทิ ปืนใหญ่สมัยกรุงศรีอยุธยา พระพุทธรูปสำริดศิลปะแบบไทย และดาบสมัยโบราณ  ชาวทวายนิยมมาไหว้พระขอพรยามค่ำคืน จบทริปแบบอิ่มบุญ อิ่มใจกันถ้วนหน้า

ปิดท้ายด้วย  “วัดชินดะเวย” (Shin Dat Wae Pagoda) อีก 1 ใน 9 วัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเมียนมาร์เลื่อมใส  วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดของเมืองทวาย มีประวัติยาวนานกว่าพันปี นับเป็นการปิดท้ายทริปได้อย่างประทับใจ

กิจกรรม “อีซูซุคาราวานสัญจร” ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถอีซูซุทั่วประเทศอย่างมาก ก่อเกิดประชาคมอีซูซุหลายครอบครัว รวมตัวกันเพื่อร่วมกิจกรรมสุดแสนสนุกเช่นนี้ในทุกๆ ปี   ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์เพื่อกระตุ้นศรษฐกิจของชาติแล้วนั้น ยังช่วยเสริมสร้างให้ประชาคมอีซูซุมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิต ที่เชื่อว่าคุณจะไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัสความสนุก ครบรสที่ไหนได้อีกในประสบการณ์การท่องเที่ยว ร่วมติดตามเรื่องราวความสนุกของ “อีซูซุคาราวานสัญจร” ประจำปี 2019 ใน เส้นทางสุดท้ายภาคใต้ ได้ที่ www.isuzu-tis.com 

 

เรื่อง : สัญชวัล จินดารัศมี

ขอบคุณข้อมูล: Isuzu

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRAND PRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

TagsIsuzu Touring Caravan 2019คาราวานสัญจรอีซูซุ คาราวานสัญจร 2019
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • Lynk & Co 10 EM-P รถซีดานปลั๊กอินไฮบริดใช้ไฟฟ้าเดินทางได้เกือบ 200 กิโลเมตร
  • Koenigsegg Sadair’s Spear ไฮเปอร์คาร์รุ่นใหม่เน้นปรับปรุงสมรรถนะสำหรับสนามแข่ง
  • Lancia Ypsilon HF ตัวแรงของรถไฟฟ้ารุ่นเล็ก
  • ฟอร์ด ฉลองครบรอบ 29 ปี Growing Together-ส่งโปรฯ ช่วยผ่อน 29 งวด พร้อมแคมเปญพิเศษตอบแทนลูกค้า
  • New Mazda CX-3 Essential ขาย 4 รุ่น เริ่มต้นเพียง 699,000 บาท

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram