Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
Report
Home›Special Scoop›Report›สัญลักษณ์บนหน้าปัดรถ บอกอะไร?รถของคุณได้!!!

สัญลักษณ์บนหน้าปัดรถ บอกอะไร?รถของคุณได้!!!

By Poonthavee Suwathikul
January 30, 2018
283906
0
Share:

ทุกครั้งที่สตาร์ทรถ แว๊บนึงบนหน้าปัดคนขับจะมีไฟสัญลักษณ์ขึ้นมาเต็มไปหมด บางอันก็พอจะรู้ความหมายหรือพอเดาได้ แต่อีกหลายสัญลักษณ์คนขับรถไม่มีทางรู้จนกว่าจะเกิดความผิดปกติของเครื่องยนต์หรือระบบบางอย่างกำลังมีปัญหา!!!  สัญลักษณ์บนหน้าปัดรถ

สัญลักษณ์บนหน้าปัดรถ

เริ่มจากสัญลักษณ์พื้นฐาน หมายเลข

<1> ไฟตัดหมอกหน้า,

<3> ไฟตัดหมอกหลัง,

<20> ไฟสูง,

<22> ไฟภายนอกรถกำลังถูกใช้งาน,

<24> เตือนระบบไฟผิดปกติหรือหลอดไฟขาด,

<44> ไฟหรี่/ไฟต่ำ และ <7> สัญลักษณ์ไฟเลี้ยวขวา-ซ้ายที่หากเรากดปุ่มสัญญาณไฟฉุกเฉิน (Hazard) จะกระพริบพร้อมกัน

สัญลักษณ์บนหน้าปัดรถ

สัญลักษณ์เทคนิคพื้นฐาน <17> สำหรับรถเกียร์ธรรมดาเตือนให้เหยียบคลัตช์ก่อนสตาร์ท และ <18> เหยียบเบรกก่อนสตาร์ทในรถเกียร์ออโต้เมติกที่เป็นปุ่ม Push Start,

<19> พวงมาลัยล็อกจะเกิดเฉพาะรถยนต์ที่ยังบิดกุญแจสตาร์ท และ <30> เตือนให้รัดเข็มขัดนิรภัยโดยรถบางรุ่นจะมีสัญญาณเสียงร้องเตือนด้วย

<31> หมายถึงเกียร์รถยนต์อยู่ในตำแหน่ง P (Parking) คล้ายๆ กับ <40> จะเตือนเวลาคุณลืมปลดเบรกมือ,

<51> ไฟเตือนประตูรถปิดไม่สนิทที่ปัจจุบันรถรุ่นใหม่จะแสดงให้เห็นว่าประตูฝั่งไหนปิดไม่สนิท,

<52> ฝากระโปรงหน้าปิดไม่สนิท หากขับด้วยความเร็วแรงลมอาจดันฝากระโปรงอาจขึ้นมาตีกระจกหน้าแตกได้,

<53> ไฟเตือนน้ำมันหมด หากขึ้นเตือนรถส่วนใหญ่จะขับได้อีกราว 50 กิโลเมตรขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร และ <59> ไฟเตือนฝากระโปรงท้ายปิดไม่สนิท

<34> Service Required จะขึ้นเตือนเมื่อรถยนต์ของคุณ (เฉพาะบางแบรนด์) ถึงเวลาเข้าเช็คระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง, <43> Fault Problem ตรวจพบความผิดปกติของเครื่องยนต์,

<45> ไส้กรองอากาศสกปรก และ <50> สัญญาณเตือนมีน้ำอยู่ในกรองน้ำมันเชื้อเพลิงขณะที่ <10> Information Indicator จะเป็นแสดงข้อมูลความผิดปกติของรถยนต์ตั้งแต่กุญแจรีโมตไม่อยู่ในรัศมีที่กำหนด, กำลังไฟของแบตเตอรี่ และอีกมากมายขึ้นอยู่กับผู้ผลิตรถยนต์กำหนด แต่หากกำลังไฟของเครื่องยนต์ต่ำกว่าระดับปกติจะมีสัญลักษณ์

<32> ขึ้นมาเตือนเข้ามาข้างในรถหากต้องใช้กุญแจบิดก็อาจจะมีสัญญาณเตือน

<13> Ignition Switch Warning หากระบบกุญแจมีปัญหา,

<14> หมายความว่ากุญแจรีโมตไม่อยู่ในรถยนต์หรือรัศมีที่กำหนด และ <15> เตือนว่าแบตเตอรี่กุญแจรีโมตใกล้หมด

สัญลักษณ์บนหน้าปัดรถ
2 สัญลักษณ์การทำงานของไฟหน้าที่เป็นเทคโนโลยีในรถยนต์ระดับพรีเมียม

<35> Adaptive Lighting ระบบไฟหน้าส่องสว่างตามการหักเลี้ยวของพวงมาลัย และ

<36> Headlight Range Control ไฟหน้าปรับอัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ที่ถึงคุณจะดีดไฟสูงค้างก็ไม่ต้องกลัวว่าจะแยงตารถคันหน้าหรือเลนตรงข้ามเพราะระบบจะควบคุมความสว่างให้เอง

สัญลักษณ์บนหน้าปัดรถ
กลุ่มรถสปอร์ตหรือเครื่องยนต์แรงๆ

<37> จะเตือนความผิดปกติการทำงานของสปอยเลอร์หลัง,

<38> เตือนความผิดปกติการเปิด-ปิดหลังคาสำหรับรถแบบเปิดประทุน,

<27> ความผิดปกติของระบบช่วงล่างแบบถุงลม,

<56> สัญลักษณ์ปรับระดับความแข็งของโช๊คอัพตามสไตล์การขับของแต่ละคน และการเปิด-ปิดระบบควบคุมการทรงตัว

<60> Stability Control

สัญลักษณ์บนหน้าปัดรถ

ระบบที่ปัดน้ำฝน และช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์การขับ

<4> สัญลักษณ์เตือนน้ำยาทำความสะอาดกระจกหน้ารถใกล้หมด

<61> ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณฝนทำงานร่วมกับ

<64> ระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และ <63> ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง โดยสัญลักษณ์ของกระจกหน้าจะเป็นหมายเลข

<58> หากระบบอัตโนมัติกลุ่มนี้มีปัญหาสัญลักษณ์ไฟเตือนในหมายเลข

<8> จะปรากฏขึ้น ตามคำแนะนำควรเข้าไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการรถยนต์เพื่อหาสาเหตุ จากการที่อาจเป็นปัญหาของระบบควบคุมไฟหน้าอัตโนมัติของรถได้เช่นกัน

ต่อด้วยสัญลักษณ์ที่บ้านเราคงไม่มีโอกาสได้เห็น เพราะต้องขับในสภาพอากาศหนาวใกล้ศูนย์องศา แต่ช่วงหลังคนไทยที่ไปเที่ยวต่างประเทศนิยมเช่ารถขับกันมากขึ้น เก็บไว้เป็นข้อมูลก็ไม่เสียหาย

หมายเลข <9> Winter Mode ตรงตามตัวคือการขับในสภาพที่มีน้ำแข็งหรือหิมะเกาะพื้นผิวถนน รายละเอียดจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับค่ายรถยนต์ แต่หลักๆ คือรถจะออกตัวโดยข้ามไปใช้เกียร์สองหรือสามแทนเพื่อไม่ให้เกิดอาการลื่นไถล เท่าที่เห็นในบ้านเรารถยนต์ที่ติดโหมดนี้มาให้จะมี MG ที่แนะนำให้ใช้งานช่วงฝนตก

และหมายเลข <12> Frost Warning เตือนน้ำแข็งเกาะ โดยแบ่งเป็น 2 ระดับตามอุณหภูมิภายนอกรถ เริ่มเตือนครั้งแรกตอนใกล้ 1 องศาเซลเซียส เพื่อให้คนขับรู้ล่วงหน้าว่าอาจมีน้ำแข็งเกาะ และสภาพอากาศหนาวขึ้นสัญลักษณ์ไฟสีเหลืองจะเปลี่ยนเป็นสีแดง

สลับมาที่สัญลักษณ์กลุ่มดีเซล

<11> Glow Plug Light/Diesel Pre-Heat Warning คล้ายรูปขดลวดจะปรากฏขึ้นมาเวลาเครื่องยนต์เย็น โดยอุปกรณ์ที่คนไทยเรียกว่า “หัวเผา” จะเร่งอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ให้สูงขึ้นตามที่กำหนดก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์ (โดยรถบางรุ่นจะไม่สามารถสตาร์ทได้หากสัญลักษณ์นี้ไม่ดับ),

<25> Diesel Particulate Filter Warning (DPF) หรืออุปกรณ์กรองเขม่าไอเสีย จะขึ้นเตือนหากมีปริมาณเขม่าสะสมมากเกินกำหนด บางครั้งแก้ไขด้วยการขับบนทางด่วนใช้ความเร็วสูงกว่า 60 กม./ชม. ติดต่อกันราว 10 นาที แต่หากไฟสัญญาณนี้ยังไม่ดับต้องเข้าไปให้ศูนย์บริการตรวจสอบ

เช่นเดียวกับ <41> Water in Fuel Filter หมายถึงมีน้ำในกรองน้ำมันเชื้อเพลิงควรรีบแก้ไขก่อนจะเข้าสู่ระบบเครื่องยนต์และกรณีลากจูงหรือพ่วงเทรลเลอร์สัญลักษณ์หมายเลข <26> Trailer Tow Hitch Warning จะขึ้นเตือนหากติดตั้งไม่ถูกต้อง

มาถึงสัญญาณเตือนที่อาจส่งผลต่อสมรรถนะการขับ

<2> Power Steering Warning Light เตือนน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ต่ำกว่าปกติ ถ้ารถคุณมีอายุการใช้งานหลายปีควรให้ช่างตรวจอย่างละเอียดว่ามีจุดรั่วหรือไม่จะได้ไม่เสียเวลากลับเข้าศูนย์บริการอีกรอบ,

<5> สัญลักษณ์เตือนผ้าเบรกบาง โดยจะแยกกับ <49> จะเป็นการเตือนหากระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) มีความผิดปกติ,

<21> สัญลักษณ์เตือนลมยางอ่อน,

<39> ระบบถุงลมนิรภัยมีปัญหา แต่ไม่ร้ายแรงเท่า <42> หมายถึงว่าระบบสั่งตัดการทำงานของถุงลมนิรภัยควรรีบเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบ

<48> อุณหภูมิเครื่องยนต์สูง ควรจอดพักเพื่อให้ความร้อนลดลงหรือเข้าตรวจเช็คความผิดปกติ,

<54> สัญญาณเตือนระบบเกียร์อัตโนมัติมีปัญหา โดยอาจเกิดได้หลายสาเหตุเหมือนกับ <57> สัญญาณเตือนระดับน้ำมันเครื่องต่ำ และ <62> การเตือนความผิดปกติเครื่องยนต์ที่หากเห็นสัญลักษณ์นี้ขึ้นมาควรจอดข้างทางทันที


อีกสัญลักษณ์เตือนที่ค่อนข้างร้ายแรง และคนขับรถส่วนใหญ่ไม่ค่อยเจอกันบ่อย

<29> Catalytic Converter Warning เป็นการแจ้งว่าอุปกรณ์ทำหน้าที่ลดไอเสียภายในเครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงหรือทำงานผิดปกติถึงจะขับได้ต่อ แต่ก็ควรเข้าไปตรวจเช็คความผิดปกติโดยเร็ว

สัญลักษณ์บนหน้าปัดรถ

สุดท้ายจะเป็นสัญลักษณ์ของระบบช่วยเหลือการขับขี่เริ่มจากที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย

<6> ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ในรถยนต์บางรุ่นจะทำงานร่วมกับ <55> ระบบจำกัดความเร็ว,

<46> ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และใครที่เหยียบคันเร่งนิ่งๆ จะได้เห็นสัญลักษณ์ <70> ECO ชื่นชมว่าคุณขับได้ประหยัดน้ำมัน โดยอัพเกรดความปลอดภัยขึ้นมาจะเป็น <28> ระบบเตือนขับออกนอกเลน และ <33> ระบบช่วยจอดที่จะสะดวกสบายแค่ไหนขึ้นอยู่กับราคารถยนต์  สัญลักษณ์บนหน้าปัดรถ

 

 

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: อินเตอร์เน็ต

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

TagsCar Dashboard - Maintaincar GuruCar TipsDashboardinformationสัญลักษณ์บนหน้าปัดรถหน้าปัดรถยนต์
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • Lynk & Co 10 EM-P รถซีดานปลั๊กอินไฮบริดใช้ไฟฟ้าเดินทางได้เกือบ 200 กิโลเมตร
  • Koenigsegg Sadair’s Spear ไฮเปอร์คาร์รุ่นใหม่เน้นปรับปรุงสมรรถนะสำหรับสนามแข่ง
  • Lancia Ypsilon HF ตัวแรงของรถไฟฟ้ารุ่นเล็ก
  • ฟอร์ด ฉลองครบรอบ 29 ปี Growing Together-ส่งโปรฯ ช่วยผ่อน 29 งวด พร้อมแคมเปญพิเศษตอบแทนลูกค้า
  • New Mazda CX-3 Essential ขาย 4 รุ่น เริ่มต้นเพียง 699,000 บาท

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram