Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
News
Home›Motorsport›News›ปอร์เช่ 911 RSR ตัวแข่ง GT สุดแรงรุ่นล่าสุด

ปอร์เช่ 911 RSR ตัวแข่ง GT สุดแรงรุ่นล่าสุด

By พุทธิ ผาสุข
November 25, 2016
4387
0
Share:

ปอร์เช่เปิดศักราชแห่งการประลองความเร็วให้แก่ฤดูกาลแข่งขัน 2017 ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า ด้วยรถแข่ง GT รุ่นล่าสุดที่ผ่านการพัฒนาขึ้นใหม่หมดจด ปอร์เช่ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) ใหม่ ก่อกำเนิดตัวตนของรถสนามสายพันธุ์แกร่ง เพื่อลงชิงชัยตามข้อกำหนดของการแข่งขันรถแข่งรุ่น GT รายการ Le Mans 24 ชั่วโมง

ผสมผสานเทคโลยีวิศวกรรมยานยนต์ล้ำยุค ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างน้ำหนักเบาพิเศษ นวัตกรรมแห่งอนาคตหลากหลายที่อัดแน่นอยู่ภายในขุมพลังเครื่องยนต์ 6 สูบนอน ขนาดความจุ 4.0 ลิตร ติดตั้งบริเวณด้านหน้าของเพลาล้อหลัง พร้อมระบบจ่ายเชื้อเพลิงตรงเข้าห้องเผาไหม้และระบบควบคุมการทำงานของวาล์วที่โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการทำงานชั้นเลิศ ปอร์เช่ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) ใหม่ จะถูกส่งลงสนามเพื่อประกาศศักดาแห่งความเกรียงไกรเป็นครั้งแรกในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ Daytona 24 ชั่วโมง ช่วงเดือน มกราคม 2017

911_rsr_02

911_rsr_01

Dr Frank-Steffen Walliser หัวหน้าส่วนงานมอเตอร์สปอร์ตของปอร์เช่ กล่าวว่า “ด้วยงานออกแบบที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ตสายพันธุ์ 911 อย่างไม่เปลี่ยนแปลง นี่คือวิวัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของรถแข่งรุ่น GT จากปอร์เช่ ทั้งนี้รถแข่ง 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) ใหม่ ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบในทุกจุด ทั้งระบบช่วงล่าง โครงสร้างตัวถัง แนวคิดด้านอากาศพลศาสตร์ของรถ เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ล้วนผ่านการออกแบบและขัดเกลาขึ้นอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน ผลลัพธ์ดังกล่าวช่วยให้ทีมดีไซเนอร์สามารถทำการติดตั้งชุดดิฟฟิวเซอร์หลังขนาดใหญ่ พร้อมปีกหลังทรงสูงสำหรับการแข่งขันในฐานะรถแข่งสมรรถนะสูง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสุดยอดรถสนาม 919 ไฮบริด แอลเอ็มพี 1 (919 Hybrid LMP1) อุปกรณ์ดังกล่าวทำหน้าที่สร้างแรงกดและเพิ่มเติมประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ให้แก่ตัวรถได้อย่างยอดเยี่ยม

911_rsr_08

911_rsr_07

911_rsr_06

สำหรับ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) ปอร์เช่ได้มุ่งเน้นในส่วนของขุมพลังเครื่องยนต์เป็นพิเศษ เพื่อการได้มาซึ่งแหล่งกำเนิดพละกำลังยุคใหม่ ในแบบของเครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศอันทันสมัยและมีน้ำหนักเบา ทีมวิศวกรทุกคนทุ่มเทพัฒนาอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว จากข้อกำหนดของการเข้าร่วมแข่งขัน LM-GTE ซึ่งวางหลักเกณฑ์ที่เปิดโอกาสให้มีความเท่าเทียมกันแม้ด้วยแนวคิดในการออกแบบที่หลากหลาย ทั้งยังครอบคลุมถึงลักษณะของแรงบิดที่มีความแตกต่างกันของเครื่องยนต์เทอร์โบและเครื่องยนต์ธรรมดา ตามข้อจำกัดของขนาดความจุเครื่องยนต์อันเข้มงวด เครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ สามารถรีดพละกำลังมหาศาลออกมาได้ถึง 510 แรงม้า (375 กิโลวัตต์) ถ่ายทอดพลังผ่าน Shift paddles บนพวงมาลัยไปยังชุดเกียร์ต่อเนื่อง 6 จังหวะ โครงสร้างผลิตจากแมกนีเซียม ส่งต่อไปยังพื้นถนนด้วยล้อขับเคลื่อนคู่หลังขนาดความกว้างถึง 31 เซนติเมตร เครื่องยนต์ 6 สูบนอนประสิทธิภาพสูงดังกล่าวผ่านการพัฒนามาจนถึงขีดสุด ซึ่งหลังจากนี้จะนำไปติดตั้งอยู่ในปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์ (911 GT3 R) และ 911 จีที3 คัพ (911 GT3 Cup) ยนตกรรมสนามระดับหัวแถวของตระกูลรถแข่ง GT เช่นเดียวกัน

911_rsr_13

911_rsr_09

ในอดีตที่ผ่านมา ปอร์เช่สรรสร้างยานยนต์เปี่ยมสมรรถนะจากสายพันธุ์รถสปอร์ต 911 ในตำนาน ให้ออกมาเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของบรรดาผู้นิยมชมชอบความเร็วอยู่ไม่เคยขาด นับตั้งแต่การถือกำเนิดบนความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของปอร์เช่ 911 จีที1 (911 GT1) ในปี 1996 หลังจากนั้นในปี 1998 911 จีที1 (911 GT1) สามารถคว้าชัยชนะครั้งที่ 16 จากการแข่งขันรายการ Le Mans 24 ชั่วโมงได้ ในฐานะรถแข่งรุ่น GT1 ที่ทำความเร็วได้สูงที่สุด

911_rsr_04

สำหรับ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) ใหม่ นับเป็นครั้งแรกของรถแข่งในระดับ GT จากปอร์เช่ ที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือสุดพิเศษระดับ state-of-the-art นั่นคือ ระบบหลีกเลี่ยงการชนด้วยสัญญาณเตือนจากเรดาห์ หรือ “Collision Avoid System” ให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่ยอดเยี่ยมแม้อยู่ท่ามกลางความมืด รถแข่ง LMP prototypes คันนี้ สามารถตรวจสอบสิ่งกีดขวางได้ล่วงหน้าเพียงพอที่จะลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี ออกแบบโครงสร้างนิรภัยขึ้นใหม่ เพิ่มความปลอดภัยให้แก่นักแข่งด้วยจุดยึดเบาะนั่งเข้ากับตัวถังที่แข็งแรงมั่นคง แป้นเหยียบสามารถถอดและปรับเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อให้เข้ากับสรีระของนักขับแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม

911_rsr_05

ในแง่ของขั้นตอนการซ่อมบำรุง เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมากสำหรับปอร์เช่ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) ชิ้นส่วนตัวถังซึ่งสร้างขึ้นจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ สามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วด้วยการดีไซน์รูปแบบการติดตั้งที่ชาญฉลาด ยิ่งไปกว่านั้น การปรับแต่งระบบช่วงล่างยังสามารถทำได้ด้วยวิธีการที่ง่ายดายและใช้ระยะเวลาที่น้อยลงอีกด้วย

 

การตกแต่งลวดลายตัวถังภายนอกที่โดดเด่นสวยงามของปอร์เช่ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) เกิดขึ้นด้วยกรรมวิธีแบบใหม่ นับเป็นครั้งแรกในการเปลี่ยนแปลงทิศทางของงานดีไซน์ที่สื่อให้เห็นถึงความชัดเจนและแสดงออกซึ่งความแข็งแกร่งของปอร์เช่ในวงการมอเตอร์สปอร์ต เมื่อพิจารณาจากมุมสูงจะสามารถสังเกตเห็นตราสัญลักษณ์ของปอร์เช่ซึ่งประกอบด้วย     สีขาว แดง และดำ อันเป็นพื้นฐานได้อย่างเด่นชัด

911_rsr_03

Marco Ujhasi หัวหน้าส่วนงานของ GT Works Sport เผยว่า ในฤดูกาล 2017 ที่กำลังจะมาถึงนั้น โรงงานปอร์เช่คาดหวังว่าจะสามารถดำเนินการจัดส่งรถแข่ง 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) เข้าร่วมรายการแข่งขัน รวม 19 รายการ หรือคิดเป็นระยะเวลาที่วิ่งในสนามมากกว่า 140 ชั่วโมง ทั้งนี้ ด้วยจำนวนรถแข่งของทีมโรงงานปอร์เช่จะต้องต่อสู้ขับเคี่ยวกับคู่แข่งในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ FIA World Endurance Championship (WEC) รวมทั้งรายการแข่งขันสุดทรหดตลอด 24 ชั่วโมง ที่ Le Mans และ รายการ American IMSA Weathertech Championship โอกาสสำคัญนี้ถือเป็นการเปิดตัวรถแข่งปอร์เช่คันใหม่ล่าสุดสำหรับการลงชิงชัยในฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความท้าทาย เปิดฤดูกาลสนามแรกของ IMSA ที่ Daytona วันที่ 28-29 มกราคม ทีมงานมีการเตรียมพร้อมที่ดีเยี่ยมสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้เป็นอย่างมาก นับตั้งแต่การลงสนามครั้งแรกที่ Weissach ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น ได้ทำการวิ่งทดสอบเป็นระยะทางรวมถึง 35,000 กิโลเมตร ทั้งในสนามแข่งต่างๆ ทั่วทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ เรียกได้ว่าเป็นการทุ่มเทพัฒนาที่มากยิ่งกว่ารถแข่งปอร์เช่ในรุ่น GT ของทุกคัน”

911_rsr_10

ข้อมูลทางเทคนิคของปอร์เช่ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) รุ่นปี 2017

แนวคิดหลักในการพัฒนา: รถแข่งแบบที่นั่งเดี่ยวสำหรับการแข่งขันในระดับ LM-GTE

 

น้ำหนัก/มิติตัวถัง

น้ำหนัก              1,243 กิโลกรัม (น้ำหนักพื้นฐานตามข้อกำหนดการแข่งขัน)

ความยาว            4,557 มิลลิเมตร (ไม่รวมลิ้นใต้กันชน ปีกหลัง ดิฟฟิวเซอร์)

ความกว้าง          2,042 มิลลิเมตร (เพลาล้อหน้า) / 2,048 มิลลิเมตร (เพลาล้อหลัง)

ฐานล้อ               2,516 มิลลิเมตร

 

เครื่องยนต์

แบบ 6 สูบนอน ระบายความร้อนด้วยน้ำ ตำแหน่งติดตั้งบริเวณด้านหน้าของเพลาล้อหลัง ขนาดความจุ 4,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร (CM3) ระยะชัก 81.5 มิลลิเมตร ความโตของกระบอกสูบ 102 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 510 แรงม้า (375 กิโลวัตต์) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดในการแข่งขัน เทคโนโลยี 4 วาล์วต่อสูบ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงตรงเข้าห้องเผาไหม้ ระบบหล่อลื่นเครื่องยนต์แบบ dry sump lubrication ล้อช่วยแรงแบบ single mass flywheel ลิ้นปีกผีเสื้อควบคุมด้วยไฟฟ้า

 

ระบบเกียร์

ระบบส่งกำลัง 6 จังหวะแบบต่อเนื่อง เพลาส่งกำลังคู่วางตัวในแนวนอนพร้อมชุดเฟืองดอกจอก ควบคุมการเปลี่ยนอัตราทดด้วยอิเล็กทรอนิกส์ แป้นเปลี่ยนเกียร์ shift paddles บนพวงมาลัย โครงสร้างชุดเกียร์ผลิตจากวัสดุแมกนีเซียม เฟืองท้ายแบบ multi-disc self-locking พร้อม visco unit ชุดคลัทช์คาร์บอน 3 แผ่นสำหรับการแข่งขัน

 

โครงสร้างตัวถัง

ตัวถังน้ำหนักเบาด้วยการออกแบบผสมผสานระหว่างอลูมิเนียมและเหล็กกล้า หลังคาแบบถอดออกได้พร้อมติดตั้งบู๊ชสำหรับยกเพื่อเข้าถึงตัวนักแข่งในกรณีฉุกเฉิน ถังน้ำมันแบบ FT3 ติดตั้งบริเวณด้านหน้ารถ โครงสร้างนิรภัยเชื่อมติดกับตัวถัง เบาะนั่งสำหรับการแข่งขันตามมาตรฐาน FIA 8862-2009 ยึดติดกับตัวถัง เข็มขัดนิรภัยแบบ 6 ตำแหน่งพร้อมใช้งานร่วมกับระบบ HANS แป้นเหยียบแบบปรับระดับได้ ชิ้นส่วนตัวถังผลิตจากวัสดุ CFRP ให้ความสะดวกรวดเร็วในขั้นตอนการซ่อมบำรุงและถอดประกอบ ปีกหลังพร้อมจุดยึดแบบ “swan neck” ระบบยกตัวถังด้วยลม 4 จุด four-post air jack system พร้อมวาล์วควบคุมแรงดัน ระบบดับเพลิงควบคุมการทำงานด้วยอิเล็กทรอนิกส์ และ ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้า

 

ระบบช่วงล่าง

ช่วงล่างด้านหน้า: ปีกนกคู่ โช้คอัพแบบ four-way vibration damper พร้อมคอยล์สปริงแบบคู่ (สปริง main และสปริง helper) เหล็กกันโครงแบบปรับการทำงานได้ ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบ electro-hydraulic

ช่วงล่างด้านหลัง: ปีกนกคู่พร้อมซับเฟรม โช้คอัพแบบ four-way vibration damper พร้อมคอยล์สปริงแบบคู่ (สปริง main และสปริง helper) เหล็กกันโครงแบบปรับการทำงานได้ ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบ electro-hydraulic ชุดเพลาส่งกำลังแบบ tripod

ระบบเบรก

ระบบเบรกแบบ 2 วงจรอิสระหน้าและหลังปรับตั้งการทำงานได้

ระบบเบรกหน้า: คาลิเปอร์เบรก 6 ลูกสูบสำหรับการแข่งขัน ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมแบบชิ้นเดียว จากเบรกเหล็กกล้าพร้อมครีบระบายความร้อนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 390 มิลลิเมตร ผ้าเบรกเกรดสำหรับการแข่งขัน ติดตั้งช่องดักอากาศระบายความร้อนระบบเบรก

ระบบเบรกหลัง: คาลิเปอร์เบรก 4 ลูกสูบสำหรับการแข่งขันพร้อมครีบระบายความร้อนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 355มิลลิเมตร ผ้าเบรกเกรดสำหรับการแข่งขัน ติดตั้งช่องดักอากาศระบายความร้อนระบบเบรก

 

ล้อ/ยาง

คู่หน้า: ล้ออัลลอยด์แบบฟอร์จชิ้นเดียว ขนาด 12.5Jx18 offset 25 พร้อมระบบ centre lock nut ยางรถยนต์ Michelin slick 30/68-18

คู่หลัง: ล้ออัลลอยด์แบบฟอร์จชิ้นเดียว ขนาด 13Jx18 offset 37 พร้อมระบบ centre lock nut ยางรถยนต์ Michelin slick

31/71-18

 

ระบบไฟฟ้า

บันทึกข้อมูลด้วย Cosworth Central Logger Unit พวงมาลัย multi-functional ผลิตจากวัสดุ CFRP พร้อมหน้าจอแสดงผล แป้นเปลี่ยนเกียร์ shift paddles และระบบถอดพวงมาลัยแบบ quick release ระบบหลีกเลี่ยงการชน Collision Avoid-ance System ควบคุมการทำงานสำรองผ่านการเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่ LiFePo4 ระบบไฟหน้าและไฟท้าย LED หมายเลขตัวรถแบบเรืองแสงและระบบ leader light system ไฟสองสว่างภายในห้องโดยสารแบบ black light กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS) ติดตั้งระบบจ่ายน้ำดื่มสำหรับนักแข่งระบบปรับอากาศ       แผงสวิทช์ควบคุมการทำงานบนคอนโซลกลางพร้อมป้ายบอกฟังก์ชั่นการทำงานแบบ fluores-cent labelling

 

 

 

เรื่อง : พุทธิ  ผาสุข

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

Tagsข่าวปอร์เช่ 911 RSRรถซิ่งรถซุปเปอร์คาร์รถแข่ง
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • KLX230 ใหม่ เอาใจสายลุย พร้อมปรับราคาใหม่สุดเร้าใจ
  • ฮีโน่และกรมการขนส่งทางบก ผนึกกำลังสานต่อ “โครงการสร้างนักขับมืออาชีพ ปีที่ 3” ยกระดับมาตรฐานการขนส่งไทย
  • เจาะ สเปค Xiaomi SU7 Ultra และเอสยูวีหรู YU7
  • ไพรม์มัส กรุ๊ป ยกทัพใหญ่ อวดโฉมรถใหม่ 5 แบรนด์ดังงาน Fast Auto Show Thailand 2025
  • Toyota Land Cruiser Hybrid 48V ขุมพลังไฮบริดใหม่ลุยตลาดยุโรป

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram