Nissan Patrol เจเนเรชันปัจจุบันซึ่งเปิดตัวออกมาเมื่อเดือนกันยายนปี 2024 ที่ผ่านมา มีรุ่นPatrol Nismo เป็นทางเลือกใหม่เปิดตัวออกมาที่ตะวันออกกลาง สำหรับผู้ต้องการรถเอสยูวีฟูลไซส์ดีไซส์สปอร์ตพร้อมมีสมรรถนะสูง โดยทางผู้ผลิตระบุว่าเป็นการผสานความแข็งแกร่งของรถเอสยูวีกับความละเอียดของวิศวกรรมที่มีแรงบันดาลใจมาจากสนามแข่ง

Nissan Patrol Nismo มาในสไตล์ที่สปอร์ตดุดันพร้อมเน้นสมรรถนะด้วยด้านหน้ารถที่มีกระจังหน้า V-Motion ที่ไดัรับการปรับใหม่พร้อมลาย Honeycomb Mesh 3 มิติซึ่งถูกออกแบบเพื่อให้อากาศไหลผ่านมากที่สุด นอกจากนี้ด้านข้างของกันชนหน้ายังมี Air Curtain สำหรับแบ่งการไหลผ่านของอากาศและสร้างลมหมุนวนเพื่อช่วยดึงอากาศออกจากภายในของล้อสำหรับลดการยกตัวของรถและเพิ่มแรงกด

ด้านหลังของรถมีทั้งสปอยเลอร์ปลายหลังคา Splitter หลัง Diffuser และช่องระบายอากาศเพื่อสร้างแรงกดด้านหลังของรถ รวมไปถึงมีไฟตัดหมอกหลังที่นำแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งฟอร์มูลา–อี นอกจากนี้รถยังโดดเด่นด้วยการใช้สีแดงแต่งทั้งที่กระจังหน้า Splitter หน้า สเกิร์ตข้าง Diffuser หลัง เสาหลัง และกระจกข้าง โดยภายนอกของรถมีให้เลือก 4 สีรวมทั้งสีเทา Stealth Gray ที่ถูกระบุว่าเป็น Nismo-inspired รวมไปถึงสามารถเลือกระหว่างรถสีโมโนโทนหรือดูอัลโทนหลังคาดำได้ ส่วนล้อของรถเป็นล้ออลูมินัมอัลลอยฟอร์จขนาด 22 นิ้วลาย 9 ก้านจาก Rays ที่น้ำหนักเบากว่าล้อในรถรุ่นปกติ 23 เปอร์เซ็นต์

ห้องโดยสารของรถใช้สีดำ–แดงในการแต่งพร้อมเย็บด้ายสีตัดกันที่แผงแดชบอร์ด เบาะ พวงมาลัย และประตู ส่วนวัสดุที่ใช้ในห้องโดยสารมีทั้งโลหะ หนังแท้ และ Suede-touch  โดยเบาะของรถมีการเย็บด้ายลาย Honeycomb มีโลโก้Nismo ที่พนักพิงศีรษะและมีเข็มขัดนิรภัยสีแดง นอกจากนี้ยังเพิ่มอารมณ์สปอร์ตในห้องโดยสารด้วยปุ่มสตาร์ท/สตอปสีแดง พื้นผิวลายคาร์บอนไฟเบอร์ และแป้นเหยียบอลูมินัม

ขุมพลังของรถเป็นเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร ทวินเทอร์โบโดยทางผู้ผลิตระบุว่ารถสเปกขายในตะวันออกกลางมีกำลัง 495 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน–เมตร ซึ่งหมายความรถมีกำลังมากกว่ารุ่นปกติ 70 แรงม้า ส่วนการนำกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อของรถเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด พร้อมมีระบบระบายไอเสีย Nismo-tuned ที่ให้เสียงเพื่อบ่งบอกถึงสมรรถนะของรถ

เพื่อรับกับกำลังที่มากขึ้น รถจึงได้รับการปรับตั้งช่วงล่างใหม่ใช้อี–แดมเปอร์ Nismo-tuned ที่ปรับระดับอัตโนมัติเรียลไทม์เพื่อให้มีการตอบสนองที่เฉียบคมขึ้นและเพิ่มเสถียรภาพให้กับรถทั้งในขณะเข้าโค้งและทางตรงยาว นอกจากนี้ยังมีการอัปเกรดระบบพวงมาลัยไฟฟ้าด้วยการปรับตั้งเฉพาะรุ่น

รถเอสยูวีรุ่นแต่งสปอร์ตจะถูกขายในภูมิภาคตะวันออกกลางตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2025 นี้เป็นทางเลือกนอกจากรุ่นพื้นฐานและ Pro-4X ที่เน้นสมรรถนะออฟโรดที่มีอยู่แล้ว ส่วนราคารถยังไม่มีออกมา

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th