ในขณะที่ GR Supra กำลังเข้าสู่ช่วงระยะสุดท้ายของอายุทำตลาด ทาง Toyota ก็มีรุ่นพิเศษออกมาขายตามภูมิภาคต่างๆ โดยที่ยุโรปนอกจากจะมีรุ่นพิเศษ A90 Final Edition เพื่อบอกลารถเจเนเรชันนี้เหมือนกับตลาดภูมิภาคอื่นแล้ว ยังมีรุ่น Lightweight Evo ที่ได้รับการเสริมแอโรไดนามิกและอัปเกรดแชสซีส์สำหรับยกระดับประสบการณ์การขับไปอีกขั้น

Toyota GR Supra Lightweight Evo ถูกเสริมแอโรไดนามิกด้วยสปอยเลอร์ Ducktail คาร์บอนไฟเบอร์ใหม่ รวมไปถึงได้รับการอัปเกรดช่องระบายอากาศที่ซุ้มล้อหน้าเพื่อปรับปรุงแอโรไดนามิกของรถให้ดีขึ้น นอกจากนี้รถยังมากับล้ออลูมินัมฟอร์จสีดำด้านขนาด 19 นิ้วและยาง Michelin Pilot Super Sport เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนน ขณะที่ห้องโดยสารของรถมีเบาะสปอร์ตหุ้ม Alcantara ปักโลโก้ GRที่พนักพิงศีรษะ พร้อมเพิ่มความสปอร์ตด้วยการเดินด้ายสีแดงทั้งที่เบาะและหุ้มคันเกียร์ รวมทั้งมีเข็มขัดนิรภัยสีแดง

นอกจากเสริมแอโรไดนามิกแล้วรถยังได้รับการอัปเกรดแชสซีส์ด้วยการปรับช็อกแอบซอร์เบอร์ควบคุมด้วยอีเล็กทรอนิกใหม่ พร้อมเปลี่ยนบูชยาง ยางแท่นเครื่อง กันโคลง และขายึดใต้พื้นรถใหม่ที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้รถทนต่อการบิดตัวได้มากขึ้น และมีการควบคุมที่ดีขึ้น รวมไปถึงมีการควบคุมแอคทีฟ Differential เพื่อปรับปรุงการลื่นไถลของรถละลดอาการหน้าดื้อโค้งของรถ

การอัปเกรดรถยังรวมไปถึงปรับในส่วนพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า เพิ่มมุมแคมเบอร์ของล้อ และใช้ดิสก์เบรก Brembo ใหญ่ขึ้นที่ล้อหน้าเป็นขนาด 374 มม. อย่างรก็ตามไม่มีการอัปเกรดในส่วนของขุมพลังจากรถมาตรฐานที่เป็นเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตรเทอร์โบที่สร้างกำลังขับเคลื่อนออกมา 387 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน–เมตร ส่วนระบบส่งกำลังของรถเลือกได้ระหว่างแมนนวล 6 สปีดหรืออัตโนมัติ 8 สปีด

ทาง Toyotaเริ่มรับออร์เดอร์รถสปอร์ตรุ่นพิเศษทันทีโดยตั้งราคาไว้ที่ 78,950 ยูโร และไม่ได้ระบุจำนวนการผลิตจำกัดของรถเอาไว้

อ่านต่อได้ที่นี่: BMW M2 CS ยกระดับการขับให้เหมาะทั้งสำหรับสนามแข่งและการใช้งานในแต่ละวัน

BMW เผยโฉม M2 CS รุ่นพิเศษผลิตจำกัดของรถคอมแพกจ์คูเป้สมรรถนะสูงเจเนเรชันปัจจุบัน หลังจากที่เคยมีทางเลือกนี้ออกมาก่อนหน้านี้เมื่อปี 2019 โดยทางค่ายกังหันฟ้า-ขาวระบุว่าเป็นการยกระดับความสนุกในการขับทั้งเมื่อเป็นอาวุธในสนามแข่งและการใช้งานในแต่ละวัน