New Honda Forza750 และ New Honda X-ADV750

New Honda Forza750 และ New Honda X-ADV750 เปิดประสบการณ์การขับขี่ที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ในทริปทดสอบสมรรถนะเพื่อการขับขี่สุดล้ำของรถจักรยานยนต์คลาส 750 ซีซี

ฮอนด้าบิ๊กไบค์ พาทัพสื่อมวลชน และอินฟลูเอนเซอร์สายรถจักรยานยนต์ ชั้นนำของประเทศไทยกว่า 50 สำนัก เข้าร่วมเปิดประสบการณ์ขับขี่กับรถจักรยานยนต์บิ๊กสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่ที่สุดในคลาส 750 ซีซี เพื่อทดสอบสมรรถนะ New Honda Forza750 และ New Honda X-ADV750 ที่ครั้งนี้มีการอัปเกรดครั้งสำคัญกับเทคโนโลยี Dual Clutch Transmission (DCT) เสริมความลื่นไหลและความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นในทุกการขับขี่ได้ทดสอบทุกเส้นทางการขับขี่ทั้งในเมือง และขับขี่แบบแอดเวนเจอร์ มุ่งหน้าจากกรุงเทพฯ – นครราชสีมา – บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 8-10 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ คณะสื่อมวลชนได้ทดสอบสมรรถนะการขับขี่อย่างเต็มที่ครั้งแรกทั้ง 2 รุ่นบนแทร็กระดับโลก อย่างสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยกิจกรรมในครั้งนี้มุ่งเน้นการพิสูจน์สมรรถนะของรถทั้ง 2 รุ่นผ่านเส้นทางที่หลากหลาย ครบทุกรูปแบบ ตั้งแต่การใช้งานในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว ไปจนถึงการขับขี่แบบแอดเวนเจอร์ที่ต้องการความเร้าใจและสมดุลของตัวรถ ซึ่งได้รับคำชื่นชมและเสียงตอบรับอย่างดีจากสื่อมวลชน โดยเฉพาะความนุ่มนวลและเสถียรภาพในการขับขี่ของเครื่องยนต์ขนาด 745 ซีซี และระบบเกียร์ DCT ของ New Honda Forza750 ที่ตอบสนองฉับไว รวมถึงโหมดการขับขี่ที่ปรับได้ตามสไตล์การใช้งานถึง 5 โหมดการขับขี่ และรองรับการเดินทางระยะไกลได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะทั้งสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและทริปท่องเที่ยวแนวทัวร์ริ่ง

อีกหนึ่งรุ่นที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ New Honda X-ADV750 ซึ่งได้รับการปรับปรุงทั้งดีไซน์และสมรรถนะ ขี่สนุกขึ้นอย่างชัดเจน ท่านั่งกระชับรับกับสรีระผู้ขับขี่ แฮนด์เดิ้ลกว้างควบคุมง่าย พร้อมระบบขับขี่อัจฉริยะที่ให้การตอบสนองทันใจทั้งทางเรียบและทางลุย ตัวรถบาลานซ์ดี ช่วงล่างแน่นหนึบ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจแม้ในสภาพถนนที่หลากหลาย

ทั้งนี้ เทคโนโลยี Dual Clutch Transmission ที่เป็นหัวใจของการอัปเกรดครั้งนี้ ถือเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของฮอนด้าบิ๊กไบค์ ซึ่งได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตลอด 17 ปี ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์แม่นยำ นุ่มนวล ลดการกระชากของตัวรถ โดยเฉพาะในการเข้าโค้งหรือขับขี่ต่อเนื่องระยะไกล

การจัดกิจกรรมทดสอบในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการแสดงศักยภาพของรถรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังสะท้อนความตั้งใจของฮอนด้าในการยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ขับขี่ในยุคใหม่อย่างแท้จริง