Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
Report
Home›Special Scoop›Report›10 สุดยอดรถแข่ง F1 ยุคหลัง 1980

10 สุดยอดรถแข่ง F1 ยุคหลัง 1980

By นันทพงศ์ ภักดีบุตร
September 18, 2018
3658
0
Share:

รถแข่ง F1 มักจะมีการเปลี่ยนแปลงกันทุกปี อาจจะเพราะการปรับสเป็กตามกฎการแข่งขันที่เปลี่ยนไปในปีต่อมา หรือไม่ก็ความต้องการไปให้มากกว่าจากที่เคยเป็นอยู่ในปีก่อนหน้านั้น แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม นี่คือ 10 รถแข่ง F1 ที่ได้รับการยอมรับว่าเจ๋งที่สุดจากผลงานที่ทำได้ในสนามแข่ง

1.McLaren MP4/4 (1988) : ไม่มีใครปฏิเสธความยอดเยี่ยมของรถแข่งรุ่นนี้ที่ใช้เครื่องยนต์ของ Honda เพราะมันคือเครื่องจักรแห่งชัยชนะที่พา Ayrton Senna และ Alain Prost คว้าแชมป์รวมกัน 15 จาก 16 รายการของปีนั้น พร้อมกับตำแหน่งแชมป์โลกประเภทนักแข่งของ Senna ซึ่งเป็นสมัยแรกของตัวเขาเองและกับการเป็นนักแข่งของทีม McLaren

2.Brawn BGP001 (2009) : ถ้า Leicester คือซินเดอเรลล่าของวงการฟุตบอล ทีม Brawn ที่ Ross Brawn ซื้อทีม Honda Racing ที่เลิกแข่งมาทำต่อ คือ สิ่งเดียวกันใน F1 และนี่คือรถแข่งพา Jenson Button สัมผัสแชมป์โลกครั้งแรกด้วยชัยชนะ 7 สนาม และเปิดสนามด้วยนักแข่งทีมเดียวกันเข้าวินในตำแหน่ง 1-2 เป็นครั้งแรกนับจากปี 1954

3.Benetton-Renault B195 (1995) : บางคนอาจจะคิดว่า B194 ดีกว่าเพราะพา Michael Schumacher และทีม Benetton คว้าแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรก แต่รถแข่งรุ่นใหม่ B195 กลับเจ๋งกว่าเพราะนอกจากจะพาทั้งคู่บรรลุผลลัพธ์เดียวกัน แต่ยังมีสถิติดีกว่า ด้วยการคว้าแชมป์กรังด์ปรีซ์ 11 จาก 17 สนามในปีนั้นจากฝีมือของ Schumacher และ Johnny Herbert

4.Ferrari F2001 (2001) : แชมป์โลกสมัยที่ 4 ของ Schumacher และเป็นสมัยที่ 2 ในสังกัดของทีม Ferrari ซึ่งความเจ๋งของรถแข่งรุ่นนี้นอกจากจะอยู่ทีเครื่องยนต์อันทรงพลังและความเร็วที่ไม่น่าเชื่อทั้งที่เมื่อต้นซีซั่นต้องถูกพัฒนาภายใต้การเปลี่ยนแปลงของกฎทั้งเรื่อง Traction Control และ Launch Control ก่อนพา Shcumacher คว้าชัย 9 สนาม

5.Ferrari F2002 (2002) : เป็นอีกตัวแข่งที่เยี่ยมไม่แพ้กัน และพานักแข่งชาวเยอรมันคว้าแชมป์โลกได้อีกสมัย แต่ทีเด็ดสุดคือ เป็นการคว้าแชมป์โลกที่รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ F1 โดยที่การแข่งขันผ่านมาแค่ 11 จาก 17 สนามเท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้ว Ferrari เอารถแข่งรุ่นนี้มาใช้ในสนามที่ 3 ของปี ซึ่งเมื่อนับรวมกันแล้ว ลงแข่ง 15 สนาม แต่คว้าแชมป์ถึง 14 สนามเลยทีเดียว       

6.Redbull RB7 (2011) : เป็นรถแข่งที่พา Sebastien Vettel คว้าแชมป์โลกสมันที่ 2 ติดต่อกัน และกลายเป็นนักแข่งที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้ติดต่อกัน 2 ปี โดยในแง่ของภาพรวมนั้นลงแข่ง 19 สนาม แต่คว้าแชมป์มาได้ถึง 12 สนาม และมีสถิติจบการแข่งขันบนโพเดี้ยมรวมกันของ Vettel และ Mark Webber ถึง 27 ครั้ง

7.Mercedes F1 W07 Hybrid (2016) : ทิ้งระยะนานถึง 18 ปีสถิติของตัวแข่ง MP 4/4 จึงมีรถแข่งหน้าใหม่เข้ามาท้าท้าย และรถแข่งรุ่นนั้นคือ W07 Hybrid ของ Mercerdes ที่ทั้ง Nico Rosberg และ Lewis Hamilton คว้าแชมป์รวมกันได้ 18 สนามจาก 20 สนามของปี ก่อนที่แชมป์โลกนักแข่งจะตกเป็นของ Rosberg

8.Renault R25 (2005) : ถือเป็นยุคใหม่ของการแข่งขันหลังจากที่ Schumacher อำลาสนามเมื่อจบปี 2004 ทำให้ Renault ผงาดขึ้นมาลุ้นกับ McLaren ก่อนที่ทั้ง Fernando Alonsoและ Giancarlo Fisichella จะช่วยกันโกยชัยชนะได้ 8 สนามจาก 19 สนาม และพา Alonso คว้าแชมป์โลกครั้งแรกของตัวเองและของทีมด้วยการเบียด Kimi Raikkonen ของ McLaren ไปอย่างเฉียดฉิว

  1. Mercedes F1 W06 Hybrid (2015) : ไม่มีใครสงสัยในความยอดเยี่ยมที่ประกอบกันขึ้นเป็นทีม Mercedes โดยเฉพาะในส่วนของรถแข่งนั้น W06 Hybrid ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการพา 2 นักแข่งของทีมคว้าแชมป์ถึง 15 จาก 19 สนาม และพังเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้นเองในระหว่างการแข่งขัน

10.Williams FW18 (1996) : หลังขับเคี่ยวกับ Schumacher มานานในที่สุดก็ถึงวันที่ Damon Hill ไปถึงฝั่งเหมือนคนอื่นบ้าง และรถแข่ง FW18 ที่ใช้เครื่องยนต์ของ Renault ก็มีส่วนช่วยเขาอย่างมาก โดยชัยชนะใน 12 ครั้งของทีมจากที่ลงแข่ง 16 สนามเป็นชัยชนะของ Hill ถึง 8 สนามด้วยกัน

 

เรื่อง กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสารยานยนต์รถจักรยานยนต์รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th

 

TagsF1รถแข่งรถแข่ง F1
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • KLX230 ใหม่ เอาใจสายลุย พร้อมปรับราคาใหม่สุดเร้าใจ
  • ฮีโน่และกรมการขนส่งทางบก ผนึกกำลังสานต่อ “โครงการสร้างนักขับมืออาชีพ ปีที่ 3” ยกระดับมาตรฐานการขนส่งไทย
  • เจาะ สเปค Xiaomi SU7 Ultra และเอสยูวีหรู YU7
  • ไพรม์มัส กรุ๊ป ยกทัพใหญ่ อวดโฉมรถใหม่ 5 แบรนด์ดังงาน Fast Auto Show Thailand 2025
  • Toyota Land Cruiser Hybrid 48V ขุมพลังไฮบริดใหม่ลุยตลาดยุโรป

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram