เปิดตัว! Honda CR-V เจนฯ 5-ใส่เครื่องยนต์1.5 เทอร์โบ

ไม่ต้องลือกันอีกแล้ว Honda จัดงานแนะนำ All-new CR-V ที่เมืองดีทรอยต์ ประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยมาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.5-liter DOHC พร้อมห้องโดยสารที่มีพื้นมากที่สุดของรถในระดับเดียวกัน และเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับ-ความปลอดภัยสุดล้ำสมัย

2017 Honda CR-V

นับตั้งแต่เปิดตัวเจนเนอเรชั่นแรกเมื่อปี 1997 CR-V ครองตำแหน่งรถยนต์เอสยูวีขายดีของสหรัฐฯ มาตลอดระยะเวลาร่วม 2 ทศวรรษ โดยมียอดขายรวมสูงกว่า 4 ล้านคัน ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะให้สื่ออเมริกันได้สัมผัสเจนเนอเรชั่นที่ 5 เป็นกลุ่มแรก

2017 Honda CR-V

2017 CR-V ที่ขายในสหรัฐฯ ตั้งแต่รุ่น EX ขึ้นไปจะเป็นครั้งแรกที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.5-liter DOHC Direct-injected ที่มีกำลัง 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 179 ฟุต-ปอนด์ เหมือนใน Honda Civic ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน แต่จะมีเครื่องยนต์ 2.4-liter DOHC Direct-injected i-VTEC ให้เลือกใช้ในรุ่นล่างสุด LX โดยทั้ง 2 เครื่องยนต์จะใช้เกียร์ CVT ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Honda G-Shift

อย่างไรก็ตาม Honda ระบุเพียงว่าเทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จของพวกเขามีอัตราประหยัดน้ำมันดีที่สุดในรถยนต์คอมแพ็กต์เอสยูวีตามมาตรฐานของสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (อีพีเอ) แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขออกมา

2017 Honda CR-V

ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขึ้นถึงจะถูกกำหนดให้เป็นรถยนต์ 5 ที่นั่งตามเดิม จากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าอาจถูกขยายเป็นรถแบบ 7 ที่นั่ง โดยระยะฐานล้อยาวขึ้น 1.6 นิ้ว ทำให้คนนั่งเบาะหลังมีพื้นที่ช่วงขา 40.4 นิ้ว มากกว่ารุ่นก่อน 2.1 นิ้ว และหากพับเบาะแถวที่ 2 ลงหมดจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระ 39 ลูกบาศก์ฟุต หรือราว 1,104 ลิตร หากเป็นคู่แข่งในตลาดสหรัฐฯ จัดว่าเท่ากับ Ford Edge เลยทีเดียว

2017 Honda CR-V

ออปชั่นใหม่ๆ ถูกติดตั้งเข้ามาเป็นครั้งแรกที่น่าจะถูกใจคนใช้รถเอสยูวีมากที่สุดคงเป็นระบบ Hands-Free Access Power Tailgate โดยเจ้าของรถเพียงแค่พกกุญแจไว้กับตัวสามารถเปิด-ปิดท้ายรถโดยอัตโนมัติเพียงแค่ยื่นเท้าเข้าไปด้านล่างกันชนท้ายที่มีเซนเซอร์ติดตั้งอยู่ พร้อมติดตั้งกระจังหน้า Active Shutter Grille ที่ช่วยลดค่าแรงต้านอากาศ (Drag Coefficient) เพื่อให้รถมีประสิทธิภาพในการขับมากกว่าเดิม

จุดอื่นที่น่าสนใจคงจะเป็นไฟหน้าทรง Wing-shaped LED DRL, เสาเอที่มีขนาดเล็กลงทำให้มุมมองการขับชัดเจนขึ้น, จอทัชสกรีนควบคุมความบันเทิงภายในรถขนาด 7 นิ้วรองรับการใช้งานสมาร์ทโฟนทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบความปลอดภัย Honda Sensing ที่เพิ่มเทคโนโลยีใหม่เข้ามาคือ Blind Spot Information (BSI), Rear Cross Traffic Monitor (CTM) และ Auto High Beam (HSS)