Grand Prix Online

Main Menu

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us

logo

Header Banner

Grand Prix Online

  • HOME
  • AUTO NEWS
    • Bizz News
      • NEW COMER
      • MODEL/MINORCHANGE
      • WORLD MOVEMENT
      • Corporate News
    • Achive
      • Car
      • Motorcycle
    • Promotion
    • Motorsport
      • MOTORSPORT NEWS
      • RACE RESULT
  • Motorcycle
    • Round Up News
    • NEW MODEL
    • Bike Technic
  • SPECIAL SCOOP
    • TOKYO MOBILITY
    • Test drive
    • REPORT
    • Classic Car
    • Interview
    • Modified
    • Technology
    • Tip&Technic
    • Insurance Tips
    • Variety Scoop
    • BOY’S TOY
    • Video
  • ABOUT US
    • ADVERTISING
    • CONTACT US
    • PRIVACY POLICY
  • INVESTOR RELATIONS
  • Work with us
Report
Home›Special Scoop›Report›รู้ไหมไฟ Pop-up หายไปไหน ?

รู้ไหมไฟ Pop-up หายไปไหน ?

By นันทพงศ์ ภักดีบุตร
June 9, 2016
10755
0
Share:

ในยุคหนึ่งของอุตสาหกรรมรถยนต์ ไฟหน้าแบบ Pop-Up หรือแบบกระเด้งขึ้นมาเมื่อมีการเปิดไฟหน้ารถ คือ เทรนด์และแฟชั่นยอดนิยมที่ไม่ได้ระบาดอยู่แค่ตลาดรถสปอร์ตเท่านั้น แต่ยังลุกลามเข้าสู่ตลาดรถยนต์นั่งด้วย ซึ่งเราจะเห็นว่าในช่วงทศวรรษที่ 1970 ไล่ไปจนถึงต้นทศวรรษที่ 1990 นื่คือเทรนด์สุดสปอร์ต โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น

แต่อยู่ดีๆ มันหายไปได้อย่างไร ?

ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่าไฟหน้าแบบ Pop-Up ถือเป็นสไตล์หนึ่งของการออกแบบรถยนต์ที่ได้รับความนิยม และถูกรวมอยู่ในกลุ่มไฟหน้าที่เราเรียกว่า Hidden Headlamp ซึ่งในแวดวงการออกแบบรถยนต์ บางครั้งไฟหน้าอาจจะไม่ได้โผล่ออกมาเป็นดวงๆ ให้เห็นเหมือนกับปัจจุบัน แต่ซ่อนตัวอยู่อย่างกลมกลืนกับตัวถัง และจะส่องสว่างขึ้นมาเมื่อมีการเปิดใช้ เช่น Pontiac GTO รุ่นปี 1968 หรือ Dodge Charger รุ่นแรก เป็นต้น

จากหลักฐานที่มีการสืบสาวลงไป ว่ากันว่ารถยนต์รุ่นแรกที่ใช้ไฟหน้าแบบ Pop-Up คือ Cord 810 ที่เปิดตัวย้อนหลังไปในปี 1936 แต่ในการใช้งานตอนนั้นต้องอาศัยแรงงานของคนขับในการเปิดขึ้นเอง จนกระทั่งในปี 1938 GM ได้เปิดตัวต้นแบบที่เรียกว่า Y-Job  นั่นก็เลยทำให้แวดวงของไฟหน้าสไตล์นี้มีการพัฒนาขึ้นด้วยการใช้ระบบไฟฟ้าเข้ามาควบคุม

ไฟหน้าแบบ Pop-Up ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ 1960 เป็นต้นมา และมาฮ็อตสุดๆ ในทศวรรษต่อมา โดยมีรถยนต์หลายต่อหลายรุ่นในตลาดหันมาใช้ไฟหน้าแบบนี้ ซึ่งเมื่อมองในแง่ของความสวยงามและความแปลกใหม่แล้วถือว่า ได้คะแนนเต็มสิบ เช่นเดียวกับเรื่องของหลักอากาศพลศาสตร์ หรือ Aerodynamic ที่ผู้ออกแบบสามารถสร้างสรรค์รถยนต์ให้ความเพรียวลม โดยวที่ไม่ต้องกังวลกับตำแหน่งของไฟหน้ามากนัก เพราะสามารถออกแบบส่วนหน้าของตัวถังให้ลาดเทได้ตามความต้องการ (แต่เมื่อเปิดไฟหน้าขึ้นมาใช้งาน กลายเป็นคนละเรื่องเลย)

pop up

จริงๆ แล้วในบางรัฐของสหรัฐอเมริกา มีการห้ามไม่ให้ใช้ไฟหน้าแบบนี้อีก เนื่องจากเหตุผลในด้านความปลอดภัย เพราะอย่างที่เกริ่นในพารากราฟข้างต้น พอนักออกแบบคำนึงถึงแต่เรื่องของความเพรียวลม ทำให้การติดตั้งไฟหน้าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และส่งผลต่อเนื่องไปยังความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งในบางผู้ผลิตที่ต้องการรุกตลาดที่นี่ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงรถยนต์ของตัวเอง เช่น ยกตัวถังให้มีความสูงจนได้ระดับที่กฎหมายกำหนด

นอกจากนั้น ในบางประเทศ เช่น ยุโรป ที่มีการทดสอบชนจะมีการทดสอบในส่วนของการชนคนเดินถนนด้วย เพื่อดูว่ารถยนต์รุ่นนั้นๆ ถูกออกแบบตัวถังด้านหน้าที่เอื้อประโยชน์ในการลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บต่อคนเดินถนนมากน้อยแค่ไหน และไม่ต้องห่วงว่ารถยนต์หรือรถสปอร์ตที่ใช้ไฟหน้าแบบ Pop-Up จะได้คะแนนในส่วนนี้ต่ำ หรือตกเลยก็มี เพราะมีชิ้นส่วนที่แหลมๆ ของกรอบไฟโผล่ขึ้นมา ซึ่งนั่นก็เป็นการบีบกลายๆ ในการทำให้ผู้ผลิตรถยนต์เริ่มหันมามองเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม กฎหมายคือ ส่วนหนึ่ง แต่ประเด็นสำคัญที่สุด และอาจจะมากกว่าเหตุผลข้างบน เห็นจะเป็นเรื่องของ ‘ต้นทุน’ เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับไฟหน้าแบบปกติแล้ว ไฟหน้าแบบ Pop-Up มีชิ้นส่วนที่ซับซ้อน และมากกว่าระบบไฟหน้าปกติ แล้วมีเหตุผลอะไรที่ผู้ผลิตรถยนต์จะต้องมาเพิ่มต้นทุนในส่วนนี้ ดูอย่าง Honda NSX รุ่นแรกเมื่อมีการไมเนอร์เชนจ์ก็เปลี่ยนมาเป็นไฟกรอบธรรมดา เช่นเดียวกับ Mazda RX-7 รหัส FD3S

เมื่อพิจารณาจากปัจจัยรอบด้านร่วมกับเรื่องต้นทุนที่แพงกว่า ยุ่งยากกว่าทั้งในเชิงผลิต และการดูแลรักษา บวกกับเหตุผลอีกยิบย่อยที่ดูแล้วจะเป็นลบมากกว่าบวก จึงไม่น่าแปลกใจที่ไฟแบบ Pop-Up จะหายไปจากตลาดรถยนต์ โดยว่ากันว่ารถยนต์รุ่นสุดท้ายที่ใช้ไฟแบบนี้คือ Chevrolet Corvette C5 และ Lotus Esprit ที่เลิกผลิตในช่วงเวลาใกล้เคียงกันในปี 2005

 

 

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

TagsChevrolet Corvette C5Honda NSXLotus EspritไฟPop-up
0
Shares
  • 0
  • +
  • 0
  • 0

บทความแนะนำที่น่าสนใจ

บทความ รีวิว รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านสมรรถนะ ที่น่าสนใจ
บทความ รถออกใหม่ ที่น่าสนใจ
บทความ รถครอบครัว ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านราคารถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านดีไซน์รถ ที่น่าสนใจ
บทความ ด้านการซื้อรถ ที่น่าสนใจ
บทความเรื่องรถที่น่าสนใจ

About

logo_grandprix_online2016full

Grandprix Online กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ ผู้นำข่าวสารยานยนต์

Thailand Automotive news leader and auto show. Our mission is the leading source of news about the global automotive industry.

Recent Posts

  • BYD Sealion 5 DM-I ลุยตลาดรถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดราคาจับต้องได้ง่ายที่ฟิลิปปินส์
  • Audi ปรับโฉมศูนย์บริการราชพฤกษ์ นำเสนอบริการครบวงจร-พร้อมจัดโปรฯ รุ่นยอดนิยม
  • เปิดตัว Lamborghini Temerario ซูเปอร์คาร์ขุมกำลัง PHEV-เริ่มต้น ราคา 23.76 ล้านบาท
  • Volkswagen Golf GTI Edition 50 ฉลอง 50 ปีด้วยการเพิ่มความแรงและสมรรถนะ
  • รู้มั้ย รถสีไหน นกขี้ใส่มากที่สุด

Advertising

สนใจลงโฆษณา
ติดต่อ : 02-522-1731-8

  • Facebook
  • Youtube
  • Instagram